มวยไทยในงานเทศกาลไทย นครคุนหมิง

มวยไทยในงานเทศกาลไทย นครคุนหมิง

งานเทศกาลไทย ณ นครคุนหมิง ประจำปี 2558 สถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง ได้รับความกรุณาและความอนุเคราะห์จากมูลนิธิไทย กระทรวงการต่างประเทศ

จัดให้มีคณะมวยไทย แสดงบนเวทีงานเทศกาลไทย และได้รับการกล่าวขานว่ามวยไทย“ทรงพลัง ท่วงท่าสง่า น่าเกรงขาม”

คณะมวยไทยของมูลนิธิไทยจำนวน 14 คน ล้วนแล้วแต่เป็นหนุ่มสาวยุคใหม่ที่รักในศิลปะมวยไทย โดยผู้แสดงอายุน้อยที่สุด คือ 13 ปี ร่วมแสดงด้วยอย่างน่าชื่นชม ดังนั้น การแสดงหรือการนำเสนอมวยไทยบนเวทีจึงเป็นธรรมชาติ โดยแสดงออกทางหน้าตา ท่าทาง อารมณ์ ควบคู่ไปกับการนำเสนอแม่ไม้มวยไทย จนทำให้สื่อมวลชนชาวจีนกล่าวขานกันว่า“มวยไทย ทรงพลัง ท่วงท่าสง่า และน่าเกรงขาม”

การนำเสนอมวยไทยต่อสายตาของชาวจีน มีข้อกำหนดโดยทางการจีนว่า จะต้องไม่รุนแรง ดังนั้น คณะนักมวยไทยของมูลนิธิไทย จึงนำเสนอศิลปะแม่ไม้มวยไทย ผ่านการแสดงที่คล้ายคลึงกับการแสดง Stunt Show ที่ผู้ชมจะนับว่าเป็นการแสดง ไม่ใช่การต่อสู้ แต่เป็นการแสดงที่นักมวยทุกคนมีทักษะ ที่ทำให้ผู้ชมเห็นว่า ถูกชก ถูกเตะ ถูกถีบจริง และตามแรงของหมัด เท้า ทำให้นักแสดงอีกคนกระเด็นออกไปและแสดงท่าเจ็บหรือนอนบนเวที

ดังนั้น การรำแม่ไม้มวยไทย รวมทั้งนำเสนอแม่ไม้มวยไทยเสมือนจริงแบบ Stunt Show จึงสร้างความสนุก ตื่นเต้น กับท่าทีและท่วงท่าคล้ายชมภาพยนตร์แอคชั่นบนเวทีการแสดง

ความสามารถและทักษะชั้นสูงของคณะนักแสดงมวยไทยของมูลนิธิไทย ทำให้ผู้ชมชาวจีนต่างประทับใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าการแสดงบนเวทีสามารถสะกดผู้ชมให้สนุก ตื่นเต้น เช่นเดียวกับการได้เข้าชมภาพยนตร์ไทยยอดนิยมของชาวจีน คือ องค์บาก ซึ่ง จา พนม แสดงเป็นตัวเอกของเรื่องที่มีความสามารถนำเสนอศิลปะมวยไทยและท่วงท่าผาดโผน เช่น กระโดดเหยียบไหล่นักแสดงอีก 2 คนได้

การนำเสนอมวยไทยบนเวทีแบบการแสดงบทบู๊ของภาพยนตร์เรื่อง องค์บาก ทำให้ผู้ชมตะลึงในความสามารถและทักษะของคณะนักแสดงชายหญิงของมูลนิธิไทย ซึ่งแสดงสดและทุกบทบู๊ ไม่มีความผิดพลาดจึงทำให้ผู้ชมประทับใจในความเป็นมืออาชีพ

การนำเสนอมวยไทยที่สมจริง แม้ว่าผู้ชมจะรู้ว่าเป็นการแสดงที่มีการซักซ้อมบทกันมาอย่างดีแล้วของนักแสดง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องปรบมือให้กับความสามารถของนักแสดงแต่ละคน

มวยไทยในประเทศไทย อาจจะเป็นเรื่องธรรมดาในสายตาของชาวไทย แต่มวยไทยในนครคุนหมิง เป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลย เพราะสนุกและตื่นเต้น สถานกงสุลใหญ่ฯ ประชาสัมพันธ์ว่า ในงานเทศกาลไทยจะมีการแสดงมวยไทย ก็สามารถสร้างกระแสความตื่นเต้น ความสนุก ความน่าสนใจได้เป็นอย่างมากแล้ว โดยเฉพาะสื่อมวลชนจีนยกย่องว่า มวยไทยเป็นศิลปะป้องกันตัวชั้นเยี่ยม และยังเป็นการออกกำลังกายที่ใช้ทุกส่วนของร่างกายอีกด้วย ดังนั้น การลดน้ำหนักด้วยมวยไทยจึงเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยมของหนุ่มสาวชาวจีนยุคใหม่

ดังนั้น วัฒนธรรมหรือมวยไทย จึงเป็นกระแสนิยมไทยในประเทศจีน ทำให้ชาวจีนนิยมมาท่องเที่ยวประเทศไทย ชมสถานที่สำคัญ สถานที่ท่องเที่ยว ชิมอาหารไทย ชมมวยไทย ทดลองสปาไทย ซื้อของกินหรือของฝากกลับไปประเทศจีนครบทั้งวงจร เช่นเดียวกันชาวไทยไปถึงที่ไหนก็ต้องถ่ายรูป แนะนำ และบอกต่อเพื่อนๆ และก่อนกลับก็ต้องหิ้วของฝากกลับประเทศไทยให้ครบจำนวน เพื่อแจกให้ญาติสนิทมิตรสหายตามระเบียบ

ในปัจจุบัน มวยไทยจึงไม่ใช่เพียงเรื่องธรรมดาอีกต่อไป เพราะถือเป็นสัญลักษณ์สำคัญของประเทศไทย คู่กับสินค้าไทยชนิดอื่นๆ มวยไทยจึงเป็นสัญลักษณ์ที่ถูกกล่าวถึงประเทศไทยอีกรูปแบบหนึ่งอีกด้วย

การแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยบนเวทีเทศกาลไทย ได้รับการตอบรับอย่างดียิ่งจากผู้เข้าชม โดยมีเด็กและเยาวชนที่มาชมงาน ขึ้นเวทีไปร่ายรำท่ามวยไทยตามนักแสดงได้อย่างน่าสนใจ โดยพ่อแม่ผู้ปกครองต่างยกกล้องมือถือขึ้นถ่ายภาพเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน ทั้งนี้ ก็สอดคล้องกับจริตของชาวจีนที่มีความสนใจ และไม่อายที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงด้วยทุกครั้งที่มีโอกาส ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีที่ชาวจีนมีความสนใจในมวยไทยอย่างแท้จริง

โอกาสของมวยไทยที่จะเป็นกีฬาอีกประเภทหนึ่งของกีฬาโอลิมปิกก็มีอยู่มาก โอกาสของค่ายมวยไทยที่จะมีนักท่องเที่ยวชาวจีนขอสมัครเข้าเรียนระยะสั้นก็มีอยู่อย่างชัดเจน ดังนั้น กางเกงมวยไทยในปัจจุบันจึงถือเป็นสินค้าขายดีอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทย นอกจากนี้ มงคลหรือที่นักมวยสวมบนศีรษะ เพลงประกอบพิธีการไหว้ครูมวยไทย ก็เป็นที่ต้องการของแฟนคลับมวยไทยอีกด้วย

ในปัจจุบันมวยไทยดั้งเดิม ก็มีที่เวทีมวยลุมพินี และเวทีมวยราชดำเนิน แต่ในจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอื่นๆ ของไทย ก็มีการนำเสนอมวยไทยให้แก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นจำนวนมาก ความแตกต่างและความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นมวยไทยที่ชกกันจริงๆ และมีการตัดสินแพ้ชนะกันจริงๆ ก็ยังมีมวยไทยที่เป็นการแสดง ซึ่งเหมาะกับนักท่องเที่ยวทั่วไปซึ่งชื่นชอบศิลปะของมวยไทยเท่านั้น

นอกจากนี้ มวยทะเล ก็เป็นการนำเสนอมวยไทยได้อย่างน่าสนใจ และสนุกสนาน เพิ่มความขบขัน และเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักท่องเที่ยว ซึ่งไม่ได้เห็นมวยไทยแบบดั้งเดิม

กระแสนิยมมวยไทยในประเทศจีนมีอยู่อย่างเห็นได้ชัด โดยในปี 2558 คาดว่าน่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านคน ดังนั้น จึงเป็นโอกาสของไทยและคนไทยทุกคน ที่จะทำหน้าที่เป็นเจ้าบ้านที่ดี ต้อนรับชาวต่างชาติให้สมกับที่เราเคยได้ยินกันอย่างคุ้นหูว่า “ใครมาถึงเรือนชาน ก็ให้การต้อนรับขับสู้” ส่วนผู้ประกอบการไทย ก็ควรจะนำเสนอสินค้าและผลิตภัณฑ์ เพื่อจะสามารถต่อยอดกระแสนิยมไทยในประเทศจีนแบบนี้ ให้เป็นประโยชน์ในการสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยการนำเสนอความเป็นไทยและวัฒนธรรมไทยให้แก่เพื่อนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่จะมาประเทศไทยต่อไป