GPS for The Soul เทรนด์สวนกระแสโลกโมเดิร์น

GPS for The Soul เทรนด์สวนกระแสโลกโมเดิร์น

ทุกๆเดือนแรกของปี หลายคนคงมีความหวังที่ดีและจุดหมายใหม่ๆ ที่จะเริ่มต้นในปี 2014 ในแง่ของเทรนด์ที่มาแรงพร้อมๆ ไปกับ New Year’s Resolutions

และได้รับการจับตามองในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ คือ เทรนด์การพัฒนาด้านจิตใจและจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์ ก้าวผ่านความสวยงามภายนอกและความฟิตแอนด์เฟิร์มของสุขภาพร่างกาย มาสู่ความลึกซึ้งจากภายในอย่างแท้จริง

ความเป็นเทรนด์สวนกระแส ที่เรามักจะเรียกกันว่า Counter-Trend นั้น เปรียบเทียบได้ในลักษณะความเป็น "หยินและหยาง" ที่สร้างความสมดุลและนำกลับมาสู่ความปกติของการใช้ชีวิต เมื่อ Trend คือ เกิดจากการใช้ชีวิตเต็มที่ไปกับ "ดิจิทัล โซเชียล" และการพัฒนาด้านวัตถุและเทคโนโลยีนั้น ทำให้ผู้คนรู้สึกต้องก้าวให้เร็วขึ้นในทุกวินาที ตัดขาดจากโลกภายนอกผ่านจอสมาร์ทโฟนไม่ได้ และอยากได้สิ่งใหม่ๆ มาโชว์และแชร์อยู่ตลอดเวลา

Counter-Trend ก็คือการ ที่สังคมและผู้คนหันกลับมาโหยหาความหมายในชีวิตที่มากไปกว่าความหวือหวาไร้สาระ ตอบโจทย์ Big Question ว่าเกิดมาบนโลกเพื่อทำอะไร และบทบาทของความเป็นคน ในการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือโลกที่เราอยู่

ในแง่การสื่อสารการตลาดในปี 2014 มี 3 มุมมองของตัวช่วยนำทางจิตใจ ที่จะสร้างสรรค์บทบาทใหม่ๆ ให้กับแบรนด์และแนวคิดบวกๆ ต่อชีวิตผู้บริโภคในปีนี้

1.รักตัวเองที่ตัวตน (Beautiful Soul) เริ่มจากเรื่องที่ไม่พูดไม่ได้ในปีนี้ คือ เรื่องของการยอมรับตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง และไม่ยึดติดไปกับความสวยสมบูรณ์แบบผ่านแอร์บรัช ดารานักร้องที่ออกมาแสดงตัวตนต่อต้านภาพลักษณ์ความสวยงามแบบจอมปลอมผอมเว่อร์ เช่น Jennifer Laurence ต่อต้านการประณามคนอื่นอ้วน และ Lady Gaga ไม่พอใจกับภาพถ่ายตัวเองที่รีทัชดูดีเกินตัวจริง เป็นที่พูดถึงในวงกว้าง

หลายๆ แบรนด์ด้านความงามและสุขภาพ ผลักดันให้ผู้หญิงละทุกข์จากการพยายามเพื่อความสวยที่เป็นไปไม่ได้ หรือเพื่อได้รับความยอมรับจากการพยายามเป็นเหมือนคนดัง และหันมามีความสุขกับตัวตนจริง รักภาพลักษณ์จริงของตัวเอง และพอใจกับชีวิตจริง

2.พัฒนาสติสไตล์คนเมือง (Modern Mindfulness) ในขณะที่ความสงบจิตสงบใจอาจดูขัดกับกระแสความไม่หยุดนิ่งและรวดเร็วของดิจิทัล เทคโนโลยี ผู้บริโภคทั่วโลกต่างเปิดรับวัฒนธรรมใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตที่ช้าลง เช่น การฝึกสมาธิ ใช้ชีวิตกับปัจจุบัน และลดเสพติดวัฒนธรรมสมาร์ทโฟน โดยหันเอาเวลาดิจิทัล มาทำอะไรที่สร้างคุณค่ากับเวลาที่มีในชีวิต

แอพพลิเคชั่นใหม่ๆ เช่น Headspace, Buddhify และCalm เป็นต้น ตอกย้ำการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในการพัฒนาคุณภาพจิตใจในชีวิตประจำวัน ปลีกไม่กี่นาทีจากโลกที่วุ่นวายมาอยู่กับสติ ฝึกสมาธิ รวมไปถึงการพัฒนาอารมณ์เชิงบวกในแง่ต่างๆ เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับแบรนด์ในการให้คุณค่าของการใช้สติในยุคดิจิทัล

3.จุดยืนและจุดหมายของชีวิต (Life Calling) โจทย์ใหญ่ที่สุดในพื้นที่ชีวิตของผู้บริโภคในปีนี้ เน้นหนักไปในการหาความหมายให้กับชีวิตตัวเอง เข้าใจความต้องการของตัวเอง และตระหนักถึงศักยภาพที่ตัวเองมี เพื่อนำไปสร้างประโยชน์และตอบสนองความภูมิใจในคุณค่าของชีวิต

เทรนด์ของธุรกิจพัฒนาตัวเองยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยผู้บริโภคเชื่อในการหามุมมองใหม่ๆ ที่จะเข้ากับการใช้ชีวิตของตนเอง บทบาทของแบรนด์ในการสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่า แต่ไม่ดูเวิ่นเว้อมากไปนักและการให้ผู้บริโภครู้จักตัวเองดีขึ้น ด้วยคอนเทนท์ สไตล์ How-To สำหรับการใช้ชีวิต ผ่านช่องทางดิจิทัลเป็นที่น่าจับตามอง

ในภาพรวมของเทรนด์นี้ คุณค่าใหม่ๆ ที่จะเพิ่มคุณค่าชีวิตให้กับผู้บริโภคเป็นอีกมุมมอง ที่หลายๆ แบรนด์มองข้ามไม่ได้ หนึ่งในนั้นคือคอนเทนท์ โซเชียล หรือออนไลน์ วีดิโอที่มีโปรดักชั่นคุณภาพสูงและเต็มไปด้วยเนื้อหาสร้างสรรค์ที่ท้าทายสังคมถูกชี้ว่าจะมาแรงในยุคที่แบรนด์หันมาเล่าเรื่องราวของตนอย่างมีกลยุทธ์ดิจิทัล ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้ตรงจุดมากขึ้น