ทุนการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

ทุนการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก

เมื่อหนึ่งปีก่อนในวันนี้ มหาเศรษฐีชั้นนำของโลกคนหนึ่ง ประกาศบริจาคเงินส่วนตัว 100 ล้านดอลลาร์ (3,000 ล้านบาท)

พร้อมเดินสายระดมทุนเพิ่มจากเพื่อนๆ มหาเศรษฐีจนครบ 350 ล้านดอลลาร์ เพื่อตั้งกองทุนการศึกษาเพื่อส่ง “นักเรียนที่โดดเด่นที่สุดในโลก” ปีละ 200 คนไปเรียนเมืองจีน

Stephen A. Schwarzman ประธานบริหารของ Blackstone บริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ และเป็นมหาเศรษฐีอันดับต้นๆ ของโลก กล่าวติดตลกว่า “เพื่อนผมบอกว่านี่เป็นการแก้แค้น” เพราะตัวเขาเองในวัยหนุ่มสอบตกสัมภาษณ์ Rhode Scholarship ทุนการศึกษาที่เคยได้ชื่อว่า “มีชื่อเสียงที่สุดในโลก” ซึ่งส่งนักเรียนอเมริกัน นักเรียนยุโรป และนักเรียนในเครือจักรภพที่มีประวัติโดดเด่น ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัย Oxford ประเทศอังกฤษ ผู้นำของโลกที่เคยได้รับทุน Rhode Scholarship เช่น ประธานาธิบดี Bill Clinton แห่งสหรัฐฯ นายกฯ John Turner ของแคนาดา นายกฯ Tony Abbott ของออสเตรเลีย เป็นต้น

Cecil Rhode มหาเศรษฐีอังกฤษเมื่อ 100 ปีก่อน ได้บริจาคทรัพย์สินตั้งเป็นกองทุนเพื่อส่งนักเรียนจากอเมริกัน และเยอรมัน มาเรียนร่วมกับนักเรียนอังกฤษที่ Oxford เพราะเขามองว่าสามประเทศนี้คือมหาอำนาจที่กำหนดชะตาของโลก ต่อมากองทุนจึงได้ขยายโอกาสให้นักเรียนในเครือจักรภพ

มาถึงวันนี้ท่านมหาเศรษฐี Schwarzman ย้ำว่าโลกยุคใหม่ไม่ใช่โลกของอังกฤษ สหรัฐฯ หรือเยอรมัน แต่เป็น “โลกของจีน” โลกที่ “จีน” เป็นวิชาบังคับ ไม่ใช่วิชาเลือกอีกต่อไป

Schwarzman ประกาศให้ทุนนักศึกษาที่โดดเด่นที่สุด 200 คน จากทั่วทุกมุมโลก ไปเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดหนึ่งในสองแห่งของจีน เขาลงทุนสร้างอาณาจักรพิเศษขึ้นที่ใจกลางมหาวิทยาลัย โดยสร้างอาคารเรียนที่ดีที่สุดในโลก (ออกแบบโดยสถาปนิกชื่อดังที่สุดในสหรัฐฯ) หอพักที่น่าอยู่ที่สุดในโลก (จำลองแบบจากหอพักหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงของ Harvard Business School) และยังจะขอความร่วมมือขอยืมอาจารย์ที่มีชื่อเสียงจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ และอังกฤษ มาเสริมทีมอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยชิงหัวอีกด้วย

ผู้ที่ได้รับทุน Schwarzman Scholarship สามารถเลือกเรียนปริญญาโทหนึ่งปี ในสาขาวิชานโยบายสาธารณะ เศรษฐศาสตร์และธุรกิจ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือวิศวกรรมศาสตร์ โดยจะรับนักศึกษารวม 200 คน (จากสหรัฐฯ 90 คน จีน 40 คน และประเทศต่างๆ ทั่วโลกอีก 70 คน) ทั้งหมดจะเรียนและกินอยู่ฟรีในมหาอาณาจักรที่เขากำลังสร้างขึ้น โดยจะเปิดรับนักเรียนทุนรุ่นแรกในปี ค.ศ. 2016

นักเรียนทุน Schwarzman Scholarship จะมี “พี่เลี้ยง” เป็น “อาจารย์ชื่อดังที่สุดในโลก” ที่ยินดีร่วมเป็น “โค้ช” ให้กับคนหนุ่มสาวที่โดดเด่นและมีความฝันที่จะเปลี่ยนแปลงโลก นอกจากนั้น กองทุนยังจะจัดให้นักศึกษาท่องเที่ยวดูงานในประเทศจีนก่อนเริ่มเรียน รวมทั้งบังคับให้เรียนภาษาจีนควบคู่ไปกับหลักสูตรการเรียนการสอนที่ใช้ภาษาอังกฤษ

Schwarzman อธิบายว่า ในโลกยุคใหม่ ไม่ว่าคุณจะทำงานในสาขาใด คุณไม่สามารถเป็นผู้นำในสาขานั้นได้ถ้าคุณไม่มีความเข้าใจเรื่องจีน คุณไม่สามารถเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ดีได้ ถ้าคุณไม่เข้าใจเศรษฐกิจจีน หรือเป็นนักการต่างประเทศที่ดี ถ้าคุณไม่รู้จักผู้นำจีน แต่เขายังคงเชื่อว่าในด้านวิชาการ การวิจัย และนวัตกรรมการศึกษา มหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ และอังกฤษ ยังมีอาจารย์ที่มีคุณภาพสูงที่สุดในแต่ละสาขา เขาต้องการเชิญอาจารย์เหล่านั้นมาสอนร่วมกับอาจารย์ชั้นนำชาวจีนในหลักสูตรพิเศษของเขาที่มหาวิทยาลัยชิงหัว ให้นักเรียนที่เก่งที่สุดในจีน นักเรียนที่เก่งที่สุดในสหรัฐฯ และนักเรียนที่เก่งที่สุดจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกได้ใช้เวลาหนึ่งปีในวัยหนุ่มสาวร่วมกันที่เมืองจีน ซึ่งจะกลายเป็น “เครือข่ายผู้นำ” ที่จะร่วมกันสร้างคุณประโยชน์ให้กับโลกในอนาคต

มีคนแอบซุบซิบว่า Schwarzman ได้ประโยชน์มากกว่าใครเพื่อน เพราะเงินที่เขาทุ่มไป ถือเป็นเงินบริจาคให้กับวงการศึกษาจีนก้อนใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้เขาเป็นที่รู้จักและได้รับการนับถือ (มากยิ่งขึ้น) ในหมู่ผู้นำจีน ขณะเดียวกันก็สร้างชื่อเสียงที่ยืนยาวให้กับเขา เมื่อชื่อของเขากลายเป็นชื่อของ “ทุนการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก” ซึ่งนักเรียนที่มีประวัติโดดเด่นที่สุดจากทั่วทุกมุมโลกต่างแข่งขันกันเพื่อได้รับประสบการณ์และโอกาสพิเศษนี้ในชีวิต

เรื่องที่ผมเล่ามาแสดงให้เห็น “กึ๋น” ของนักธุรกิจชาวอเมริกัน ซึ่งชอบบริจาคเงินให้วงการศึกษา ต่างกับนักธุรกิจไทยที่ชอบบริจาคเงินหล่อพระสร้างมหาเจดีย์ แต่ช่วงที่ผ่านมา ก็มีข่าวนักธุรกิจใหญ่หลายท่านต้องการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการศึกษา ครอบครัวท่านนายกฯ (รักษาการ) ก็มีมหาวิทยาลัยที่ใช้ชื่อนามสกุลของท่านคุณวิกรม กรมดิษฐ์ ก็วางแผนจะสร้างมหาวิทยาลัยใหม่ เครือ ปตท. ก็วางแผนจะสร้างมหาวิทยาลัยใหม่เช่นกัน ผมเองสงสัยว่า ในเมื่อการสร้างมหาวิทยาลัยที่มีคุณภาพจริงๆ นั้น ต้องใช้ทรัพยากรมหาศาล เหตุใดท่านทั้งหลายเหล่านั้น จึงไม่ช่วยกันส่งเสริมมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทยให้มีโปรแกรมอะไรที่อวดได้ว่าเป็น “ของดี” อย่างน้อยก็ในระดับภูมิภาคได้จริง แทนที่จะไปสร้างอะไรใหม่จากศูนย์

หรือที่ต่างคนต่างพร่ำพูดเรื่อง AEC ทำไมจึงไม่มีใครคิดสร้างกองทุนให้ทุนนักศึกษาที่โดดเด่นที่สุดในอาเซียนมาเรียนและใช้ชีวิตร่วมกันในโปรแกรมพิเศษในมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย (ไม่ใช่แยกกันไปเรียนกระจัดกระจายกับนักเรียนไทยตามคณะต่างๆ อย่างที่เริ่มมีบ้างในปัจจุบัน) หากเราสามารถสร้างโปรแกรมที่ดึงดูดเด็กเก่งที่สุดในอาเซียนมาอยู่ร่วมกันได้ นี่อาจจะเป็นการสร้างเครือข่ายและความเปลี่ยนแปลงในระยะยาวให้กับภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง เพราะเท่ากับเป็นการสร้างผู้นำในอนาคตของประเทศแถบนี้ที่มี sense ของ ASEAN เหมือนกับที่สหรัฐฯ และอังกฤษสร้างผู้นำประเทศโลกที่สามที่มี sense ตะวันตก มานานกว่าหนึ่งศตวรรษผ่าน Oxford และ Harvard, และเหมือนกับที่ Schwarzman กำลังต้องการจะสร้างผู้นำรุ่นใหม่ของอเมริกาให้มี sense เรื่องจีน

สิ่งที่เป็นเกร็ดที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับกองทุน Schwarzman (ที่คนไม่ค่อยรู้) ก็คือ จริงๆ แล้ว นี่ไม่ใช่ความคิดริเริ่มของ Schwarzman แต่เป็นความคิดริเริ่มของอธิการบดี มหาวิทยาลัยชิงหัว ซึ่งเสนอไอเดีย (ไถเงิน) เขา คุยกันไปคุยกันมาจนได้เงินมา 350 ล้านดอลลาร์ แต่ก็ต้องยกนิ้วว่าท่านอธิการบดีมีวิสัยทัศน์ และขายความคิดเรื่อง “โลกยุคใหม่” ได้ยอดเยี่ยม

โลกยุคใหม่คงกำลังเปลี่ยนไปจริงๆ (หรืออาจเปลี่ยนไปแล้ว) เมื่อทุนการศึกษาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ไม่ใช่ทุนที่ส่งนักเรียนไปเรียน Oxford แต่เป็นทุนที่ส่งนักเรียนไปชิงหัว