เมื่อแอ๊ปเปิ้ลยึดห้องโดยสารรถยนต์ด้วย CarPlay

เมื่อแอ๊ปเปิ้ลยึดห้องโดยสารรถยนต์ด้วย CarPlay

ห่างหายท่านผู้อ่านไปหลายสัปดาห์ เนื่องจากภารกิจรัดตัว

แต่ข่าววงการดิจิทัลช่วงนี้กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ตั้งแต่เฟซบุ๊คซื้อกิจการ วอทส์แอพ มาจนถึงการเปิดตัวของมือถือกาแล็คซี่ เอส5 และ เกียร์ ฟิท ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับแถวหน้าของยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างซัมซุง และล่าสุดกับข่าวการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของแอ๊ปเปิ้ล เลยอดใจไม่ไหวจริงๆครับ ต้องหาเวลาเขียนให้ได้ :)

เรื่องราวที่น่าสนใจในชั่วโมงนี้ หนีไม่พ้นการเปิดตัว คาร์เพลย์ “CarPlay” ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่แอ๊ปเปิ้ลทำกับค่ายรถยนต์ชั้นนำระดับโลกมากมาย ในงาน เจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ที่ประเทศเยอรมนี

“คาร์เพลย์” เคยเปิดตัวในงาน WWDC 2013 ในชื่อเรียกว่า "iOS in the Car" เป็นมาตรฐานที่พัฒนาโดยแอ๊ปเปิ้ล เพื่อเชื่อมต่อกับหน้าจอแดชบอร์ดของรถยนต์ จัดเป็นอุปกรณ์ที่เรียกว่า “Infotainment” (Information + Entertainment) ทำหน้าที่ให้เชื่อมโยง แสดงผลข้อมูลและให้ความบันเทิงในรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นระบบนำทาง แผนที่ การดูหนัง ฟังเพลงต่างๆ ซึ่งอุปกรณ์ประเภทนี้ส่วนใหญ่ มักจะเป็นการผลิตโดยผู้ผลิตรถยนต์ ร่วมกับผู้ผลิตอุปกรณ์เครื่องเสียงภายในรถยนต์เอง

ความสามารถที่โดดเด่นของคาร์เพลย์ คือ การจำลองหน้าจอรูปแบบการใช้งานของแดชบอร์ดในรถแบบที่มีหน้าจอสัมผัส ให้เหมือนหน้าจอการใช้งานไอโฟน แต่เป็นฉบับย่อ สิ่งที่คาร์เพลย์ทำได้ คือ การโทรออก รับสาย ส่งข้อความ เอสเอ็มเอส มีระบบแผนที่และนำทางโดยใช้แอพแอ๊ปเปิ้ล แมพ (Apple Map) สามารถฟังพอดแคสต์และเพลงได้ ทั้งรูปแบบของการฟังเพลงที่อยู่ในเครื่องไอโฟน และในรูปแบบของมิวสิค สตรีมมิ่ง ผ่านแอพอย่าง Spotify, Stitcher และ iTunes Radio

ทั้งหมดนี้เป็นการควบคุมและสั่งงานโดยใช้การสัมผัสหน้าจอ การสั่งงานด้วยเสียง และการใช้งานสิรี (SIRI)

คาร์เพลย์ ทำงานร่วมกับไอโฟนที่ใช้ไอโอเอส เวอร์ชั่น 7.0 ขึ้นไป ผ่านพอร์ทเชื่อมต่อ Lightning ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่ 3 รุ่น คือ ไอโฟน5 , ไอโฟน5ซี และ ไอโฟน5เอส และมีข่าวว่าในอีกไม่นาน คาร์เพลย์ จะสามารถทำงานร่วมกับไอโฟนผ่านการเชื่อมต่อไวไฟได้

ในงานเจนีวา อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ มีค่ายรถยนต์ชั้นนำ 3 ค่ายใหญ่ คือ เฟอร์รารี่ , เมอร์ซิเดส-เบนซ์ และวอลโว่ ที่เปิดตัว คาร์เพลย์ของแอ๊ปเปิ้ล โดยจะเริ่มจำหน่ายรถยนต์ที่รองรับ คาร์เพลย์เป็นอุปกรณ์เสริม

และไม่ใช่แค่ 3 ยี่ห้อนี้ครับ เพราะหลังจากงานนี้ ก็จะมีรถยนต์จากค่ายอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น บีเอ็มดับเบิลยู, เชฟโรเล็ต, ฮอนด้า, ฮุนได, จากัวร์, นิสสัน, ฟอร์ด, เกีย, เปอร์โยต์ ซีตรอง ,ซูซูกิ, มิตซุบิชิ และโตโยต้า ต่างเตรียมที่จะใส่อุปกรณ์เสริม คาร์เพลย์ ลงไปในรถยนต์รุ่นที่วางขายในปี 2557 ทั้งนั้น เรียกได้ว่าผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลก เอาด้วยกับแอ๊ปเปิ้ลหมด ทำให้ คาร์เพลย์ เป็นมาตรฐานที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

น่าจับตามอง เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่แอ๊ปเปิ้ลจริงจังกับการยึดครองห้องโดยสารรถยนต์ส่วนตัว หลังมีความพยายามจะยึดครองห้องนั่งเล่นในบ้าน ด้วยแอร์เพลย์และแอ๊ปเปิ้ล ทีวีมาแล้ว

มาตรฐานแบบเดียวกันจากคู่แข่ง เช่น Windows Embedded Automotive ของไมโครซอฟท์ และ Open Automotive Alliance ของกูเกิลก็ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้ ทำให้ตลาดนี้ยังเปิดกว้างอีกมาก เป็นความท้าทายของแอ๊ปเปิ้ลที่เหมือนเป็นการเปลี่ยนรถยนต์ส่วนบุคคล ให้กลายเป็นอุปกรณ์เสริมของไอโฟน

เป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผู้ใช้ไอโฟน ที่ต่อไปนอกจากใช้เป็นโทรศัพท์แล้ว ยังใช้งานในรถได้ดีอีก ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกคุ้มค่า สร้างความจงรักภักดีในแบรนด์ ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลต่อยอดขายไอโฟนไม่มากก็น้อย และยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ อีโคซิสเต็มส์ ทั้งหมดของแอ๊ปเปิ้ล เพราะต่อไปนักพัฒนาสามารถสร้างแอพเพื่อรองรับการใช้งานในรถยนต์ได้อีก

ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกกว่า 15 ล้านคันในปี 2556 ทำให้ตลาดนี้น่าสนใจมาก และจากข้อมูลของแอ๊ปเปิ้ลเองที่บอกว่า 95% ของรถยนต์ส่วนบุคคลในสหรัฐ มีการเชื่อมต่อกับไอโฟนและไอพอดเพื่อฟังเพลงในรถอยู่แล้ว แอ๊ปเปิ้ล มีความได้เปรียบคู่แข่งรายอื่นในตลาดนี้อยู่ไม่น้อย ทั้งความแข็งแกร่งในอีโคซิสเต็มส์ของตัวเอง และการดึงพันธมิตรยักษ์ใหญ่ระดับโลกมาร่วมอย่างมากมาย เชื่อว่า สมรภูมิร้อนแรงถัดจากมือถือ แทบเล็ต ห้องนั่งเล่น คงต้องเป็นห้องโดยสารในรถยนต์แน่นอน

ติดตามการวิเคราะห์ธุรกิจดิจิทัลที่น่าสนใจได้จาก www.facebook.com/mkthub เช่นเคย