"ความปลอดภัย" ต้องมาก่อน

และมีคำสั่งเพิ่มอีก 20 พื้นที่วานนี้ (10 มิ.ย.) ได้แก่ กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรีบางอำเภอ ระยอง จันทบุรี ตราดบางอำเภอ นครพนม สกลนคร ร้อยเอ็ด เลย สุรินทร์ ตาก สุโขทัย แม่ฮ่องสอน อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน สงขลาบางอำเภอ ตรัง และสตูล

คำสั่งของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ดังกล่าว นับว่ามีส่วน "กระตุ้น" รายได้จากการท่องเที่ยว ที่คิดเป็น 10% ของจีดีพี ให้ฟื้นกลับมาได้บ้าง แม้จะอยู่ในช่วงโลว์ซีซัน (ไตรมาสสาม) ของธุรกิจท่องเที่ยว ก็ตาม

หลังจากปลายปีที่ผ่านมา ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ธุรกิจท่องเที่ยวบอบช้ำมามาก จากจำนวนนักท่องเที่ยว และรายได้ที่หล่นวูบ เพราะนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่มั่นใจด้านความ "ปลอดภัย" ในการเดินทางมาท่องเที่ยวไทย จากความไม่สงบในประเทศ

สะท้อนจากข้อมูลของกรมท่องเที่ยว กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ที่รายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวในเดือน พ.ค. 2557 ว่า หดตัวร้อยละ 10.66 และรายได้หดตัวร้อยละ 8.24 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ซึ่งเป็นสองชาติหลักที่เดินทางมาเที่ยวไทย หดตัวเฉลี่ยร้อยละ 25

จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) มีนักท่องเที่ยวจำนวน 10,357,388 คน ลดลง 652,339 คน หดตัวร้อยละ 5.93 จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่รายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 499,566.48 ล้านบาท ลดลง 19,534.97 ล้านบาท หรือหดตัวร้อยละ 3.91

ล่าสุด "วิลเลียม อี. ไฮเน็ค" ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) นักธุรกิจด้านบริการรายใหญ่ในเอเซียแปซิฟิก ดูแลโรงแรม รีสอร์ทอยู่กว่า 80 แห่ง อาทิ โรงแรมในเครืออนันตรา โรงแรมโฟว์ซีซันส์ เซ้นต์ รีจิส และแมริออท ในประเทศไทย สะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นผ่านจดหมายเปิดผนึกถึงเอกอัครราชทูต ประจำสถานทูตในประเทศไทย และสื่อต่างประเทศ โดยเนื้อหาสาระระบุถึง สถานการณ์ในไทยว่า "ไม่น่ากังวลอย่างที่คิด"

โดยวอนให้รัฐบาลประเทศต่างๆ ประเมินระดับความรุนแรงของคำเตือนการเดินทางมาไทยอีกครั้ง โดยปรับคำเตือนให้สะท้อนสถานการณ์จริง ว่าการเดินทางในประเทศไทยยังคงมีความปลอดภัย เพราะตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ พบว่า มีรัฐบาลจาก 62 ประเทศที่ได้ออกคำเตือนการเดินทางมายังไทย โดย 19 ประเทศได้ออกคำเตือน “ระดับแดง” แนะนำให้พลเมืองเลื่อนการเดินทางมายังไทย

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การเมืองในประเทศ ที่เริ่มนิ่ง ประกอบกับการบอกเล่าสถานการณ์ให้ทูตในประเทศต่างๆ รับทราบ ทำให้เชื่อได้ว่า ในไม่ช้ารัฐบาลจากประเทศต่างๆ น่าจะลดระดับคำเตือนมาไทย แม้ว่าในขณะนี้บางพื้นที่จะคงประกาศเคอร์ฟิว

ทว่า สิ่งเดียวที่วิตกคือ หากนักท่องเที่ยวต่างชาติ วกกลับมาเที่ยวไทย จากการส่งสัญญาณบวกดังกล่าว พวกเขาเหล่านั้น จะได้รับ "ความปลอดภัย" ในการเดินทางในไทยอย่างจริงจัง ตามสโลแกน คืนความสุขให้ประเทศไทย (คนไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติ)

ไม่เช่นนั้น บูมเมอแรง ที่สะท้อนกลับ แรง และเร็ว กว่าเดิม