"ยิ่งลักษณ์ "น่าจะโดนหนักกว่า"ทักษิณ"?

"ยิ่งลักษณ์ "น่าจะโดนหนักกว่า"ทักษิณ"?

“ยิ่งลักษณ์ ได้ถามคนใกล้ชิดว่า เธอกับพี่ชาย ใครดูอาการหนักกว่ากัน...แน่นอนคงไม่มีกล้าบอกตรงๆ

แต่จับสัญญาณได้ว่า น่าจะหนักหนากว่าพี่ชาย”

ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่ง ที่สถานการณ์ปล่อยให้พัฒนาถึงขั้นนี้ เพราะ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเลือกเล่นตามเกมที่”พี่ชาย” กำหนด...ทำให้ทางออก จึงเป็นทางตันเสมอมา

เกมยื้อ...และทำลายความชอบธรรมกระบวนการยุติธรรม เพื่อสร้างแนวร่วมทั้งในประเทศและความชอบธรรมจากนานาชาติ


เกมที่เธอไม่ได้กำหนดเอง... เพียงทำหน้าที่แสดงตาม”บทบาท”ที่ถูกกำหนด... ซึ่งเป็นบทเดิมที่ดำเนินมาตั้งแต่ก้าวแรกทางการเมือง

อันที่จริงชีวิตก็น่าสงสารที่ ไม่ได้กำหนดเส้นทางเดินของเธอเอง ตั้งแต่ทำงานบริษัท จนถึงพันธกิจทางการเมือง ที่ต้องรับช่วงต่อ เพราะเพียงแค่พี่ชายไม่วางใจใคร

“มีอยู่ครั้งหนึ่งระหว่างเจรจากับ คุณสุเทพ ซึ่งมีนายทหาร เป็นคนกลาง ตอนแรกเหมือนยิ่งลักษณ์จะยอมลาออก ตามข้อเสนอ แต่ขอเวลาโทรศัพท์...และเดินกลับมาพร้อมคำว่า ไม่ได้ค่ะ”

ปลายสายเป็นใคร...บนโต๊ะเจรจาทราบดี เพราะไม่กี่คนที่ยิ่งลักษณ์ จะเชื่อฟังโดยไม่เถียง!

หากถามว่าตอนนี้ หลักการเจรจา ควรอยู่บนพื้นฐานและทางออกควรเป็นอย่างไร?

1.เลือกตั้งไม่ได้ในภาวการณ์เช่นนี้

2.นายกคนกลาง ทุกฝ่ายเห็นด้วย...แต่ต้องได้รับการยอมรับทั้งสองฝ่าย เพราะหากถูกมองฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ก็ย่อมไม่วางใจ วิตกว่าจะ ”เช็คบิลย้อนหลัง"

3.รัฐบาลเฉพาะกาล ที่สังคมคาดหวังจะอยู่ในวาระกี่ปี

4.ช่องทางไหนบ้าง ที่มาของรัฐบาลคนกลาง ที่ไม่กระทบวิถีประชาธิปไตย

5.ทหารยังเป็นบทบาทหลักในการเจรจา(ระยะหลังตำรวจทำงานร่วมกับกองทัพชัดเจนมากขึ้น )

6.คดีความต่างๆ ต้องเดินหน้า

ก่อนอื่นต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า ขั้วความขัดแย้งที่มีหน้าที่เจรจาหาทางออกประเทศปัจจุบัน มี 4 กลุ่มใหญ่ 1.เพื่อไทย 2.ประชาธิปัตย์ 3.กปปส. และ 4.กองทัพ

มีคนคิดสูตรเล่นๆ แต่ฟังแล้วน่าสนใจ...(แม้ดูจะนามธรรม) เริ่มจากให้ขั้วความขัดแย้งเลือกนายกคนกลาง ที่เห็นพ้องตรงกัน หลังจากนั้นให้”นายกคนกลาง”ดังกล่าวสังกัดพรรคการเมืองใดก็ได้ และเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้ง และหลังเลือกตั้งให้ทุกฝ่ายสนับสนุน”นายกคนกลาง”ที่ตกลงกัน

กำหนดพันธกิจชัดเจนว่า...เป็นรัฐบาลเพื่อการปฏิรูปอายุรัฐบาล ก็น่าจะอยู่ได้ประมาณ 1 ปีเพื่อทำหน้าที่ร่างกติกาเพื่อการเลือกตั้งทั่วไป

(มีการตั้งคำถาม ไม่กลัวหักหลังเหรอ... ถึงตอนนั้นก็ยากที่จะคาดเดา แต่อย่างน้อยได้ มีการหารือและหาทางออกที่เหมาะสม)

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพิ่งสไกป์ มายังสำนักงานพรรคเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ อ้างว่าเลิกคิดอาฆาต เลิกจองเวร และรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมเจรจาทุกฝ่าย เพื่อให้ประเทศกลับสู่ภาวะปกติ

“ต้องพูดคุยในระบบประชาธิปไตยเท่านั้น โดยครอบครัวชินวัตรไม่เคยเห็นแก่ตัว แต่ยึดหลักการ ยึดมั่นหลักประชาธิปไตย พร้อมเสียสละให้คนส่วนใหญ่ ไม่ใช่กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง”

หากฟัง สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สไกป์ การเจรจา ก็ไม่น่าจะมีปัญหา...เพราะยึดประโยชน์คนส่วนใหญ่ พร้อมเสียสละ แต่ทำไม่”ผล”...จึงยังไม่เกิดขึ้น

....แค่วาทกรรม?...

เพราะมีบาง”เงื่อนไข”ที่อดีตนายกฯไม่ได้พูดและเป็นตัวแปรสำคัญที่การเจรจาไม่ได้คืบหน้า ตรงกันข้ามกลับเห็นเส้นทางรุนแรง กว่าเดิมด้วยซ้ำ!

เงื่อนไข..ยกเว้นคดีความ...ซึ่งยากที่อีกฝ่ายจะยอมรับ ซึ่งไม่แปลกที่คนรอบข้างยิ่งลักษณ์ จะประเมินว่า เธอ น่าจะหนักกว่าพี่ชาย!