เศรษฐกิจกามารมณ์

เศรษฐกิจกามารมณ์

เมื่อเดือนที่แล้วคนไทยทั้งประเทศตกใจกับข่าวเด็กหญิงวัย 13 ปีถูกข่มขืนบนรถไฟ และศพถูกโยนทิ้งระหว่างทาง

ส่งผลให้คนไทยหลายกลุ่มออกมาเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้จำเลยในคดีฆ่าข่มขืนต้องรับโทษประหารชีวิต

การเพิ่มบทลงโทษอาจเป็นวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดคดีฆ่าข่มขืนได้ แต่นักกฎหมายเห็นว่ามีหลายมิติที่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และไม่ใช่เป็นการแก้ไขที่ต้นเหตุที่จะทำให้พ่อแม่ผู้ปกครอง (ของทั้งเด็กผู้หญิงและผู้ชาย) สบายใจได้ว่าลูกหลานของเขาจะไม่ตกเป็นเหยื่อ หรือเป็นจำเลยในคดีที่เกี่ยวข้องกับการรุกรานทางเพศ เรามักจะได้ยินจำเลยในคดีเหล่านี้ยอมรับว่ากระทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ ไม่ว่าใครก็ตามที่มีอารมณ์ชั่ววูบ คงจะไม่ค่อยนึกถึงโทษที่จะได้รับเท่าไหร่ โจทย์ที่อาจจะสำคัญกว่าคือทำอย่างไรที่จะลดสิ่งเร้าเรื่องกามารมณ์ในสังคมไทย

ผมพเนจรมาหลายสิบประเทศทั่วโลก ยังนึกไม่ออกว่ามีประเทศไหนที่มีสิ่งเร้าเรื่องกามารมณ์อย่างเปิดเผย กลาดเกลื่อนเหมือนกับที่เห็นได้ทั่วไปในสังคมไทย ซึ่งเราเคยเชื่อว่าเป็นสังคมพุทธศาสนา อนุรักษ์นิยม และมีขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม

ปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจไทยพึ่งรายได้ทั้งทางตรงและทางอ้อมจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับกามารมณ์

สำหรับธุรกิจกามารมณ์ทางตรง ต้องยอมรับความจริงว่านักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนไม่น้อยมาประเทศไทยด้วยวัตถุประสงค์ที่จะมาหาความสุขทางเพศ เรามีแหล่งบันเทิงทางกามารมณ์ที่แสดงกันอย่างเปิดเผยหลายจุดในกรุงเทพ ไม่ว่าจะเป็นพัฒน์พงศ์ ซอยนานา ซอยคาวบอย หรือย่านรัชดาภิเษก

เรามีสถานบริการอาบอบนวดที่ลงทุนหรูหราใหญ่โตจำนวนมาก จนชาวต่างชาติงงว่าประเทศไทยเคยถูกชาวเตอร์กยึดครองช่วงไหน คนไทยจึงนิยม Turkish bath โรงแรมม่านรูดเป็นนวัตกรรมธุรกิจบริการของประเทศไทยที่ประเทศอื่นตามไม่ทัน และประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศที่มีความหนาแน่นของโรงแรมเพื่อการพักชั่วคราวมากที่สุดในโลก ในวันนี้เราเห็นป้ายโฆษณาร้านนวดพริตตี้ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดทั่วกรุงเทพทั้งในย่านธุรกิจ ย่านพักอาศัย และใกล้สถานศึกษา จนอาจจะแซงร้านนวดเท้าไปแล้ว ถ้าใครลองเข้าไป Google คำว่า Asia sex หรือ Asia porn ดูแล้วจะพบว่าประเทศไทยมีผลิตภัณฑ์ด้านกามารมณ์นำเสนอสำหรับทุกรสนิยมไม่น้อยหน้าชาติใดในเอเชีย

ที่น่ากลัวกว่าธุรกิจกามารมณ์ทางตรง คือธุรกิจกามารมณ์ทางอ้อม หรืออีกนัยหนึ่งคือกิจกรรมทางธุรกิจที่อาศัยกามารมณ์เป็นกลไกส่งเสริมการขาย หรือสร้างกำไร กิจกรรมเหล่านี้ส่งเสริมให้เกิดความเร่าร้อนด้านกามารมณ์เพิ่มขึ้นในสังคมไทย โดยไม่คำนึงถึงผลข้างเคียงต่อความรู้สึกและพฤติกรรมของเด็กและเยาวชน

ในวงการสื่อ หนังสือพิมพ์หัวสีขนาดใหญ่ของประเทศต้องเอารูปผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยลงหน้าปกเป็นประจำและนิยมเสนอข่าวพฤติกรรมวาบหวิวของดาราแบบสองแง่สองง่าม นิตยสารไลฟ์สไตล์ที่อ่านได้ทุกเพศทุกวัยจะต้องมีรูปถ่ายแสดงทรวดทรงของนางแบบและนายแบบอย่างเปิดเผยเป็นสิ่งจูงใจ ละครโทรทัศน์มีฉากและบทสนทนาเกี่ยวกับเรื่องเพศ และการใช้ความรุนแรงทางเพศอย่างไม่เกรงใจคนที่เป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง ทั้งๆ ที่ละครเหล่านี้ฉายในเวลาที่เด็กทานข้าวเย็นหรือยังไม่เข้านอน

