ทำไมคนจีนจึงรัก "ฟ้าหญิงสิรินธร"

ทำไมคนจีนจึงรัก "ฟ้าหญิงสิรินธร"

มิตรสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนมีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนาน นับตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันตก เมื่อสองพันกว่าปีก่อน

ก็เริ่มมีการส่งทูตไมตรีต่อกันแล้วจวบปัจจุบัน ไม่ว่าสากลโลกจะเกิดการเปลี่ยน แปลงประการใด ทั้งสองประเทศยังคงเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและมิตรสหายที่ดี

กล่าวได้ว่า บุคคลสำคัญที่มีส่วนทำให้ความสัมพันธ์ฉันมิตรเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องและใกล้ชิดขนาดนี้ ก็คือสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี พระองค์ทรงสร้างคุณูปการอันยิ่งใหญ่ต่อการกระชับความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างไทย-จีน เพราะฉะนั้น ชาวจีนทั่วไปจึงคุ้นเคยกับการเรียกขานพระนามของพระองค์ว่า “ฟ้าหญิงสิรินธร” นับตั้งแต่ได้ทรงเสด็จเยือนประเทศจีนเป็นครั้งแรกในปี 2524

ตั้งแต่วันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2524 “ฟ้าหญิงสิรินธร” ทรงเสด็จเยือนประเทศจีนเป็นครั้งแรกมาจนถึงปัจจุบันนี้ ช่วงระยะเวลาเพียงแค่ 33 ปี พระองค์ทรงเสด็จเยือนจีนได้ครบหมดทุกมณฑล ทั้งๆ ที่แผ่นดินจีนมีความกว้างใหญ่ไพศาล (แม้กระทั่งผู้นำจีนบางคนก็ยังทำไม่ได้คือไม่สามารถเดินทางไปครบทุกมณฑล) ตลอดระยะเวลา 33 ปี ทรงเสด็จเดินทางไปเยือนประเทศจีนถึง 36 ครั้ง ได้พบผู้นำจีนหลายต่อหลายท่าน ได้เห็นและได้เรียนรู้เกี่ยวกับจีนในหลายๆ ด้าน จนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านจีน

ในหนังสือเรื่อง “การเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตามเส้นทางสู่ที่ราบสูง” พระองค์ทรงบันทึกถึงความประทับใจในช่วงระหว่างการเสด็จเยือนเมืองจีนว่า “เวลามาแต่ละครั้ง ได้มีสิ่งตื่นเต้น ได้เห็นได้รู้สิ่งใหม่ๆ ที่ยังไม่มีและคนอื่นคงหาโอกาสนี้ได้ยาก” และได้พูดถึงความประทับใจที่มีต่อคนจีนว่า “คนจีนเป็นคนที่นิสัยคบง่ายและมีคุณสมบัติหลายอย่างที่คิดว่าเข้ากันได้ ประเทศก็ใหญ่ มีอะไรที่จะให้ศึกษาหรือมาดูมากขึ้นเรียกว่าไม่ซ้ำเลย”

เพราะเหตุผลเหล่านี้ จึงทำให้พระองค์ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับจีนในทุกๆ ด้าน ทรงทุ่มเทให้กับการเรียนภาษาจีน การเขียนพู่กันจีน การวาดภาพแบบจีน และฝึกรำมวยไทเก๊ก เป็นต้น พระองค์ทรงร่ำเรียนได้อย่างเชี่ยวชาญ คนจีนภูมิใจมากๆ ที่มี “เจ้าฟ้าหญิง” ของประเทศเพื่อนบ้านให้ความสำคัญต่อวัฒนธรรมของประเทศจีนมากเช่นนี้

นอกจากนี้ ในระหว่างการเสด็จเยือนจีนทุกๆ ปี พระองค์ยังถ่ายทอดประสบการณ์การเยือนแผ่นดินจีนตั้งแต่ครั้งแรก เป็นลายลักษณ์อักษรพระราชนิพนธ์ให้คนไทยได้อ่านอย่างเช่น หนังสือเรื่อง “ย่ำแดนมังกร” “มุ่งไกลในรอยทราย” “เจียงหนานแสนงาม” และ “การเสด็จพระราชดำเนินของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีตามเส้นทางสู่ที่ราบสูง” เป็นต้น

หนังสือที่พระองค์ได้ทรงนิพนธ์สร้างคุณูปการอย่างมากและหลังการเสด็จเยือนเมืองจีนแต่ละครั้ง ก็มีส่วนทำให้คนไทยประทับใจและไปเที่ยวเมืองจีนตามที่พระองค์ได้เคยเสด็จเยือนไว้ ฉะนั้น การเสด็จเยือนเมืองจีนแต่ละครั้งของ “ฟ้าหญิงสิรินธร” ถือเป็นการจุดประกายให้คนไทยไปเที่ยวเมืองจีนและรู้จักเมืองจีนมากขึ้น

นอกจากนี้ ในฐานะนักอักษรศาสตร์ พระองค์ทรงให้ความสำคัญต่อนวนิยายจีนเป็นอย่างมาก ถ้าเป็นเรื่องที่พระองค์ทรงชอบเป็นพิเศษก็จะทรงแปลเป็นภาษาไทยเช่นหนังสือเรื่อง “ผีเสื้อ” และ “นารีนครา” ทุกวันนี้ยังมีวางจำหน่ายอยู่ในร้านหนังสือ

