กัลบก

กัลบก

กัลบก หรือ ช่างตัดผม เป็นอาชีพสำคัญที่บางคนมองข้าม

อาจด้วยบ้านเราพบร้านเสริมสวยหรือ ร้านตัดผมแทบทุกมุมถนนจนกลายเป็นสิ่งสามัญในสายตา แต่หากวิเคราะห์กันให้ดีจะพบว่าอาชีพนี้มีมิติความลึกแฝงอยู่มากมาย

เมื่อพิจารณาการนำเสนอประวัติชีวิตคนสำคัญในสังคม เช่น นายกรัฐมนตรี หรือ ผู้นำประเทศทั้งหลาย มักพบเกร็ดข้อมูลร้านทำผมหรือช่างทำผมคู่ใจบุคคลเหล่านั้น โดยเป็นร้านหรือช่างที่ใช้บริการกันเป็นประจำข้ามห้วงเวลาหลายๆ ปี คุณสมบัติหลักของช่างเหล่านี้ นอกจากฝีมือเป็นที่ถูกใจแล้ว ยังต้องเก็บความลับ รักษาความเป็นส่วนตัวให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี สังเกตได้จากที่นักข่าวพยายามไปเจาะถามช่างผมคู่ใจนักการเมืองหลายคน จะพบว่าเขาสามารถปฏิเสธการให้ข้อมูลได้อย่างสุภาพและกล่าวถึงลูกค้าด้วยความเคารพในระยะที่กำลังดี ไม่ใกล้ชิดเกินจนเหมือนตีสนิทหรือห่างเหินเพียงคนปฏิบัติหน้าที่ไปแกนๆ

การปฏิสัมพันธ์จึงนับเป็นอีกทักษะที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับช่างทำผม เพราะแต่ละวันต้องพบเจอกับคนแตกต่างหลากหลาย และร้านทำผมเป็นหนึ่งในสถานที่ที่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นกันทั้งระหว่างช่างกับลูกค้าและลูกค้าด้วยกันในประเด็นรอบตัว ตั้งแต่ความเปลี่ยนแปลงในสังคมไปจนถึงเรื่องการบ้านการเมือง เป็นที่มาให้เวลาต้องการวัดกระแส เช่น ความชื่นชอบพรรค/นักการเมืองรายใด จะมีนักวิจัยเข้าไปเจาะข้อมูลมาจากในร้านทำผม (และอีกกลุ่มคือพี่คนขับแท็กซี่ซึ่งมักได้รับข้อมูลจากการฟังความเห็นผู้โดยสาร) ทั้งนี้อาจเป็นเพราะสถานการณ์ด้วยที่ทำให้ลูกค้าใช้เวลาในร้านทำผมกันนานจนมีโอกาสพูดคุยกัน ถึงขนาดที่บางคนเห็นช่องทางธุรกิจ เอาสินค้าไปบอกเล่ากันตามร้านทำผม ไอเดียนี้ได้ยินมาจากญาติที่เป็นเจ้าของร้านเพชรซึ่งจะคอยหมุนเวียนไปทำผมร้านต่างๆ เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า!

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลการเป็นแหล่งข้อมูลนี้ด้วยหรือไม่ที่ทำให้อาชีพช่างทำผมเคยถูกระบุเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย โดยอ้างอิงจาก พรบ. การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2521 แต่จากข้อสังเกตในปัจจุบันบวกการรวมกลุ่มกันเป็น ASEAN Community ปัจจุบันพบเพื่อนบ้านเราเข้าทำงานในร้านทำผมก็มาก และร้านดังๆยังมีช่างจากญี่ปุ่น เกาหลี มาเป็นช่างสร้างสีสันอีกด้วย

ทักษะสำคัญถัดมาคือ ความคิดสร้างสรรค์ เมื่อวานนี้ช่างทำผมบอกดิฉันหลังได้รับโจทย์ให้ช่วยเปลี่ยนทรงไปเป็นแบบที่หารูปมาให้ ช่างเงียบไปพักหนึ่งก่อนจับหวีลงมือป้ายซ้ายป้ายขวา เอียงคอมองไปมาอยู่หลายที จากนั้นเอ่ยปากว่า “ตัดทรงนี้ให้พี่ ผมต้องใช้จินตนาการสูงมากเลยนะ” ดิฉันรีบละล่ำละลักบอกว่างั้นเอาแบบที่น้องเห็นว่าเหมาะกับหัวพี่ละกัน แต่เธอพูดต่อขึ้นว่า “ดีพี่! ผมได้คิดเยอะๆ ต้องงัดทุกวิชาที่มีขึ้นมาเลยนะ”

