คลื่นโซเชียลมีเดียซัดเว็บไซต์ กลืนหาย .... อย่างเป็นทางการ

คลื่นโซเชียลมีเดียซัดเว็บไซต์ กลืนหาย .... อย่างเป็นทางการ

จำนวนคนเข้าใช้เว็บไซต์น้อยลงผิดหูผิดตา บริการ และเว็บไซต์ต่างๆ พากันปิดตัวลงเป็นจำนวนมาก

จะสิ้นปี 2556 กันแล้วนะครับ ผ่านไปอีกทีกระแสก็ยังไม่ตกสำหรับโซเชียลมีเดีย ทั้งในบ้านเราและต่างประเทศ ผมเขียนถึงการเปลี่ยนผ่านในยุคดั้งเดิมมาสู่ยุคที่นักการตลาดจำเป็นต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคใหม่ ในยุคที่เป็นดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง กันแบบเต็มตัวแล้วก็ว่าได้สำหรับเมืองไทย

จากเมื่อสัก 5 - 6 ปีที่แล้วที่นักการตลาดบ้านเราเริ่มรู้จักและใช้เครื่องมือการตลาดตัวใหม่ที่เราเรียกกันว่าโซเชียลมีเดีย มีการเชื่อมโยงของเนื้อหาและผู้สร้างในแบบที่เรียกว่าโซเชียล เน็ตเวิร์ค จะเป็นยี่ห้อใดก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเฟซบุ๊ค อินสตาแกรม โซเชียลแคม ทวิตเตอร์ สุดแท้แต่จะอยู่ที่ความเหมาะสมของนักการตลาดที่จะไปเลือกใช้กับตามความเหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่เราอยากจะคุยด้วยกันครับ

เรียกว่าเราใช้เครื่องมือการตลาดยุคใหม่นี้กันมาจริงๆ จังๆ ทำเป็นแคมเปญ บริษัทโฆษณา หรือเอเจนซี่ใหญ่ๆ บ้านเราตอนนี้ทุกบริษัทถ้าไม่มีบริษัทลูกที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูงานด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งโดยเฉพาะ ก็จะตั้งเป็นกลุ่มธุรกิจย่อยขึ้นมาดูเป็นเรื่องเป็นราวเลยครับคุณผู้อ่าน

ตัวเลขการตลาดที่คิดเป็นส่วนแบ่งจากมีเดียใหญ่ๆเพียง 1-2% กลายเป็น 10-16% อย่างรวดเร็ว เม็ดเงินใช้จ่ายเป็นหลักเกือบจะพันล้านแล้วสำหรับตลาดดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ที่ยึดครองโดย "โซเชียล มีเดีย" นี่ละครับคุณผู้อ่าน

ผมเกริ่นภาพให้ฟังมายาวนาน ก็เพราะอยากจะเล่าเรื่องการเปลี่ยนผ่านของสื่อจากยุคหนึ่ง เป็นอีกยุคหนึ่ง เครื่องมือทางการตลาดหนึ่ง เป็นอีกเครื่องมือหนึ่งที่มีรูปแบบแตกต่างกันไป

เครื่องมือดั้งเดิมของนักการตลาดดิจิทัลรุ่นผมนั้น (ฟังดูเก่าแก่เชียวครับ) คงหนีไม่พ้นที่จะพูดเรื่อง "เว็บไซต์" ไปไม่ได้ละครับ

เว็บไซต์อยู่คู่กับการทำการตลาดดิจิแบบดังเดิมมายาวนานเกินกว่า 15 ปีแล้วสำหรับเมืองไทย

เราทำกันสารพัดสิ่งที่นักการตลาดยุคเว็บไซต์จะคิดได้มาเยอะมากเลย ทำเว็บไซต์เป็นแบรนด์ไซต์ ทำไมโครไซต์ ทำจดหมายร่อนอิเล็กทรอนิกส์ และที่ฮิตที่สุดสมัยนั้นคือทำ "แคมเปญไซต์" ที่บรรดาครีเอทีฟในยุคผมนั้นคิดกันมาสารพัด ทั้งเกมส์ ชิงโชค ลงทะเบียน ตอบคำถาม เรียกได้ว่า มากสิ่งมากไอเดียที่จะคิดกันได้ในยุคนั้นละครับ

ผมพูดมาอย่างนี้ก็เพียงจะสรุปให้คุณผู้อ่านทราบละครับว่า ในขณะนี้ เราได้เวลาที่จะบอกลาเจ้าเครื่องมือดิจิทัลยุคดั้งเดิมที่เรียกว่าเว็บไซต์กันแล้วละครับคุณผู้อ่าน

จำนวนคนเข้าใช้เว็บไซต์น้อยลงผิดหูผิดตา บริการต่างๆ เว็บไซต์ต่างๆ พากันปิดตัว ปิดกิจการกันไปเป็นจำนวนมาก สารพัดแบรนด์ สินค้า หันมาทำการตลาดกันบนโซเชียลมีเดีย ด้วยรูปแบบโซเชียลคอนเทนท์ และพยายามผลักดันให้เป็นการตลาดแบบ ไวรัล มาร์เก็ตติ้ง ถ้าทันสมัยกว่า เราก็ทำเป็น วีดิโอมาร์เก็ตติ้งกันไปอย่างแพร่หลายในตอนนี้

ปีใหม่ปีนี้จึงเป็นบทสรุปของการจากไปของสื่อดิจิทัลดั้งเดิมอย่างเว็บไซต์กันอย่างเป็นทางการครับ จะเหลือเพียงแต่เว็บข้อมูลข่าวสาร บริการเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้นเองที่ยังคงอยู่ต่อไปด้วยเนื้อหาเฉพาะทางนะครับ

แต่สำหรับพื้นที่การตลาดแบบดิจิทัลบนเว็บไซต์ ก็คงเหลือเพียงแค่ดิสเพลย์แอทธรรมดาๆเท่านั้นเอง และนับวันก็คงจะน้อยลงไปตามกาลเวลา อ่านแล้วก็เศร้า แต่ก็นักการตลาดรุ่นใหม่อย่างเราก็ต้องปรับต้องเปลี่ยนไปให้ทันยุคทันสมัยนะครับ

ปีหน้ามีอะไรใหม่ๆบ้าง ไว้ผมจะมาเขียนอัพเดทให้อ่านครับคุณผู้อ่าน