ถ้าพูดถึง “ฟ้าหญิงสิรินธร” ไม่ว่าชาวจีนหรือมิตรต่างแดนอื่นๆ ใครๆ ก็บอกว่าพระองค์เป็นผู้นำเป็น “เจ้าฟ้าหญิง” ที่ “เข้าถึง” ง่ายไม่ถือพระองค์ ไม่ว่าเสด็จไปเยือนต่างประเทศใด พระองค์จะวางตัวอย่างเรียบง่ายเหมือนคนธรรมดาทั่วๆ ไป ไม่ได้วางตัวเหนือผู้อื่นทั้งๆ ที่พระองค์มีฐานะเป็นเจ้าฟ้าหญิง อย่างเช่น ช่วงเวลาที่ทรงเสด็จไปเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง อาจารย์นชางยิง (张英) เล่าให้ฟังว่า

第一次去给公主上课,老师们都难免带些拘谨,然而,公主的随和风趣,睿智好学,让老师觉得上课过程也是一种精神享受.” ก็หมายถึงว่า “ตอนไปสอนพระองค์ครั้งแรก พวกอาจารย์อย่างน้อยก็ต้องระมัดระวังบ้าง แต่พอเจอพระองค์ กลับพบว่าพระองค์เป็นกันเองไม่ถือพระองค์ พระองค์ทรงเฉลียวฉลาดชอบเรียนรู้มากๆ ทำให้อาจารย์รู้สึกว่าในช่วงเวลาที่สอนเป็นเรื่องเพลิดเพลินเข้าถึงจิตวิญญาณไปด้วย”

ถ้าเราสังเกตจะเห็นได้ว่า ไม่ว่า “ฟ้าหญิงสิรินธร” จะทรงเสด็จไปเยือนประเทศจีนหรือที่ใดที่หนึ่ง พระองค์จะทรงแขวนกล้องถ่ายรูปอยู่ข้างหน้าหรือถืออยู่ที่มือเสมอ แล้วไม่ใช่แค่เครื่องเดียวด้วย เป็นเรื่องที่คนจีนเคยสงสัยมากๆ ซึ่งจริงๆ แล้ว ด้วยฐานะความเป็นเจ้าฟ้าหญิง พระองค์ไม่จำเป็นต้องถือหรือแขวนสิ่งต่างๆ ที่ตัวด้วยพระองค์เอง แต่สามารถให้คนข้างๆ ที่ไปด้วยกันช่วยถือก็ได้ เมื่อถูกถามพระองค์ทรงตอบว่า “ไม่เป็นไร” ทำให้คนจีนยิ่งประทับใจในตัวพระองค์มากยิ่งขึ้น เรียกพระองค์ท่านว่า诗琳通公主是平民的公主หมายความว่า “ฟ้าหญิงสิรินธร” ทรงเป็น “เจ้าฟ้าหญิง” ของประชาชนทั่วหล้า

“ฟ้าหญิงสิรินธร” ทรงมีความรักความผูกพันกับประเทศจีนอย่างแน่นแฟ้นเป็นที่ประจักษ์ของชาวจีนทั้งประเทศ ความรู้ที่พระองค์ท่านได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับประเทศจีน พระองค์ท่านได้ถ่ายทอดและ “แบ่งปัน” ทำให้คนไทยมีความเข้าใจในประเทศจีน คนจีน และวัฒนธรรมจีนมากขึ้น แล้วนึกถึงการพัฒนาประเทศตัวเองด้วย แล้วอย่างนี้จะให้คนจีนไม่เคารพรัก “ฟ้าหญิงสิรินธร” ของประเทศไทย ไม่รักและประทับใจเจ้าฟ้าหญิงพระองค์นี้เหมือนเช่นคนไทยได้อย่างไรคะ

ดังนั้น เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2552 มีการประกาศว่า ชาวจีนทั่วประเทศได้โหวตยกย่องให้ “ฟ้าหญิงสิรินธร” เป็น “มิตรที่ดีที่สุดในโลก” ของคนจีนและประเทศจีน ในฐานะที่พระองค์ทรงเป็นราชนิกุล พระองค์เดียวในโลกที่เสด็จเยือนจีนมากที่สุด เป็นเจ้าฟ้าหญิงที่คนจีนรู้จักมากที่สุด และเคารพรักพระองค์เสมือนหนึ่งเป็น “เพื่อนสนิท” ที่สุดคนหนึ่งของชาวจีนทั้งประเทศ

ทุกวันนี้ คนจีนเชื่อว่า การเสด็จเยือนประเทศจีนแต่ละครั้งของ “ฟ้าหญิงสิรินธร” ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจีนและประเทศไทยให้กระชับแนบแน่นและเจริญมั่นคงยิ่งๆ ขึ้น ทำให้คนไทยและคนจีนมีความรักความหวังดีต่อกันเสมือนหนึ่งเป็นพี่น้องในครอบครัวเดียวกันสืบเนื่องตลอดไป

เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพของ “ฟ้าหญิงสิรินธร” วันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2557 ผู้เขียนในฐานะคนจีนคนหนึ่งที่มีโอกาสได้ศึกษาภาษาไทยในประเทศไทย ขอน้อมเกล้าฯถวายพระพรชัยมงคล ขอพระองค์จงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน