บทสรุปปี 2557 "ม้าศึกวิ่งหาย" เร็ว แรง ลืม (จบ)

บทสรุปปี 2557 "ม้าศึกวิ่งหาย" เร็ว แรง ลืม (จบ)

เริ่มจากคียบอร์ดของคนธรรมดาในสังคมพิมพ์ลงไปในอภิมหานครของ “โซเชียลเน็ตเวิร์ค”

สามารถกระเพื่อมกระแสสังคมได้อย่างรวดเร็ว รุนแรง โด่งดังเป็นวงกว้าง และถูกลืมไปอย่างง่ายดาย เพราะติดตามกระแสใหม่ที่โด่งดังและแปลกใหม่กว่า วงจรนี้เห็นได้อย่างชัดเจนมากขึ้นในรอบปี 2557 สัปดาห์ก่อนได้มีบทสรุปในรอบปีนี้ของ 9 เดือนแรกไปแล้ว ในช่วงปลายปีนี้มีกระแสสังคมที่เกี่ยวข้องกับการบริหารและการตลาดที่น่าสนใจ ดังนี้

ไตรมาสที่ 4 (ต.ค. - ธ.ค. 2557)

ตุลาคม “ผิดครั้งเดียวลบล้างความดีทั้งหมด” มหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ที่อินชอน เกาหลีใต้ ได้สร้างความสามัคคีกับคนในชาติได้อย่างดี ชาวไทยทุกสี ทุกภาคร่วมใจกับเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทย และโดยเฉพาะเมื่อเจอกับเล่ห์กลตุกติกของเจ้าภาพ ยิ่งทำให้เลือดไทยยิ่งสูบฉีดเข้มข้นอย่างมาก ถึงขนาดถล่มแฟนเพจของการแข่งขันจนต้องปิดไปเลยทีเดียว ทำให้ชื่อเสียงของเจ้าภาพต้องด่างพร้อยเป็นอย่างมาก

ปลายเดือนตุลาคม กรณีศึกษา “การบริหารลูกค้าเก่า” ในเหตุการณ์ “แตะขอบฟ้า” ของพี่ตูนและวงบอดี้สแลมที่ไปไม่ถึงฝั่ง หลังจากประกาศยุติการทัวร์คอนเสิร์ต “ปรากฏการณ์ ดัม-มะ-ชา-ติ” โดยก่อนจะยกเลิก ผู้จัดได้ลดราคาบัตรจาก 1,500 บาท เหลือเพียง 399 บาท หวังให้เพิ่มยอดขายตั๋วให้มากขึ้น แต่ผู้ที่ซื้อบัตรราคาเต็มก่อนหน้านั้นไม่พอใจและแสดงความเห็นอย่างกว้างขวาง จนทำให้ผู้จัดประกาศยกเลิกการแสดงที่เหลือในที่สุดเนื่องจากขาดทุน เหตุการณ์ดังกล่าวยังถูกเปรียบกับคอนเสิร์ตของเสก โลโซ ที่ให้ผู้ชมที่ซื้อบัตรต่างราคาแต่กลับมาอยู่ในโซนเดียวกันที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน

ในเดือนพฤศจิกายนแทนที่จะตื่นเต้นกับการลอยกระทงเหมือนทุกปี แต่สังคมกำลังวิพากษ์กระแสของคลิป “เหนียวไก่” ที่โด่งดังเป็นไฟลามทุ่ง พร้อมเปรียบเทียบความดังกับ เด็กน้อยที่ขายไอศกรีมเพื่อนำเงินส่งตัวเองไปแข่งกีฬาระดับภาค เข้าตำรา “ข่าวร้ายลงฟรี ข่าวดีเสียเงิน”

อีกหนึ่งสินค้าที่อยู่นอกกระแสสื่อหลัก แต่เป็นที่นิยมกันมาคือ “หินนำโชค” ที่นำมาดัดแปลงเป็นเครื่องประดับ สร้อยข้อมือ กำไล ต่างหู โดยเชื่อกันว่าหินดังกล่าวจะช่วยนำโชค เสริมดวง เพิ่มพลังงานในด้านต่างๆ ให้กับผู้สวมใส่ ซึ่งหินแต่ละประเภทก็จะมีพลังและความเชื่อที่ต่างกัน เช่น การงาน การเงิน สุขภาพ ความรัก ครอบครัว เป็นต้น เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มวัยรุ่นและดารานักแสดงชื่อดังหลายคน กรณีนี้เป็นตัวอย่างส่วนผสมที่ลงตัวของสินค้า คือ ความเชื่อ ความหวัง สุขภาพ ผนวกกับมีเซเลบริตี้เป็นต้นแบบ (Endorser) ทำให้กระแส กำไลหินนำโชค มาแรงแซงโค้งในช่วงปลายปี

ธันวาดราม่า ล่าสุดเป็นกรณีของบริษัทรถ Taxi รูปแบบใหม่จากต่างประเทศที่เรียกว่า UBER ที่ได้เปิดตัวในต้นปี โดยผู้โดยสารสามารถเรียกรถผ่านทาง Smart Phone ชำระค่าบริการผ่านบัตรเครดิต เป็นที่ถูกอกถูกใจชาวมหานครกรุงเทพเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถ ตอบโจทย์ข้อด้อย ของ Taxi ในปัจจุบัน เช่น หายาก ไม่รับคนไทย ไม่กดมิเตอร์ ส่งรถ เป็นต้น ในขณะที่เปิดตัว Uber Black ในราคาพรีเมี่ยมกว่าแท๊กซี่ ซึ่งใช้รถหรูระดับโรงแรม เช่น เบนซ์ซีคลาส โตโยต้าคัมรี่ หรือ ฮอนด้าแอคคอร์ด เป็นต้น และตามมาด้วย UberX ในราคาชนกับแท๊กซี่แต่เป็นรถบ้านทั่วไป ได้รับผลตอบรับดีเกินคาดหมายจนทำให้กลุ่มผู้ประกอบการ Taxi เดิมเสียโอกาสและรายได้ไปอย่างมาก

และในที่สุดกรมการขนส่งทางบก ออกโรงชี้แจงว่าบริการ Uber นั้นผิดกฎหมาย ทำให้เกิดเสียวิพากษ์วิจารณ์ กรณีนี้จึงไม่ต่างจากสินค้าทั่วไปที่ผูกขาดตลาดมานานทำให้อาจลืมการพัฒนาตัวเองเพื่อต่อสู้กับคู่แข่งรายใหม่ๆ และเมื่อมีคู่แข่งที่เล็งเห็นถึงช่องว่างในตลาดนี้ ก็จะสามารถเข้ามายึดส่วนแบ่งตลาดนี้ไปได้จนรายปัจจุบันกลับตัวไม่ทัน ดังนั้น “การมีคู่แข่งขันจึงเป็นการกระตุ้นการพัฒนาตัวเองตลอดเวลา”

หากเรามองย้อนไปในรอบปีนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ล้วนสร้างบทเรียน แนวคิด หรือ ไอเดียต่างๆ ให้เราพัฒนาการบริหารงานหรือดำรงชีวิตประจำวันได้อย่างดี ทุกเหตุการณ์สามารถมองได้หลายด้าน หลายมุม หลายมิติ ดังนั้นควรมองให้ครบทุกมุม “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” และเลือกนำสิ่งที่ดีไปใช้ สิ่งที่ไม่ดีนำเป็นบทเรียน ก้าวต่อไปในปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

สมุดบันทึกเล่มใหม่อีก 365 หน้าที่ยังว่างเปล่ารอเราอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเขียนอะไรลงไป !!