พลังธรรมาธิปไตย

พลังธรรมาธิปไตย

"เราคือพลังธรรมาธิปไตย คือพลังลูกไทยที่อาจหาญ คือพลังกรรมาชนคนแรงงาน คือพลังประชาชนเหล่าคนดี

จะพิทักษ์ชาติไทยให้คงมั่น
จะรักษาศาสนาเพื่อศักดิ์ศรี
จะปกป้ององค์ราชา องค์ราชินี.."

เสียงเพลงมาร์ช "พลังธรรมาธิปไตย" ดังผ่านหน้าจอทีวี ที่ช่อง 13 สยามไท ถ่ายทอดสดเวที "เดินทางไกล กอบกู้ราชอาณาจักรไทย" จาก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

เพลง พลังธรรมาธิปไตย แต่งโดย "เพลิง นาหลัก" หรือ "ส.เพลิง" อดีตนักรบวัฒนธรรม ประจำหน่วยศิลป์ศูนย์กลางพรรคฯ ยุคก่อตั้งฐานที่มั่นภูพาน ปี 2514-2516

ปัญญาชนที่เคยเข้าป่ายุคหลัง 6 ตุลา 19 ไม่ว่าจะอยู่ซีกเหลืองหรือซีกแดง ต้องรู้จักเพลงรำวงปฏิวัติ ที่ ส.เพลิง เป็นผู้แต่ง อาทิ ลมหนาวดาวเหนือ, ทหารลำเลียง, เทือกเขาภูพาน, เพื่อพรรคเพื่อมวลประชา, เหล็กเพชร ฯลฯ

วันนี้ "เพลิง นาหลัก" มาร่วมงานกับ "กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย" โดยรวบรวมนักรบวัฒนธรรมจากเทือกเขาภูพาน มารวมตัวใหม่ เป็นหน่วยศิลป์ประจำกลุ่มดังกล่าว

"ส.เทิด" กับ "ส.เชี่ยวชาญ" คู่พระนางประจำหน่วยศิลป์ภูพาน ที่โด่งดังที่สุดเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ก็มาประจำการอยู่กับ ส.เพลิง ซึ่งในอดีต ส.เทิด เปรียบเหมือน "พุ่มพวงแห่งภูพาน" มีสหายทั่วทุกเขตงานนิยมชมชอบเพลงศิลปินมาแล้ว และนักรบอาจหาญ

หลายคนสงสัยว่า กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย มาจากไหน? ใครอยู่เบื้องหลัง?

13 มีนาคม 2556 ยุทธการเดินทัพทางไกลต่อสู้กอบกู้เอกราช เริ่มต้นที่บ้านกุดนาแก้ว ต.ภูฝ้าย อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ อย่างปัจจุบันทันด่วน

"ส.พิชิต" ทองดี นามแสงโคตร แกนนำกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย อ่านแถลงการณ์ประกาศเจตนารมณ์กู้ชาติบ้านเมือง ก่อนเดินทางไกล ที่มีจุดหมายปลายทางคือ กรุงเทพมหานคร

จะว่าไปแล้ว "พลังธรรมาธิปไตย" ก็คือ "กองทัพปลดแอกประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่ระดมพลปกป้องศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อกลางปีที่แล้ว

กองทัพปลดแอกฯ กลับมาอีกครั้ง โดยการนำของ "สามผู้เฒ่า" ประกอบด้วย "ส.พิชิต" ทองดี นามแสงโคตร อดีตกรรมการจังหวัดเขต 555 อุดรธานี, "ส.ชลิต" ชลิต จันทร์ทรู อดีตกรรมการเขตงานศรีสะเกษ และ "ส.เกื้อ" ชะเลื่อน ชนะสงคราม อดีตกรรมการเขตงานดงลาน

ภารกิจครั้งใหม่นี้ "อดีตสหาย" จับมือกับ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ แกนนำกลุ่มแนวร่วมคนไทยรักชาติรักษาแผ่นดิน เปิดยุทธการเดินทัพทางไกลฯ เพราะเชื่อว่าศาลโลก จะพิพากษาคดีปราสาทพระวิหารในเดือนเมษายน จึงต้องลุกขึ้นเคลื่อนไหวให้ความรู้แก่ประชาชน

กลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ปักหลักพักค้างอยู่ที่อำเภอขุนหาญ เป็นเวลา 2 คืน ก่อนจะเดินทัพสู่บริเวณสวนสาธารณะทุ่งแหลม ต.ถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์

เมื่อมาถึงอำเภอนางรอง แกนนำแนวร่วมคนไทยรักชาติฯ อาทิ สมบูรณ์ ทองบุราณ, ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์, มาลีรัตน์ เอี้ยวสกุล, พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี และอธิวัฒน์ บุญชาติ ก็ปรากฏตัวบนเวทีปราศรัย

ที่น่าสนใจ สุชาติ ศรีสังข์ อดีต ส.ส.มหาสารคาม ก็กระโจนขึ้นเวทีด้วยในฐานะสหายเก่า ซึ่งตัวเขามีความสนิทสนมกับ "ส.บัญชา" สมบูรณ์ สุพรรณฝ่าย เป็นอย่างดี

กำลังหลักของการเดินทัพทางไกลฯ คือ สมาชิกกลุ่มพลังธรรมาธิปไตย ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมา ส่วนทัพหนุนก็เป็นแนวร่วมคนไทยรักชาติฯ และสถานีโทรทัศน์ช่อง 13 สยามไท ของ พล.ร.อ.บรรณวิทย์ เก่งเรียน

ผู้ที่อยู่เบื้องหลังภารกิจนี้อีกคนหนึ่ง คือ ปรีชา ไพรัมย์ นักธุรกิจใหญ่แห่งสูงเนิน เขาเป็นกัลยาณมิตรของ ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และเป็นสหายร่วมอุดมการณ์กับ สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์

ประธานเหมา เดินทัพทางไกล เพื่อปลดปล่อยประชาชนจีนให้หลุดพ้นจากระบอบขุนศึกศักดินา แต่ "อดีตสหาย" เดินทัพทางไกลจากอีสานสู่เมืองหลวง เพื่อกอบกู้ "ราชอาณาจักรไทย"

"ภารกิจนี้ เพื่อชาติ และ ราชบัลลังก์" เป็นคำมั่นของ ส.พิชิต ผู้เฒ่าจากดงสวน อุดรธานี