จะปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผลจริงๆ ได้อย่างไร

จะปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผลจริงๆ ได้อย่างไร

ในบรรดาปัญหา ทั้งทางเศรษฐกิจ การเมือง สังคมที่รุมเร้าประเทศไทยอยู่ ปัญหาที่สำคัญที่สุด ซึ่งถ้าแก้ได้ผล จะนำไปสู่การแก้ปัญหาอื่นๆ อย่างมาก

คือ การปฏิรูปการจัดการศึกษาให้มีคุณภาพสูงขึ้นทั่วทั้งประเทศ ทำให้คนไทยส่วนใหญ่ฉลาดแบบคิดวิเคราะห์เป็น มีความรู้ทักษะและจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม เราจึงจะแก้ปัญหาและพาประเทศก้าวข้ามวิกฤตได้อย่างแท้จริง

ถ้าเราไม่สนใจแก้ปัญหานี้ให้ได้ผลจริง พลเมืองส่วนใหญ่ที่มีความรู้ ทักษะต่ำ จะทำให้เศรษฐกิจ การเมือง สังคมไทย ที่มีความล้าหลังอยู่แล้ว ยิ่งตกต่ำลงไปกว่านี้อีกมาก

เพราะการปฏิรูปการศึกษาเป็นเรื่องชี้ขาดความเป็นความตายสำหรับประเทศชาติ ซึ่งใหญ่กว่าพรรคการเมือง การจะปฏิรูปการศึกษาได้ก้าวข้ามเรื่องการหาเสียงทางการเมืองแบบพรรคใครพรรคมัน พวกใครพวกมัน ก้าวข้ามการที่รัฐบาลต้องเอาใจหาเสียงจากครูอาจารย์ พ่อแม่ผู้ปกครอง ก้าวข้ามเรื่องการฝากครูฝากเด็กของนักการเมืองและหัวคะแนน นั่นก็คือ ต้องกล้าฟันธงปฏิรูปการศึกษาอย่างไม่เกรงใจใคร กล้าแก้ไขอุปสรรคทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อผลประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ และของประเทศชาติ

การศึกษาไทยที่ล้าหลังกว่าประเทศอื่นๆ มาก มีสาเหตุใหญ่มาจากระบบการบริหารงานแบบรวมศูนย์อำนาจที่ส่วนกลาง (รวมทั้งคณะกรรมการครูและเขตการศึกษา) ที่ผู้บริหารขาดวิสัยทัศน์เพื่อส่วนรวม ขาดความรู้ความสามารถในการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งมีการทุจริตฉ้อฉล แสวงหาผลประโยชน์ อำนาจ ทางแก้ไขคือ ต้องแก้ไขปรับรื้อถอนระบบบริหารงานการศึกษาอย่างขนานใหญ่ ทั้งปัญหาตัวบุคคล และการปรับปรุงระบบบริหารใหม่ให้เป็นการกระจายอำนาจแบบประชาธิปไตยเครือข่ายแนวราบ ที่ครู ผู้ปกครอง นักเรียน นักศึกษา สามารถตรวจสอบคานอำนาจผู้บริหารระดับต่างๆ โดยเฉพาะครูใหญ่ ผู้อำนวยการ คณบดี อธิการบดี ฯลฯ ได้ เร่งกระบวนการสอบสวน การร้องเรียนเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบของผู้บริหาร ครู อาจารย์ ให้มีประสิทธิภาพ ตรงไปตรงมา รวดเร็ว กล้าฟันธงเปลี่ยนแปลงแบบปลด โยกย้ายคนที่ตำแหน่งสูงแต่ทุจริตฉ้อฉลหรือทำงานไม่เป็นออกไป และหาคนที่ซื่อตรงกว่า มีประสิทธิภาพกว่ามาทำงานแทน

ครูอาจารย์ในระบบราชการมีทั้งส่วนที่มีความรู้ตั้งใจทำงานและส่วนที่ค่อนข้างล้าหลัง คิดอะไรอยู่ในกรอบ และทำงานกินเงินเดือนไปวันๆ เพื่อตัวเองมากกว่าเพื่อเยาวชน ควรประเมินผลงานครูอาจารย์ ข้าราชการทั้งหมด ใครได้คะแนนต่ำที่สุดควรให้เกษียณก่อนอายุ 60 ปี และรับสมัคร โอนย้าย คนเก่งๆ จากกระทรวงอื่น เช่น สาธารณสุข การคลัง ต่างประเทศ วิทยาศาสตร์ ฯลฯ ผู้สนใจและเข้าใจว่าปัญหาการปฏิรูปศึกษาคือเรื่องสำคัญและเร่งด่วนสำหรับการปฏิรูปประเทศชาติ เข้ามาทดแทนในตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างยืดหยุ่น รวมทั้งรับสมัครคนมีประสบการณ์จากภาคธุรกิจเอกชน ภาคสังคมประชา เข้ามาเป็นผู้บริหารและครูอาจารย์ได้ด้วย เราจะได้บุคลากรที่หลากหลาย มีความคิดใหม่ ทำอะไรใหม่ๆ ช่วยกันปฏิรูปการศึกษาให้ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น การจะดึงดูดคนเก่งๆ มาทำงานด้านการศึกษาได้ต้องปรับเงินเดือนและเปลี่ยนวิธีการทำงานให้เป็นประชาธิปไตยแบบครูอาจารย์แต่ละคนมีอิสระและความรับผิดชอบในการทำงานส่วนร่วมตัดสินใจเพิ่มขึ้น

