"ยิ่งลักษณ์"...ลุ้นระทึกพรุ่งนี้

สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ต้องตัดสินใจลงมติถอดถอนหรือไม่ถอดถอน "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมๆ กับ "นิคม ไวยรัชพานิช" อดีตประธานวุฒิสภา และ "สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" อดีตประธานรัฐสภา วันพรุ่งนี้ มีการคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 3 ชั่วโมงในการพิจารณาลงมติถอดถอนบุคคลเหล่านี้

ถือว่าคดีถอดถอนใกล้เข้าโค้งสุดท้ายเข้าไปทุกขณะ ที่ผ่านมาก็มีการวิเคราะห์กันไปต่างๆ นานา

ฉะนั้นเช้าวันศุกร์ น่าจะเป็นวันที่ทำให้ใครต่อใครอยู่ในอาการทุรนทุราย หรือไม่ก็อาจจะอยู่ในสภาพจำยอมก็เป็นได้

เอาล่ะ..กว่าจะถึงเช้าวันศุกร์ เอาเป็นว่าเช้าวันนี้ก็น่าจะเห็นภาพการแถลงปิดสำนวนของอดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ กับข้อสงสัยเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าว จะตอบตรงประเด็นหรือไม่ เป็นเรื่องที่ยังต้องลุ้นกัน หากตอบไม่ตรงประเด็นเท่ากับว่าคนถาม อาจจะถามไม่ตรงคำตอบก็เป็นได้ฉะนั้นเช้านี้เราก็จะได้รู้กัน เช่นเดียวกับ "วิชา มหาคุณ" กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ก็ต้องสรุปประเด็นข้อกล่าวหาในคดี

การแถลงปิดสำนวนด้วยตัวเองของอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ จะทำให้สมาชิกสนช. หายข้องใจจนต้องเปลี่ยนใจ ไปทางใดทางหนึ่งได้หรือไม่ เป็นเรื่องน่าคิด ฉะนั้นเช้าวันศุกร์ความน่าสนใจคงไม่ได้อยู่ที่ "นิคม ไวยรัชพานิช" หรือ "สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์" สักเท่าไร

ว่ากันว่าตอนนี้ เริ่มมีกลุ่มก้อนการที่จะโหวตลงมติของสนช.อยู่แล้ว อย่างน้อย 3 กลุ่ม ที่มีทั้งสนช.สายทหาร ข้าราชการ นักธุรกิจ นักวิชาการ เอ็นจีโอ และกลุ่ม 40 สว. โดยกลุ่มแรก ยืนกรานถอดถอน กลุ่มที่สองยังไม่ตัดสินใจขอฟังการปิดสำนวน กลุ่มที่สามคิดว่าไม่น่าจะผิด แต่ละกลุ่มจะมีพลังมากน้อยแค่ไหน เห็นทีเช้าวันศุกร์ก็น่าจะรู้กัน

ก่อนที่จะถึงวันศุกร์อะไรก็เกิดขึ้นได้ ใครจะคุยกับใคร ใครจะล็อบบี้กับใครก็ว่าไป

ฉะนั้นเสียงที่จะให้ได้ 132 เสียง อาจไม่ใช่เรื่องง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากจนเกินไป ทว่าการชี้แจงแล้วฟังไม่ขึ้น อะไรก็เกิดขึ้นได้

การที่คณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิป สนช.กำหนดให้ที่ประชุมลงมติในทางลับ ตรงนี้ต่างหากที่น่าจะเป็นประเด็นที่ชวนคิด การลงมติลับเมื่อถึงเวลาแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าใครลงมติแบบไหน

ณ เวลานี้คงมีแต่การคาดเดากันไป บ้างก็บอกว่าเรื่องนี้มีสัญญาณส่งตรงมาจาก "ขาใหญ่" ที่จะให้จัดการลงมติถอดถอน เอาล่ะ..เรื่องนี้จะเป็นจริงแค่ไหน คงอยู่ที่สมาชิก สนช.จะเป็นผู้ตัดสินมากกว่า

ที่แน่ๆ ตอนนี้เริ่มมีสัญญาณมาจากภาคเอกชนอย่าง "สุพันธุ์ มงคลสุธี" ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หนึ่งในสมาชิกสนช. บอกว่าผู้ประกอบการห่วงกรณีที่สนช.กำลังจะลงมติถอดถอนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ กังวลว่าจะเกิดต่อต้านจากกลุ่มคนบางกลุ่ม นำไปสู่ความรุนแรง กระทบความเชื่อมั่น

พร้อมๆ กับบอกว่า "สิ่งที่เป็นห่วงคือการสร้างกระแส ความแตกแยกและนำไปสู่ความรุนแรง เศรษฐกิจบ้านเราก็ไม่ดีอยู่แล้วก็จะยิ่งซ้ำเติม" นี่ก็เป็นเสียงสะท้อนจากคนที่นั่งอยู่ 2 เก้าอี้เวลานี้

การลงมติของสนช.ไม่ว่าจะออกไปทางไหน เชื่อเถอะ..ไม่มีคำว่า "บวก" จะมีก็เพียงแต่อีกฝ่ายพอใจ อีกฝ่ายไม่พอใจเท่านั้นเอง แต่ความพอใจหรือไม่พอใจ จะเกิดอะไรตามมา ถือเป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่งนับจากนี้

หรือไม่ก็อาจจะฉวยโอกาส"ลองของ" กับรัฐบาลก็เป็นได้

แม้การประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กับคณะรัฐมนตรี วันก่อน ยังมีการรายงาน สถานการณ์ความมั่นคงในภาพรวมการรักษาความสงบเรียบร้อยให้รับทราบ อยู่ในเกณฑ์ปกติ ยังไม่มีสิ่งบอกเหตุ ส่วนกลุ่มที่สนับสนุนอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ วันที่สนช.ลงมติถอดถอนก็ยังไม่มีรายงานสถานการณ์ความรุนแรง แต่ต้องติดตามดูสถานการณ์ต่อไป

นั่นแสดงว่าเหตุการณ์วันศุกร์นี้ อาจทำให้ฝ่ายความมั่นคงต้องเกาะติดสถานการณ์เช่นกัน