Successor through The Greatest Love of All

Successor through The Greatest Love of All

ผมรู้สึกว่าเพลงนี้ มีความหมายแสนจับใจ และทำให้รู้ซึ้งถึงแนวทางที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่ออนาคตขององค์กรให้มั่นคงถาวรมากยิ่งขึ้นไปอีก

ทันทีที่กลับขึ้นรถขับออกจากงาน Presentation ประจำไตรมาสของโรงงาน พอเปิดวิทยุปั๊บ ก็ได้ยินเสียงเพลงที่คุ้นหูดังขึ้น “I believe the children are our future. Teach them well and let them lead the way. Show them all the beauty they possess inside. Give them a sense of pride to make it easier. Let the children’s laughter remind us how we used to be”.


ผมรู้สึกว่าแต่ละท่อนของเพลงนี้ มีความหมายแสนจับใจ และทำให้รู้ซึ้งถึงแนวทางที่ต้องเตรียมพร้อมเพื่ออนาคตขององค์กรให้มั่นคงถาวรมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก เป็นปกติที่ผมจะต้องเดินทางไปแต่ละโรงงานของซาบีน่าซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 5 โรงงาน ในทุกๆ ไตรมาส เพื่อชมงานสร้างใหม่ๆ ของแต่ละแห่งพร้อมไปกับหัวหน้างานของทุกโรงงาน และพยายามต่อยอดปรับปรุงให้ดีขึ้น


I believe the children are our future แน่นอนครับ เด็กของเราคืออนาคตของเรา พนักงานในวัย 40 30 และ 20 คืออนาคตขององค์กร กูรูหลายท่านเคยกล่าวไว้ว่า องค์กรที่ดีต้องประกอบไปด้วยพนักงานทุกวัยทุกระดับที่ต้องมีบทบาทแตกต่างกันในแต่ละช่วงสิบปี พนักงานในวัย 20 กว่าเน้นการเรียนรู้ ฝึกฝน ลองผิดลองถูก ขณะที่พนักงานในวัย 30 กว่าต้องมีพัฒนาการอีกขั้น รับผิดชอบ ตัดสินใจ ตรงประเด็น ไหวพริบและประสบการณ์ ส่วนพนักงานในวัย 40 กว่าต้องกล้าหาญ ชั้นเชิง ศรัทธา ฉายแววผู้นำอีกขั้น สุดท้าย คือ พนักงานในวัย 50 กว่าต้องนิ่ง วิสัยทัศน์ นโยบาย ถ่ายทอด หาผู้สืบทอด ไม่ทำเอง


Teach them well and let them lead the way วันนี้เป็นอีกครั้งที่ชื่นใจ ได้เห็นผู้จัดการโรงงานนำวิสัยทัศน์ขององค์กรและปฏิบัติได้ตามแผนงานที่ตกลงกันไว้ได้อย่างครบถ้วน มีการถ่ายทอดและสอนกันเป็นทอดๆ พวกเขาสอนกันเอง ไคเซ็นกันเอง คิดหาแนวทางใหม่ๆ ที่ผู้บริหารคิดไม่ถึง ไม่ฉลาดเท่า ปรับกระบวนการที่พัฒนาสูงขึ้นกว่าครั้งก่อนอีกขั้น ผู้นำในแต่ละหน่วยก็กล้าตัดสินใจ กล้าทดลองและนำผลงานมาถ่ายทอดกันต่อๆ และนำไปใช้ได้จริงอย่างกว้างขวาง มองไปไกลๆ เห็นการสร้างผู้สืบทอดกันขึ้นมาเป็นขั้นๆ อย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ทุกอย่างต้องรอผู้นำให้ตัดสินใจ แก้ปัญหา แสดงให้เห็นถึงการมองการณ์ไกล ไม่ทำเองทุกเรื่อง หากยังเป็นเช่นนั้นอยู่ เด็กๆ ก็จะกลัวผิด ไม่กล้าแสดงออก กลัวการรับผิดชอบ ไม่กล้าตัดสินใจ ขาดโอกาสการเรียนรู้การเป็นผู้นำไปอย่างน่าเสียดาย


Show them all the beauty they process inside ดึงศักยภาพพร้อมเปิดโอกาสให้ลูกน้องในแต่ละระดับได้รู้ความสามารถที่มีออกมาให้เต็มที่ ผู้นำโรงงานที่สามารถจูงใจให้ลูกน้องคิดงานใหม่ๆในแต่ละหน่วยโดยที่แนวคิดต่างๆ ไม่จำเป็นต้องเกิดจากผู้จัดการโรงงานเองเลย ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นจากคน ๆเดียว หลายคนได้ฉายแววผู้นำในอนาคต ในทางตรงกันข้าม หากยังทำเองทุกเรื่อง เพราะไม่ไว้ใจลูกน้อง กลัวความผิดพลาด ความเสียหาย คอยหาข้อติด้วยคิดแคบว่า ต้องทำในสิ่งที่ตนเองเห็นด้วยและทำตามชนรุ่นก่อนเท่านั้น ไม่ยอมรับความต่าง สิ่งใหม่ ๆที่ทันยุค แสดงให้เห็นถึงความที่มีวิสัยทัศน์สั้น ไม่มองอนาคตอันไกล แถมยังกลับกลายเป็นคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง ให้ความสำคัญตัวเอง กลัวลูกน้องจะเก่งกว่า แล้วแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นกับองค์กรในอีก 10 ปีข้างหน้า 5 ปีข้างหน้า หรือแม้แต่ปีหน้า


Give them a sense of pride to make it easier ตลอดเวลาที่ฟังการรายงาน พนักงานแต่ละคนแสดงถึงความภาคภูมิใจในตัวเองจากสีหน้าท่าทางคำพูดน้ำเสียงแม้แต่แววตา มากยิ่งกว่าความมั่นใจที่แสดงออกอีกด้วย สิ่งนี้ยิ่งเป็นส่วนสำคัญของกำลังใจและความต่อเนื่องของพัฒนาการในการสร้างคนให้รักงานและทำงานได้ดียิ่ง ๆขึ้น กลับกัน หน่วยงานที่ขาดแนวคิดแบบสามท่อนแรกตามบทเพลงนี้ เรื่องของความภูมิใจความมั่นใจกำลังใจในตัวเองของลูกน้องคงไม่ต้องไปพูดถึง สิ่งที่ได้กลับเป็นปัญหา Turn over สูง มีแต่คนลาออก คนเก่งก็จะหนีหายไปอยู่กับองค์กรอื่นที่ดีกว่า


Let the children’s laughter remind us how we used to be เสียงแห่งความสุขของลูกน้องแต่ละคนที่เปล่งออกมาทางแววตาในขณะพูดบนเวที ทำให้คิดถึงโอกาสที่ตัวผมเองได้รับมาตลอดชีวิตการทำงาน ได้ลองผิดลองถูก ได้ดึงศักยภาพของออกมา และนำความสำเร็จมาสู่องค์กรในระดับหนึ่ง วันนี้จึงเหมาะกับเวลาที่จะเป็นผู้มอบโอกาสคนในรุ่นถัด ๆไป และขอเป็นเพียงผู้ชมที่คอยวางอนาคตให้กับคนรุ่นหลังมากกว่า อย่าให้องค์กรหรือ Brand ต้องแก่ตามเรา เมื่อถึงวันที่เราต้องวางมือ ก็ไม่ต้องกังวลกับคำกล่าวที่เคยได้ยินจาก อาจารย์วันชัย สอนศิริ ทาง FM 101 ทุกเช้าว่า “ยามบุญมา กาไก่ กลายเป็นหงส์ ยามบุญลง หงส์เป็นกา น่าฉงน ยามบุญมา หมาหมู กลายเป็นคน ยามบุญหล่น คนเป็นหมา น่าอัศจรรย์” หากได้เตรียมสร้างคนเสียตั้งแต่วันนี้ เมื่อถึงวันสุดท้ายหรือในวันที่จะจากไปก็จะไปอย่างหงส์อยู่ดี


ที่สุด ความรัก ความรักอันยิ่งใหญ่ที่สร้างทุกสิ่งทุกอย่างให้ยั่งยืนต่อไปในอนาคต อย่างที่ Whitney Huston เปล่งเสียงร้องอย่างจับใจไว้ว่า “Because the greatest, love of all is happening to me.I found the greatest love of all inside of me. The greatest love of all is easy to achieve. … find your strength in love”.