คุ้มหรือไม่ "กูเกิล ซื้อ Nest Labs" 3.2 พันล้านดอลลาร์

คุ้มหรือไม่ "กูเกิล ซื้อ Nest Labs" 3.2 พันล้านดอลลาร์

การที่กูเกิลซื้อบริษัทที่มีอดีตพนักงานแอ๊ปเปิ้ลเป็นร้อยคนทำงานอยู่ ย่อมได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม

แวดวงเทคโนโลยีคึกคักกันตั้งแต่ต้นปีเลยครับ โดยเฉพาะข่าวการซื้อกิจการบริษัท Nest Labs ของ "กูเกิล" ที่สูงถึง 3,200 ล้านดอลลาร์ มีหลายอย่างน่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง

บริษัท Nest Labs เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ไฮเทคที่เรียกว่า "Connected Home" อุปกรณ์ติดตั้งในบ้านและต้องเชื่อมอินเทอร์เน็ตในการทำงาน เปลี่ยนบ้านธรรมดาๆ ให้เป็นบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) เป็นแนวคิดในฝันของบริษัทผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าชั้นนำมาหลายปี แค่ประวัติของ Nest Labs ก็น่าสนใจแล้วครับ เพราะก่อตั้งโดยอดีตพนักงานแอ๊ปเปิ้ลระดับคีย์แมน 2 คน

คนแรกคือ Tony Fadell รู้จักกันดีว่าเป็น "บิดาแห่งไอพอด" เพราะเป็นผู้ที่ออกแบบและสร้างไอพอดขึ้นมา ได้รับโปรโมทเป็นผู้บริหารทีมไอพอดเมื่อปี 2006 ก่อนลาออกจากแอ๊ปเปิ้ลปี 2008 คนที่ 2 คือ Matt Rogers มีบทบาทสำคัญในการออกแบบซอฟต์แวร์ที่ใช้กับไอพอด เป็นหนึ่งในทีมวิศวกรคนแรกๆ ที่ร่วมทีมไอโฟนรุ่นแรก และยังเป็นทีมงานที่ร่วมพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้บนไอแพด ก่อนลาออกจากแอ๊ปเปิ้ลในปี 2010

ทั้งคู่ออกมาตั้งบริษัทสตาร์ทอัพร่วมกันชื่อ Nest Labs เมื่อปี 2010 เริ่มจากควักเงินตัวเองมาลงทุนสร้างต้นแบบของผลิตภัณฑ์ และนำตัวต้นแบบนี้ไปขอเงินลงทุนสนับสนุนจาก Venture Capital หลายราย หนึ่งในนั้น คือ Google Ventures ซึ่งเป็นหน่วยงานกูเกิลที่ดูแลเรื่อง Venture Capital ในเวลา 3 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้ง Nest Labs มีพนักงานกว่า 200 คน

ที่น่าสนใจ คือ พนักงานเกินครึ่งกว่า 100 คน มาจากแอ๊ปเปิ้ล เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่น่าสนใจมากครับ เพราะการที่กูเกิลซื้อบริษัทที่มีอดีตพนักงานแอ๊ปเปิ้ลเป็นร้อยคนทำงานอยู่ ย่อมได้รับประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม เช่น การนำทักษะการออกแบบ ประสบการณ์ต่างๆ ที่มีกับแอ๊ปเปิ้ล มาพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ให้กูเกิล สามารถถ่ายทอด know how เพื่อพัฒนาทักษะให้พนักงานกูเกิลได้

เมื่อต้นปี 2013 Nest Labs เพิ่มทุนกว่า 80 ล้านดอลลาร์เพื่อขยายกิจการ ด้วยมูลค่าบริษัท 800 ล้านดอลลาร์ขณะนั้น ผ่านไปเกือบปี Nest Labs ก็เตรียมระดมทุนอีกครั้งกว่า 150 ล้านดอลลาร์ กับมูลค่าของบริษัทถูกประเมินอยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ กูเกิลตัดสินใจตัดหน้าซื้อก่อนระดมทุนด้วยมูลค่า 3,200 ล้านดอลลาร์ เพราะคิดแล้วว่าถ้าระดมทุนสำเร็จ มูลค่าอาจแพงขึ้นอีก รีบซื้อตอนนี้จะดีกว่า

Nest Labs มีผลิตภัณฑ์หลักอยู่ 2 ตัว คือ เครื่องควบคุมอุณหภูมิห้องอัจฉริยะ (Nest Thermostat) ที่วางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2011 และเครื่องตรวจจับควันและคาร์บอนมอนอกไซด์ (Smoke & Carbon monoxide Detector) ชื่อ “Nest Protect” ที่เพิ่งเปิดตัวไปในปี 2013

ตัว Nest Thermostat เป็นอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิในบ้านแบบอัจฉริยะ ใช้เทคโนโลยีซับซ้อนและล้ำหน้าในการเก็บข้อมูลและตัดสินใจแทนคนในการควบคุมสภาพอากาศ ปรับเปลี่ยนอุณหภูมิในห้อง ช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดไฟฟ้า อาศัยการประมวลผลจากข้อมูลการใช้งานของคน การพยากรณ์อากาศ สภาพอากาศปัจจุบันและข้อมูลอื่นๆรวมกัน

นอกจากนี้ตัว Nest Thermostat ยังมีความสามารถอัพเดทซอฟต์แวร์ภายในเพื่อแก้ไขความผิดพลาด (bugs) และเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆ ได้อัตโนมัติ เพราะได้เชื่อมต่อกับไวไฟตลอดเวลา

จุดเด่นผลิตภัณฑ์นอกจากความอัจฉริยะภายใน ยังมีการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงามและใส่ใจทุกรายละเอียด เรียบง่าย สะดวกใช้งานควบคุมระยะไกลโดยใช้แอพบนสมาร์ทโฟน

ปัจจุบัน Nest Thermostat มียอดราว 40,000-50,000 เครื่องต่อเดือน การซื้อกิจการ Nest Labs สอดคล้องแนวคิดและวิสัยทัศน์ของ แลรี่ เพจ คือ ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยีแก้ปัญหาที่คนทั่วโลกเจอทุกวัน และต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับการใช้ชีวิตแต่ละวันด้วย เป็นเหตุผลที่ทำไมกูเกิล ต้องทำโทรศัพท์ ต้องมีทีวี ต้องมี กูเกิล กลาส

จิ๊กซอว์ของกูเกิล ณ ตอนนี้ยังมีหุ่นยนต์ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนได้เองโดยไม่ต้องอาศัยคนขับ และผลิตภัณฑ์ที่ Nest Labs ทำ เข้ามาเพิ่มความสมบูรณ์อีโคซิสเต็ม การซื้อ Nest Labs นอกจากจะได้ผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กรและวิสัยทัศน์ผู้นำแล้ว ยังได้ความรู้และ Know how ต่างๆ จากอดีตพนักงานแอ๊ปเปิ้ลนับร้อยคน รวมถึงการมีผู้นำด้านนี้ที่เก่งมากอย่าง Tony Fadell และ Matt Rogers มาช่วยผลักดัน

เป็นการซื้อกิจการที่คุ้มเกินคุ้ม เรียกได้ว่า งานนี้แอ๊ปเปิ้ลมีหนาวครับ