การปฏิรูปครู การเรียน การสอน การสอบ

การปฏิรูปการศึกษาอนุบาลทั่วประเทศให้มีคุณภาพเท่าโรงเรียนอนุบาลดีๆ ที่มีครูจบด้านอนุบาลโดยเฉพาะ สอนแบบเตรียมความพร้อมให้สอดคล้องกับสมองของเด็ก ส่งเสริมให้เด็กอยากรู้อยากเห็น รักการอ่าน อ่านได้ดี (ปฏิรูปการสอนภาษาไทยให้มีคุณภาพ) จะเป็นการพัฒนาการศึกษาขั้นรากฐานที่ได้ผลคุ้มค่ามากที่สุด เด็กที่รักการอ่าน อยากรู้อยากเห็น จะเรียนได้ดีขึ้นในระดับชั้นที่สูงขึ้น ถ้าเด็กไทยฉลาดคิดวิเคราะห์ได้ กล้าตั้งคำถามมากขึ้น จะทำให้ครูอาจารย์ที่ตอบเด็กไม่ค่อยได้ ต้องไปอ่านหนังสือ ศึกษาด้วยตัวเองเพิ่มขึ้น การศึกษาไทยก็จะดีขึ้นตามมา

การปฏิรูปสถาบันฝึกหัดครูต้องหาทางปรับรื้อให้พ้นจากระบบข้าราชการประจำและการมีคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์มากไปและรับนักศึกษา ที่คุณภาพปานกลาง ค่อนข้างต่ำมากไป ให้ได้ ควรจัดตั้งองค์กรกลางที่สามารถประเมินได้อย่างมีประสิทธิภาพจริง (ไม่ใช่ประเมินตามรายงานและการให้คะแนนประกันคุณภาพเชิงปริมาณ) ว่าคณะครุศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ ที่ไหนเข้มแข็งที่สุด แล้วส่งเสริมให้เป็นสถาบันฝึกหัดครูหลักเพียง 5 แห่ง คือ ในกรุงเทพและภูมิภาคต่างๆ ภาคละ 1 แห่ง แล้วขอโอนย้ายอาจารย์เก่งๆ จากสถาบันต่างๆ ให้มาร่วมกันทำงานที่สถาบัน 5 แห่งนี้ โดยควรเปลี่ยนให้เป็นองค์กรอิสระนิติบุคคล แบบโรงเรียนมหิดลอนุสรณ์ เพื่อทำให้การบริหารคล่องตัว ทำงานได้มีประสิทธิภาพทั้งแง่การสอน และการวิจัยเรื่องประสิทธิภาพการเรียนการสอน ซึ่งเรายังขาดอยู่มาก การมีสถาบันฝึกหัดครูชั้นเยี่ยมเพียงน้อยแห่ง คัดเลือกนักศึกษาเก่งๆ จำนวนที่เหมาะสม มีทุนให้ มีการรับประกันการทำงานให้ (เพื่อชดใช้ทุนแบบเดียวกันนักศึกษาแพทย์) จะสร้างครูที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นได้มากกว่าระบบเดิม

ครูที่ทำงานอยู่เดิมก็ควรมีการทดสอบประเมินผลความเอาใจใส่ความรู้ความสามารถการทำงานและที่มีคุณภาพประสิทธิภาพ เลิกวิธีการขอวิทยฐานะแบบเขียนรายงานส่ง ซึ่งไม่ได้วัดอะไรได้อย่างแท้จริง ครูที่เก่ง ทำงานดี ตั้งใจทำงาน ควรส่งเสริม จัดการฝึกอบรม ให้ทุนไปศึกษาต่อ และส่งเสริมพัฒนาให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ เพื่อให้ครูทำงานได้กว้างขวางและพัฒนาตนเองได้เพิ่มขึ้น ครูที่สอนเก่งสามารถเลื่อนขั้นสูงโดยไม่จำเป็นต้องขึ้นสู่ตำแหน่งผู้บริหารเสมอไป ครูที่มีผลงานปานกลางก็ต้องพยายามให้การศึกษาใหม่ ส่วนครูระดับที่ไม่ค่อยมีความรู้และสอนไม่เก่ง ไม่ตั้งใจเรียนรู้ มีปัญหาด้านต่างๆ ควรเลิกจ้าง ให้เกษียณแบบภาคบังคับ โดยจ่ายชดเชยตามแนวกฎหมายแรงงาน หรือถ้าบางคนอายุยังน้อยและพอทำงานอย่างอื่นเช่น งานธุรการ งานสนับสนุนการสอนได้ก็ย้ายให้ไปทำงานนั้น เพื่อจะได้จ้างครูใหม่ที่เก่งกว่า ดีกว่ามาทดแทน

