"ไม่ควรให้เดินทาง" สัญญาณจากอัยการสูงสุด

"ไม่ควรให้เดินทาง" สัญญาณจากอัยการสูงสุด

เรียกว่าต้องลุ้นกันเป็นวันๆ ไปสำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

     หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ไม่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ ตามคำขอ ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ต้องเบนเข็มจากต่างประเทศไปแวะเวียนอยู่ที่บ้านเกิดจังหวัดเชียงใหม่แทน ไปพักผ่อนและทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับบรรพบุรุษ ร่วมกับญาติพี่น้องตระกูล "ชินวัตร" พร้อมเข้าพักที่หมู่บ้านกรีนวัลเลย์ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

     ในเมื่อคสช.ไม่เห็นดีเห็นงาม ที่จะให้ออกนอกประเทศ การเคลื่อนไหวของยิ่งลักษณ์ ย่อมเป็นที่หมายตาเป็นเรื่องธรรมดา ที่ต้องคอยจับจ้องการเคลื่อนไหว สำคัญยิ่งช่วงเวลาก็งวดเข้ามาทุกทีกับการ ส่งตัวยิ่งลักษณ์ ให้อัยการสูงสุด เป็นผู้ฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง วันที่ 19 ก.พ.นี้ ซึ่งเหลือเวลาอีก7-8 วัน

     ว่ากันว่าการไม่ได้รับตอบสนองให้เดินทางไปพบพี่ชายของยิ่งลักษณ์ คงไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดอะไร การขออนุญาตไปช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ย่อมเป็นประเด็นขึ้นมาแน่นอน  ที่แปลกใจคือเดิมมีการกำหนดเคร่าๆ ทำนองจะส่งฟ้องศาลช่วงปลายเดือน ก.พ. หรือ มี.ค.นี้ แต่เหตุไฉนมายื่นฟ้องต่อศาลก่อน แต่ก็ถึงบางอ้อเมื่อทราบว่า อัยการ ทำสำนวนเสร็จพร้อมส่งฟ้องแล้ว

    เอาละ..จะส่งฟ้องเมื่อไหร่ วันไหน ก็ต้องส่งฟ้องอยู่ดี หนียังไงก็ไม่พ้น อยู่ที่ว่าจะช้าหรือเร็วมากกว่า แต่ท่ามกลางความช้าหรือเร็ว ก็มีความหมายต่อ ยิ่งลักษณ์ ไม่น้อย

    ยิ่งมีข่าวปรากฏทำนองมีทหารจากกองทัพภาคที่ 3 ตั้งด่านเพื่อตรวจรถ แถมมีข่าวทำนองถูกทหาร-ตำรวจติดตามความเคลื่อนไหว ยิ่งไปกันใหญ่ ที่จริงถ้าไม่คิดอะไรมาก การติดตามความเคลื่อนไหวของทหารและตำรวจ น่าจะเป็นสิ่งที่ดีเสียด้วยซ้ำ ไปไหนมาไหน มีคนคุ้มกัน หาก "ไม่เห็นเป็นอย่างอื่น" แต่ที่มีการประโคมข่าวกันใหญ่โตเมื่อวันก่อน อาจจะทำให้เกิดฉุกคิดว่า ยิ่งลักษณ์ อาจจะเปลี่ยนใจไปเส้นทางอื่นหรือเปล่า

    ยิ่งเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางกลับจากญี่ปุ่น ถึงกรณีทหารเข้าตรวจค้นรถของ ยิ่งลักษณ์ ยิ่งทำให้คิดได้เลยว่าการตรวจค้นไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร

   "คงไม่มีอะไร เขาคงเป็นกังวล ก็คงไม่มีอะไรหรอกนะ ก็เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่เขาตรวจรถทุกคัน บังเอิญเจอรถของอดีตนายกฯ พอดี พอเจอแล้วเขาคงไม่ค้นต่ออะไรมากมายอยู่แล้ว จะไปค้นอะไรกันนักหนา” นายกฯประยุทธ์ ระบุ

    แต่ที่น่าคิดคือ เมื่อนายกฯประยุทธ์ ถูกถามว่ามีการมองกันเหมือนไม่ให้เกียรติอดีตนายกฯ เท่านั้นแหละ ท่านรีบตอบทันที “ก็ให้เกียรติมาโดยตลอด นี่ก็ให้เกียรติ” ฟังดูเอาการอยู่

    นายกฯประยุทธ์ ยังบอกถึงการไม่อนุญาตให้เดินทางไปต่างประเทศ ทำนองว่า "ไม่ได้สั่งการ"เป็นเรื่องอัยการสูงสุด ได้ทำเรื่องมาเป็นเอกสาร"ผมเห็นเอกสารดังกล่าว เอกสารบอกมาชัดเจน เพียงแต่ไม่ได้เอามาเผยแพร่ให้พวกคุณดู เขาขอว่าเอาไว้ก่อน เขาใช้คำว่า "ไม่ควรให้เดินทาง" ผมก็อนุมัติตามเสนอ”

    ฉะนั้นชัดเจนงานนี้ อัยการสูงสุด น่าจะเป็นคนสั่งเบรกการเดินทางของยิ่งลักษณ์ ไม่ใช่คสช.อย่างที่หลายฝ่ายคิด  

     สำหรับ ยิ่งลักษณ์ แล้วมีผู้ใกล้ชิดยืนยันทำนอง 19 ก.พ.นี้ พร้อมจะไปปรากฏตัวต่อศาล ส่วนจะจริงเท็จอย่างไรก็ว่ากันไป แต่ความจริงแล้ววันที่ 19 ก.พ.นี้ไปหรือไม่ไปก็ได้ แต่วันที่มีการพิจารณาคดีครั้งแรกของศาลฎีกา  จำเป็นที่ต้องไปปรากฏตัวต่อหน้าศาล เมื่อถึงตอนนั้นจะเป็นอย่างไรต้องติดตาม

    อาจจะเป็นเรื่องประหลาด ที่อาจเกิดขึ้นก็ได้ ยิ่งลักษณ์ อาจจะปักหลักสู้คดี โดยไม่คิดหนีไปไหน

    แต่หากคิดกลับกัน คงตัวใครตัวมัน เพราะทางหนี..ทีไล่ มีอยู่ไม่น้อย เรื่องอย่างนี้ต้องตามติดกันยาวๆ