ในธุรกิจโฆษณา กามารมณ์ได้กลายเป็นองค์ประกอบสำคัญ พริตตี้ได้กลายเป็นอาชีพเสริมอย่างเป็นกอบเป็นกำของหญิงไทยวัยรุ่นหน้าตาดี และถูกมองว่าเป็นสินค้าประเภทหนึ่งไปแล้ว ในงานมอเตอร์โชว์ ไม่แน่ใจว่าคนไปดูพริตตี้หรือรถรุ่นใหม่มากกว่ากัน ร้านอาหารจะต้องมีพริตตี้นุ่งสั้นคอยเชียร์ให้แขกดื่มเหล้าและเบียร์ ทั้งๆที่หลายร้านจัดได้ว่าเป็นร้านอาหารสำหรับครอบครัว

ปีที่ผ่านมาปฏิทินนุ่งน้อยห่มน้อยไม่ได้จำกัดอยู่เพียงอุตสาหกรรมเหล้าเบียร์เท่านั้น แม้แต่สายการบินโลว์คอสต์ชั้นนำของประเทศยังต้องทำปฏิทินนุ่งน้อยห่มน้อยแจกผู้โดยสารทั้งชายและหญิง เห็นหนังโฆษณาของสายการบินไทยยิ้มน้องใหม่ที่เป็นบริษัทลูกของสายการบินแห่งชาติแล้วอดคิดไม่ได้ว่ามีเจตนาที่จะสื่อให้ผู้โดยสารมีความสุขเพราะพนักงานต้อนรับใส่กางเกงขาสั้นมาก

น่ากังวลมากที่การปลุกเร้าให้เกิดความเร่าร้อนทางกามารมณ์ดูจะกลายเป็นเรื่องปกติของสังคมไทยโดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่น ตั้งแต่การแต่งตัวไม่เหมาะสมเข้าวัดทำบุญ การแสดงออกทางกามารมณ์อย่างเปิดเผยในการเล่นสงกรานต์ ไปจนถึงการดัดแปลงชุดนักศึกษาให้รัดรูปแสดงทรวดทรงจนไม่น่าจะเรียกว่าเป็นเครื่องแบบได้ นึกไม่ออกว่าครูบาอาจารย์ในสถาบันการศึกษาเหล่านี้ยอมให้เครื่องแบบนักศึกษาวิวัฒนาการถดถอยลงมาถึงวันนี้ได้อย่างไร ถ้าแก้ปัญหาเครื่องแบบนักศึกษาผิดระเบียบไม่ได้ อาจจะดีกว่าที่จะยกเลิกชุดนักศึกษา(และปลดอาจารย์ฝ่ายปกครอง)ไปเลย

อีกตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเรื่องกามารมณ์เป็นเรื่องปกติของสังคมไทยคือการขายผลิตภัณฑ์ทางเพศตามร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์มาเก็ต ประเทศไทยอาจจะเป็นประเทศเดียวในโลกที่วางขายถุงยางอนามัยและเจลสำหรับร่วมเพศไว้ข้างขนมและลูกอมตรงจุดจ่ายเงิน ในประเทศอื่นผลิตภัณฑ์เช่นนี้จะถูกวางขายตามชั้นด้านใน แบบที่เด็กไม่ค่อยเดินผ่านและผู้ใหญ่ต้องตั้งใจเข้าไปหาซื้อ ผมเชื่อว่าเด็กไทยและผู้ใหญ่ไทยจำนวนไม่น้อยต้องเคยเผลอหยิบกล่องถุงยางอนามัยเพราะคิดว่าเป็นหมากฝรั่ง หรือลูกอมผลไม้หลากรส

โจทย์ใหญ่มากอีกเรื่องหนึ่งที่ทำให้เด็กและเยาวชนไทยเข้าถึงสิ่งเร้าทางกามารมณ์ได้โดยง่ายคืออินเตอร์เน็ต กระทรวง ICT และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่เคยจัดการเรื่องนี้จริงจัง ทำบ้างไม่ทำบ้างเป็นระลอกตามแรงกดดันของสังคมและนโยบายของผู้มีอำนาจ ชุมชนใหญ่ๆ ทั่วประเทศไทยมีร้านอินเตอร์เน็ตหากินกับการเป็นช่องทางให้เด็กเข้ามาเล่นเกมส์หรือดูเว๊บโป๊ได้อย่างไม่มีการควบคุม และเจ้าของร้านก็คงไม่อยากควบคุมเพราะเด็กเหล่านี้เป็นลูกค้ารายสำคัญ

