เรื่องการเมืองกับแบรนด์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค

เรื่องการเมืองกับแบรนด์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค

ต้องบอกว่าเปิดมาต้นปี 2557 นี้ผมคิดว่าแวดวงโซเชียลเน็ตเวิร์คอาจจะเงียบๆ

เช่นไตรมาสแรกของทุกปีเหมือนที่เคยเป็นมา แต่เอาเข้าจริงๆ ไม่ใช่เลยครับคุณผู้อ่าน ต้นปีนี้มีประเด็นเด่นประเด็นดังในโซเชียลมีเดียมาให้ได้ลุ้นกันตลอด โฟกัสเรื่องใหญ่ก็คงเป็นการเมืองนั่นละครับ

เพื่อเป็นการป้องกันแบรนด์และองค์ของคุณผู้อ่านให้อยู่รอดปลอดภัยในสถานการณ์บ้านเมือง การเมือง ที่รุมเร้าอยู่บนโลกโซเชียลมีเดียในขณะนี้ ผมก็เลยมีเทคนิค นิดๆ หน่อยๆ เอามาเล่ามาเขียนให้คุณผู้อ่านได้ทราบและเตรียมนำไปใช้รับมือกันครับ

อันตรายและภัยคุกคาม เรื่องการเมืองต่อแบรนด์ ในโซเชียลเน็ตเวิร์ค เรื่องนี้เป็นเรื่องเป็นประเด็นลากยาวกันมาตั้งแต่ปลายปีจนมาต้นปีนี้ ไม่รู้ว่าจะจบยังไงเลยครับ ในส่วนของแบรนด์สินค้า องค์กร ต้องระวังให้ดีครับ มีเรื่องให้ได้คิดกันละเอียดอ่อนว่าระหว่าง "ผู้นำองค์กร" และ "องค์กร" เป็นเรื่องเดียวกันกับทัศนคติทางการเมืองในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คหรือไม่ ตอบเลยว่า ไม่ครับ

ต้องบอกว่าเจ้าของแบรนด์สินค้าและภาพรวมขององค์กรอาจจะเป็นคนละเรื่องเดียวกันนะครับ เช่น เจ้าของบริษัทชอบเสื้อแดงหรือเหลือง ซึ่งก็ไม่ได้หมายความทั้งองค์กรนั้น หรือแบรนด์นั้นจะสะท้อนแนวคิดแดงหรือเหลืองตามไปด้วยหมดนะครับ

แต่ว่า แต่ว่า แต่ว่า ... ขอย้ำสักหน่อยครับ ข้อเท็จจริงก็เป็นดังที่ผมว่านั่นละครับคุณผู้อ่าน เอาเข้าจริงๆ ไม่ใช่ครับ ผู้นำองค์กร แบรนด์ บริษัท สำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์คในเมืองไทย เหมือนจะกลายเป็นเรื่องเดียวกันในทัศนคติทางการเมืองไปแล้ว

พูดง่ายๆว่า ถ้าเจ้าของบริษัทออกมาเดินขบวนร่วมกับการชุมนุมใดชุมนุมหนึ่ง คนในโซเชียลเน็ตเวิร์ค ก็จะเชื่อไปในทำนองเดียวกันนั่นละครับว่า อ๋อ ... แบรนด์ของคุณก็คงจะเป็นดังที่คุณเชียร์กลุ่มนั้นๆ อยู่สินะ

จะเห็นได้ว่าที่ผ่านๆมา มีหลายแบรนด์ หลายองค์กร สังเวยเรื่องนี้ไปพอสมควร กลายเป็นแบรนด์ทับแบรนด์อีกทีเลยว่า สินค้านี้สีอะไร ทัศนคติทางการเมืองเป็นอย่างไร ซึ่งตรงนี้ก็ค่อนข้างอันตรายมากสำหรับการสร้างแบรนด์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คครับ เพราะจะไปเร็ว และมีพลังในการต่อต้านต่อแบรนด์นั้นๆ ค่อนข้างสูง

ดังนั้นอันตรายและภัยคุกคาม เรื่องการเมืองต่อแบรนด์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คนั้น คุณผู้อ่านต้องระวัง และวางตัวดีๆครับ ผมเชื่อว่า ถึงแม้เราจะแยกแยะชัด และวางตัวได้ชัดเจนดีแล้ว แต่บางครั้งก็แยกไม่ออกและกลายเป็นเรื่องเดียวกันไปจนได้สำหรับโซเชียลเน็ตเวิร์ค

อันตรายต่อแบรนด์และองค์กรมีค่อนข้างสูง การออกตัวและวางตัวให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในช่วงนี้ ก็น่าจะเป็นเรื่องที่ผู้นำแบรนด์ และองค์กร อาจจะต้องคิดและใส่ใจกันสักหน่อยว่า จะทำอย่างไรให้เรารอดพ้นปลอดภัยในสงครามการเมืองสำหรับโลกโซเชียลเน็ตเวิร์ค ณ ขณะนี้ครับ