ดิฉันเลยถามต่อว่า มีช่างทำผมที่ประสบความสำเร็จโดยไม่ต้องมีจินตนาการบ้างไหม ประเภทตัดไปตามมาตรฐานที่เรียนมา น้องบอกว่าเป็นไปได้ยากเพราะหัวแต่ละคนไม่เหมือนกัน ช่างทำผมต้องรู้จักสังเกตลักษณะหัวและเส้นผมเพื่อดัดแปลงตามสถานการณ์ได้ นี่ยังไม่นับรวมความไม่สมบูรณ์บางประการ ว่าแล้วเธอก็หยิบผมดิฉันขึ้นปอยหนึ่งแล้วบอกว่า อย่างกลุ่มนี้โคนมันบิด ทำให้ตัดไปตามแนวแล้วก็ยังบิดออกอยู่ดี ต้องหาวิธีแก้เฉพาะกลุ่มนี้ด้วย

น้องเล่าว่าของบางคนความไม่สมบูรณ์จะไปโผล่เอาตอนท้ายที่เป่าแห้งเสร็จแล้วด้วย เช่นลูกค้ารายหนึ่งตัดจนสวย พอจัดทรงกลับมีปอยหนึ่งแหว่งขึ้นไป ด้วยเหตุที่แห้งแล้วเด้งขึ้น กลายเป็นต้องรื้อใหม่โดยตัดเผื่อให้กลุ่มนี้ยาวกว่าที่เหลือเพื่อเวลาแห้งแล้วออกมาได้เท่ากัน

ฟังแล้วจึงพบว่าจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มีความสำคัญอย่างยิ่งกับอาชีพนี้ และยังมีเรื่องความช่างสังเกตที่กินความไปถึงอุปนิสัยใจคอและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เช่นที่ช่างบอกขึ้นว่า “พี่ดูชอบการเปลี่ยนแปลงหรืออะไรใหม่ๆ” อาจสังเกตได้จากเวลาสื่อสารว่าจะเอาทรงนี้ตามรูป (โดยไม่คิดว่าเข้ากับหัวตัวเองหรือไม่) และไม่ได้ตั้งเงื่อนไขอะไรมาก อย่างนี้แล้วช่างก็จะพยายามตัดให้ออกมาดูเป็นอีกลุคหนึ่งเลย เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ ซึ่งต่างจากลูกค้าที่อาจยังมีความลังเลหรือพอใจกับกลิ่นอายสไตล์เดิม จึงต้องตัดให้อิงแพ็ทเทิร์นเก่าอยู่บ้าง

ว่าแล้วคุณน้องก็ขะมักเขม้นกับการตัดผมต่อ ก่อนเอ่ยขึ้นอีกว่า พี่ทำให้ผมนึกถึงการตัดผมหัวแรกในชีวิต อุต๊ะ! ดิฉันอุทานขึ้นในใจ “ใครหรือคะน้อง?” ดิฉันถามขึ้นก่อนน้องจะสวนว่า “อาจารย์ผมเอง” “หา!” คราวนี้ดิฉันร้องออกมาเสียงดัง น้องขยายความว่าเป็นธรรมเนียมที่เมื่ออาจารย์สอนเสร็จจะให้ศิษย์ตัดผมให้เพื่อว่าทุกครั้งที่ไปเจองานยากจะระลึกได้ถึงความรู้สึกตอนนั้น ว่าภายใต้ความกดดันเราก็ยังผ่านมาได้ เป็นวิธีการสร้างการเรียนรู้ที่น่าสนใจอย่างยิ่ง ฟังแล้วนึกไปถึงเพื่อนอีกคนที่ฝึกเป็นนักบิน เขาเล่าว่ามีครั้งหนึ่งที่เขาทำผิดพลาดจากความประมาทหลงลืม และครูฝึกตบหัวเขาอย่างแรง ประมาณเจ็บจนน้ำตาไหลว่างั้น ครูบอกว่าจะได้จำจนวันตายว่าชีวิตผู้โดยสารมีความสำคัญ จะมาทำประมาทคิดว่าแค่นี้คงไม่เป็นไรไม่ได้แม้สักวินาทีเดียว

กระบวนการฝึกฝนและการทำงานของแต่ละอาชีพล้วนมีความน่าสนใจในตัวเอง วันนี้ที่ยกงานช่างทำผมขึ้นเพื่อให้เห็นว่าในทุกอาชีพมีทักษะที่ต้องฝึกฝน โดยเฉพาะที่ต้องตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และสิ่งที่บางคนมองข้ามแท้จริงอาจมีรายละเอียดที่น่าชื่นชมแฝงอยู่ ถ้าหัวเป็นอวัยวะที่เราว่าอยู่สูงสุดแล้ว คนจัดการหัวเราก็น่าจะเป็นผู้ที่เราใส่ใจให้ความสำคัญเช่นกัน