อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน ?

อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน ?

ประโยคคำถามระดับชาติที่สื่อทุกสำนัก นักคณิตศาสตร์ สังคมศาตร์ ไสยศาสตร์ ที่ให้ความเห็น

ส่วนนักการตลาดอย่างผมได้ยินแล้วผ่านไปเพราะคิดไม่ออกจริงๆ ว่าต้องตอบว่าอะไร แต่มันก็ทำให้ผมได้ "ฉุกคิด" อะไรบางอย่าง

เรากำลังอยู่ในยุคที่ผู้คนในสังคมใช้ชีวิตประจำวันเกือบทั้งวันกับโทรศัพท์มือถือและโลกออนไลน์ แชทแทนการคุย อวดรูปภาพบน Facebook หรือ IG แทนการคุยโม้โอ้อวด อ่านข่าวจากจอโทรศัพท์ 5 นิ้วแทนหนังสือพิมพ์ขนาดใหญ่ ยิงปืนใหญ่ใส่เกาะ (เกม) แทนการแกล้งเคาะหัวเพื่อน สังคมเอาเรื่องเล็กน้อยมาเป็นเรื่องใหญ่โต ทั้งเอาเรื่องซีเรียสมาเป็นเรื่องขำขัน และเรื่องไร้สาระมาเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างเมามันส์ เช่น ฟ้องครูอังคณา เหนียวไก่หาย ซักผ้าบ่นแม่ ชุดเดรสสีอะไร

ล่าสุดกับคำถามที่ว่า "อยากให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวาน วันนี้จะได้เป็นวันศุกร์ ตกลงวันนี้คือวันอะไร?”

เมื่อสังคมที่กำลังพัฒนาอย่างประเทศไทยเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว นักการตลาดหรือผู้ประกอบการที่มีสินค้าและบริการอยู่จะทำอย่างไรที่จะเข้าถึงและครองใจกลุ่มเป้าหมายได้ในยุคนี้

ถึงแม้ว่าสังคม "ยุคดิจิทัจ" กำลังเฟื่องฟู สินค้าประเภท Smart Phone และบริการจาก Operator มีผลประกอบการที่สูงขึ้นอย่างมาก แต่น่าแปลกว่าตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลทั้ง PC และ Laptop กำลังหดตัว คอมพิวเตอร์จึงเหลือเพียงการใช้งานสำหรับการศึกษาและสถานที่ทำงาน แต่การใช้ส่วนตัวในที่พักอาศัยแทบจะไม่ได้เห็นคอมพิวเตอร์กันแล้ว ไม่รวมกล้องดิจิทัลที่กำลังตายตามรุ่นพี่อย่างกล้องฟิล์มเหลือเพียงแต่ช่างภาพมืออาชีพเท่านั้นที่ใช้ โดยผู้คร่ำวอดในวงการ IT ยอมรับว่ายังไม่เห็นอนาคตของตลาดว่าจะมีสินค้าอะไร มาดึงตลาดให้กลับมา "สู้" กับ Smart Phone ได้ในอีก 2 ปีข้างหน้าเป็นอย่างน้อย

ส่วนวงการสินค้าทั่วไปตั้งแต่ ของใช้ส่วนตัว ร้านอาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ยานยนต์ ธนาคาร สถาบันการศึกษา ร้านค้าปลีก หรือ วัสดุก่อสร้าง ได้ให้ความสำคัญกับการทำการตลาดออนไลน์มากขึ้น เห็นได้จากงบประมาณที่สูงขึ้นหลายเท่าตัว และความหลากหลายของช่องทางการสื่อสารและวิธีการเข้าถึงผู้บริโภคที่แตกต่างกัน ซึ่งสื่อในปัจจุบันก็มีมากมายและเฉพาะกลุ่มมากขึ้น เช่น ฟรีทีวีจาก 5 ช่องเป็น 24 ช่อง, โทรศัพท์มือถือที่เข้าถึง content ได้อย่างสมบูรณ์, ช่อง Youtube ที่มีคนรุ่นใหม่จำนวนมากที่สร้างสรรค์ผลงานใน Youtube และประสบความสำเร็จมีฐานคนดูจำนวนมากและสามารถหาสปอนเซอร์สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

การเปลี่ยนแปลงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ และการอยากให้อนาคตเป็นเหมือนในอดีต ให้พรุ่งนี้เป็นเมื่อวานก็ไม่ใช่เรื่องที่เกินความจริงเช่นกัน โดยความเป็นอดีตนั้นไม่ได้หมายถึง สินค้าเดิม บริการเดิม แต่หมายถึงกลิ่มหอมหวานของความสำเร็จ ความภาคภูมิใจ และกำไรที่พึงประสงค์ (หนังเรื่อง Birdman ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมรางวัลออสก้าปีนี้ ก็มีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับการยึดติดในความสำเร็จในอดีตที่ยังคงเป็นหนามตำใจพระเอกของเรื่อง) เพียงแต่เราคงต้อง "ปรับตัว" ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนสินค้า หากสินค้ายังไม่ตกยุค ก็ปรับเพียงการบริการหรือวิธีการการทำงาน หากสินค้าล้าสมัยก็ต้องคิดกันยกใหญ่เหมือนกันว่าทำอย่างไรดี รวมถึงศึกษาการบริหารการเปลี่ยนแปลง หรือ Change Management อาจเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย

สำหรับผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่กำลังอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ และหารายได้เสริมที่ส่วนใหญ่จะประกอบกิจการซื้อมาขายไปในสินค้าที่เป็นกระแส ความรวดเร็วในการปรับตัวจำเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากสินค้าในปัจจุบันที่ดังเปรี้ยงปร้างมักไม่ยั่งยืน พึงสังเกตเทรนด์ล่วงหน้า จงเป็นกลุ่มแรกๆที่ขยับตัว ขายราคาสูงใช้กลยุทธ์ Skimming Price และรีบออกจากตลาด ล้างสต๊อก เพื่อหาสินค้าใหม่ที่จะเป็นเทรนด์ในอีก 2 เดือนข้างหน้า แต่อย่าลืมว่าหากทำนายสินค้าผิด ก็มีโอกาสจมต้นทุนสินค้าได้เหมือนกัน

นอกจากนี้ ยังมีสินค้าตามฤดูกาลที่เป็นของตายของพ่อค้าแม่ค้าอยู่แล้ว เช่น เสื้อแดงตรุษจีน เสื้อลายดอกสงกรานต์ เป็นต้น แต่ตัวอย่างสินค้าตามกระแสนั้นจะดังเป็นพักๆ โดยมีศิลปินดาราเซเลป หรือเนตไอดอล เป็นผู้มีอิทธิพลหลัก ตัวอย่างเช่น สร้อยข้อมือหินนำโชค น้ำคลอโรฟิลด์ สินค้าเกี่ยวกับจักรยาน กล้องฟรุ้งฟริ้ง เป็นต้น

สุดท้ายไม่ว่าจะเป็น เมื่อวาน วันนี้ พรุ่งนี้ หรือวันไหนๆ หากเราพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่พบอุปสรรค หรือเปลี่ยนเพื่อวันพร่งนี้ที่ดีกว่า

วันนี้ก็จะเป็น “วันสุข” ตลอดไป