ปัญหาสำคัญที่ต้องปฏิรูปคู่กันไป คือ เรื่องการสอบวัดผล รวมทั้งการสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบเก่าที่ยังเน้นการสอบปรนัยจดจำข้อมูลอยู่ ทำให้ครูสอนแบบบรรยายนักเรียนเพื่อสอบ ต้องปฏิรูปใหม่ให้เป็นการเรียนและวัดผลเพื่อให้ผู้เรียนได้มีความรู้ ทักษะแบบการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ ได้มีความฉลาดทางอารมณ์และจิตสำนึกเพื่อสังคมด้วย ตัวอย่างข้อสอบตามโครงการ PISA ของกลุ่ม OECD แม้จะเป็นปรนัย แต่มีการออกข้อสอบอย่างดี ที่นักเรียนต้องอ่านข้อสอบเป็น รู้จักใช้การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ด้วย จึงจะตอบได้ การสอบวัดผลชั้นมัธยมปลาย A Level ของอังกฤษ ซึ่งมหาวิทยาลัยใช้คะแนนเป็นส่วนหนึ่งของการพิจารณารับนักเรียนเข้ามหาวิทยาลัยด้วย ก็สอบแบบอัตนัย เขาไม่สอบแค่ทั้งประเทศเท่านั้น แต่สอบในโรงเรียนนานาชาติทั่วโลก และมีการตรวจให้คะแนนกันอย่างเป็นธรรมได้

การสอบชั้นมัธยมปลายที่ได้มาตรฐานจะทำให้นักเรียนที่ต้องการเข้ามหาวิทยาลัย ไม่จำเป็นต้องสอบหลายครั้ง ไม่ต้องมาเถียงกันว่าสอบตรงดีหรือไม่ดี นักเรียนสามารถใช้ผลการสอบเดิมและใบสมัคร ใบรับรองต่างๆ ส่งไปให้มหาวิทยาลัยพิจารณาได้เพียงครั้งเดียว

เพื่อที่จะแก้ปัญหานักเรียนไทยมุ่งเรียนเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยมากเกินไป และมีคนจบมหาวิทยาลัยปริมาณมากแต่คุณภาพต่ำ ควรแก้ไขอย่างน้อย 2-3 อย่าง เช่น 1. ปฏิรูปการศึกษาระดับอาชีวะศึกษา วิทยาลัยเทคนิคต่างๆ รวมทั้งเรื่องเกษตรให้มีคุณภาพ เน้นภาคปฏิบัติ เรียนแล้วมีความรู้ ทักษะฝีมือ ทำงานได้ดี เป็นที่ยอมรับของภาคธุรกิจเอกชนเหมือนในเยอรมันและประเทศอื่นๆ 2. พัฒนาการศึกษาผู้ใหญ่ในทุกระดับ รวมทั้งมหาวิทยาลัยเปิด ที่สอนทางไกลหรือสอนออนไลน์ ให้มีคุณภาพ น่าสนใจที่จะเรียน สมัครเข้าเรียนได้ง่าย เสียค่าใช้จ่ายถูก เพื่อส่งเสริมให้คนมีโอกาสศึกษาได้ต่อเนื่องตลอดชีวิต ไม่ต้องแย่งกันเข้ามหาวิทยาลัยตอนเป็นวัยรุ่นและจบชั้นมัธยมปลายครั้งเดียว ส่วนมหาวิทยาลัยปิดก็ควรมีโควตารับผู้ใหญ่ที่มีงานมีประสบการณ์แล้วเข้ามาเรียนด้วย โดยไม่จำกัดอายุ และมีวิธีพิจารณาใบสมัครเป็นกรณีต่างหาก เพื่อเปิดโอกาสให้คนที่อยากเรียนจริงๆ ได้เรียน และทำให้มหาวิทยาลัยมีบรรยากาศของความเป็นผู้ใหญ่ที่ตั้งใจเรียนเพิ่มขึ้น