ผลเสียที่เกิดขึ้นจากความเร่าร้อนทางกามารมณ์จนเกินพอดีในสังคมไทยไม่ใช่แค่เพียงแค่คดีข่มขืน(ทั้งที่เราเห็นข่าวและยังไม่เห็นข่าวอีกมาก)เท่านั้น ประเทศไทยยังติดอันดับต้นๆของโลกในอัตราเด็กท้องในวัยเรียนและการติดเชื้อเอชไอวี สำหรับผลกระทบที่เกิดขึ้นในระดับบุคคลและครอบครัวแล้ว การถูกข่มขืน การท้องในวัยเรียน และการติดเชื้อเอชไอวี เปลี่ยนชีวิตเด็กเหล่านี้อย่างที่ไม่มีทางเรียกกลับคืนมาได้ ไม่ว่าจะเป็นความสูญเสียด้านจิตใจ ภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น อนาคตทางการศึกษาและอาชีพการงานที่หดหายไป พ่อแม่ผู้ปกครองที่เคยหวังว่าจะพึ่งลูกได้ในวัยชราต้องรับภาระดูแลลูกและหลานที่ไม่ได้ตั้งใจเหล่านี้แทน

สำหรับระดับประเทศ การบริโภคที่ถูกชักจูงด้วยสิ่งเร้าทางกามารมณ์มักไม่ใช่การใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ปัญหาสืบเนื่องที่มากับสิ่งเร้าทางการมารมณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการข่มขืน การท้องในวัยเรียน การติดเชื้อเอชไอวี หรือแม้แต่การหมกมุ่นในเรื่องเพศล้วนบั่นทอนศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่เป็นกำลังสำคัญของประเทศ ปัญหาเหล่านี้ทำให้การลงทุนทางการศึกษาของรัฐบาลไม่เกิดผลตามที่คาดหวัง รัฐบาลต้องรับภาระค่าใช้จ่ายด้านสังคมและสาธารณสุขเพิ่มขึ้น และที่สำคัญการหวังหารายได้โดยง่ายจากกิจกรรมธุรกิจกามารมณ์จะทำให้ค่านิยมของคนไทยรุ่นใหม่เสื่อมลง ทั้งค่านิยมในการทำงานหนัก และการเคารพศักดิ์ศรีของตนเอง

ในทางจิตวิทยา มนุษย์ก็เป็นเหมือนสัตว์ชนิดอื่นที่ความเร่าร้อนทางกามารมณ์มักนำไปสู่การใช้ความรุนแรง เป็นธรรมชาติของคนที่จะเกิดโทสะถ้ามีอารมณ์ทางเพศแล้วไม่สบอารมณ์ บทตบจูบเป็นบทมาตรฐานของละครไทย กรณีข่มขืนมักจะตามมาด้วยการฆ่าหรือทำร้ายเหยื่ออย่างรุนแรง ถ้าเราสามารถลดความเร่าร้อนทางกามารมณ์ในสังคมไทยได้แล้ว ผมเชื่อว่าการใช้ความรุนแรงในสังคมไทยก็จะลดลงด้วย

โจทย์ใหญ่ของเราในวันนี้คงไม่ใช่ว่าควรเพิ่มโทษคดีฆ่าข่มขืนให้ถึงที่สุดหรือไม่ แต่ควรเป็นว่าทุกภาคส่วนของสังคมไทยจะร่วมกันลดสิ่งปลุกเร้าทางกามารมณ์ในสังคมไทยได้อย่างไร ธุรกิจขนาดใหญ่โดยเฉพาะธุรกิจสื่อและธุรกิจที่โฆษณาด้วยการใช้แรงจูงใจทางกามารมณ์จะต้องเร่ิมทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง เจ้าหน้าที่ของรัฐจะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มีอย่างเคร่งครัด จัดระเบียบธุรกิจกามารมณ์ทั้งทางตรงและทางแฝง ครูบาอาจารย์ตามสถาบันการศึกษาจะต้องเอาจริงกับการแต่งกายผิดระเบียบและพฤติกรรมหารายได้แฝงที่เกี่ยวข้องกับกามารมณ์ของนักศึกษา

ที่สำคัญที่สุดคือคนไทยทุกคน โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อแม่ จะสามารถร่วมกันแสดงพลังของผู้บริโภคได้ด้วยการหยุดสนับสนุนธุรกิจที่กระตุ้นให้เกิดความเร่าร้อนทางกามารมณ์ทั้งทางตรงและทางอ้อม และหันมาสนับสนุนธุรกิจที่แสดงเจตนาที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ให้แก่สังคมไทย สังคมไทยจะเปลี่ยนแปลงในเรื่องใหญ่ๆ เช่นนี้ได้ คนไทยส่วนใหญ่จะต้องมีบทบาทร่วมกัน อย่าคิดว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐแล้วจะลุล่วงไปได้ ไม่มีทาง


ในขณะที่ประเทศอื่นเขามุ่งมั่นที่จะเป็นเศรษฐกิจอุตสาหกรรม เศรษฐกิจบริการ เศรษฐกิจสีเขียว เศรษฐกิจไฮเทค หรือเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เราช่วยกันหยุดไม่ให้เศรษฐกิจไทยกลายเป็นเศรษฐกิจกามารมณ์กันก่อนดีไหมครับ