รางวัลอสังหาริมทรัพย์โลก

ซึ่งเป็นสมาคมอสังหาริมทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้จัดการประชุมประจำปี ณ นครไตชุง ไต้หวัน และในงานนี้มีการจัดมอบรางวัลอสังหาริมทรัพย์ดีเด่นนานาชาติ ผมจึงขออนุญาตนำมาให้ชมเพื่อการพัฒนาสินค้าอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ผมเป็นสมาชิก FIABCI และเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้ง FIABCI ในประเทศไทย

รางวัลประเภทอสังหาริมทรัพย์อุตสาหกรรมดีเด่น ได้แก่ International Tech Park นครเชนไน อินเดีย ซึ่งเป็นศูนย์รวมของเหล่าบริษัทไอทีชั้นนำ มีอยู่ 3 อาคาร ขนาดรวม 186,900 ตารางเมตร มีขนาดที่ดินโครงการประมาณ 38 ไร่ ในโครงการนี้ยังมีกิจกรรมอื่นอีก เช่น บริษัทสนับสนุนอื่นๆ เช่น เกมออนไลน์ วัตถุภาพเสมือนจริง และบริษัทวิจัยและพัฒนาในสาขาที่เกี่ยวข้อง สามารถจ้างงานได้ถึงประมาณ 20,000 อัตรา

นอกเหนือจากกิจการไอทีแล้ว ในโครงการยังจัดวางกิจกรรมอื่น เช่น สาขาของสถาบันการเงินหลายแห่ง โรงแรมขนาด 54 ห้อง ภัตตาคารชั้นดี ศูนย์สุขภาพ รวมทั้งศูนย์การค้าขนาดกลาง และกิจกรรมอื่นๆ เพื่อสร้างความคึกคักให้กับอสังหาริมทรัพย์ชิ้นนี้ และยังถือเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับโครงการ เพื่ออำนวยความสะดวกและดึงดูดนักลงทุนให้เข้ามาในโครงการมากขึ้น

รางวัลประเภทอาคารชุดพักอาศัยดีเด่น ได้แก่ Reflections at Keppel Bay สิงคโปร์ มีอาคารแก้วทั้งหมด 6 แท่ง สูง 24-41 ชั้น จำนวน 1,129 หน่วยขาย แยกเป็นขนาด 2 ห้องนอน (73 - 94 ตรม.) 3 ห้องนอน (151 - 172 ตรม.) และ 4 ห้องนอน (238 - 246 ตรม.) ไม่ค่อยได้ทำขนาดเล็กๆ เท่า "แมวดิ้นตาย" แบบไทยๆ ราคาขายตกตารางเมตรละ 750,000 บาท โดยครอบครองได้นานถึง 99 ปี

ในอาคาร ยังประกอบด้วย คลับเฮาส์ ห้องออกกำลังกาย จากุสซี สนามเด็กเล่น สระว่ายน้ำ สนามเทนนิส โดยมีจุดเด่นที่ตั้งอยู่ริมฝั่งน้ำกว้างถึง 750 เมตร และมีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรมความโค้งเว้าของอาคาร ไม่ใช่แบบ "แท่งคอนกรีต" ทั่วไป ทำให้แลดูหวานและสวยงาม บนชั้นสูงสุดของอาคารยังจัดทำเป็นสวนสวยงาม และพัฒนาโดยกลุ่ม Keppel ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของสิงคโปร์

รางวัลประเภทแผนพัฒนาดีเด่น ได้แก่ Setia Alam ในรัฐเซลังงอร์ มาเลเซีย โดยถือเป็นหมู่บ้านระบบนิเวศน์ดีเด่นโดยการส่งเสริมและรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ในโครงการมีการก่อสร้างที่อยู่อาศัยออกแบบให้คล้ายแบบมาเลย์ดั้งเดิม โดยที่สามารถใช้อยู่อาศัยได้จริงสำหรับชนทุกระดับชั้น รวมทั้งการจัดวางผังชุมชนให้เหมาะสมสำหรับการใช้สอยเพื่อการอยู่อาศัยและการทำงาน

ขนาดของโครงการใหญ่ถึง 10 ตารางกิโลเมตรหรือ 6,250 ไร่ โครงการนี้ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางกรุงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 37 กิโลเมตร ถือเป็นเมืองใหม่หรือเมืองชี้นำที่ออกแบบมาเพื่อกระจาย และสามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองด้วยระบบขนส่งมวลชน ทั้งรถไฟและรถประจำทาง โครงการนี้พัฒนามาตั้งแต่ พ.ศ. 2546 และพัฒนาเป็นระยะ ๆ เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ราคาบ้านเดี่ยวที่ขายเป็นเงิน 7-9 ล้านบาท แต่หากเป็นห้องชุดราคาประมาณ 2.5-3.5 ล้านบาท

รางวัลประเภทอสังหาริมทรัพย์ส่งเสริมสิ่งแวดล้อมดีเด่น ได้แก่ BSD Green Office Park, เมืองบันเทน อินโดนีเซีย โดยเฉพาะในระยะที่ 1 ของโครงการซึ่งเปิดตัวมาได้ราว 2-3 ปีมานี้ มีขนาด 156 ไร่ โดยพัฒนาเพียง 30% ของพื้นที่ และส่วนที่เหลือไว้เป็นพื้นที่สีเขียว โดยโครงการนี้รวมอยู่ในโครงการ BSD Town ซึ่งมีขนาดใหญ่ถึง 37,500 ไร่ หรือ 60 ตารางกิโลเมตร และพัฒนามาตั้งแต่ พ.ศ. 2532

โดยในส่วนของ Office Park นี้ มุ่งเน้นการลดโลกร้อนและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมสีเขียว โดยนอกจากมีการปลูกต้นไม้ ให้มีพื้นที่สีเขียวมากกว่าสองในสามของพื้นที่แล้ว วัสดุที่ใช้ก็มุ่งเน้นการลดโลกร้อน จึงนับเป็นอาคารสำนักงานในแนวโน้มใหม่สำหรับธุรกิจบริการชั้นนำ โครงการนี้ห่างจากใจกลางกรุงจาการ์ตาประมาณ 30 นาที และห่างจากสนามบินนานาชาติประมาณ 40 นาที

กล่าวโดยสรุปแล้ว การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในยุคสมัยใหม่ เน้นการเข้าถึงธรรมชาติ มีรูปแบบสถาปัตยกรรมที่อิงความกลมกลืนกับสิ่งแวดล้อม และมุ่งเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจะได้รับการต้อนรับจากวิสาหกิจชั้นนำจากทั้งในและต่างประเทศ ในแง่ของการประเมินค่าทรัพย์สิน อาคารอัจฉริยะแนวรักษาสิ่งแวดล้อม ก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าอาคารปกติเช่นกัน

ประเทศไทยควรส่งเข้าประกวดด้วยนะครับ เพื่อเผยแพร่ชื่อเสียงประเทศ ถ้านักพัฒนาที่ดินรายดังรายใดสนใจส่งเข้าประกวด สามารถติดต่อผมในฐานะกรรมการก่อตั้ง FIABCI ประเทศไทยได้นะครับ