ไปดูเขาล่า รัฐมนตรี

ไปดูเขาล่า รัฐมนตรี

การที่รัฐมนตรีคนหนึ่งลาออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ หรือด้วยความจำเป็นส่วนตัว คงไม่เป็นข่าวใหญ่เท่าใดนัก

แต่ถ้ารัฐมนตรีคนนั้นคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งลาออกจากตำแหน่ง เพราะถูกมหาวิทยาลัยประกาศเรียกปริญญาเอกกลับคืน ...... อย่างนี้ เป็นข่าวใหญ่แน่นอน

เรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศเยอรมัน เมื่อต้นเดือนนี้เอง โดยเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีหญิง แองเกล่า เมอเคิ่ล ได้ออกมาแถลงข่าวร่วมกับ นาง Annette Schavan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ วัย 57 ปี ซึ่งต้องยอมจำนนต่อกระแสกดดันของสังคม และประกาศลาออกจากตำแหน่ง

จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ในเมื่อสาเหตุที่มหาวิทยาลัยประกาศยกเลิกปริญญาเอกของเธอ ก็เพราะมหาวิทยาลัยพิสูจน์ได้ว่าวิทยานิพนธ์ของเธอนั้น “ลอกเขามา”

แม้นาง Annette Schavan จะลาออกจากตำแหน่ง แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับมติของมหาวิทยาลัย และประกาศจะยื่นอุทธรณ์ ส่วนนายกรัฐมนตรี นางเมอเคิ่ล นั้น ก็น่าเห็นใจไม่น้อยเลย เพราะเธอเป็นนักการเมืองที่ “ซี้” กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนนี้ มาเป็นเวลาช้านาน และมีความไว้เนื้อเชื่อใจกันมาก ทำให้เธอดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงนี้ มาเป็นเวลานานถึง 7 ปีแล้ว

แต่ที่ท่านนายกฯ น่าจะรู้สึกเจ็บปวดมากกว่าปกติ ก็คือ รัฐบาลของเธอต้องประสบวิกฤติการณ์ ที่ทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถือแบบนี้ เป็นครั้งที่สองแล้ว เพราะเมื่อปลายปี 2011 รัฐมนตรีอีกคนหนึ่งของเธอ นาย Karl-Theodor zu Guttenberg รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นนักการเมืองที่กำลังรุ่งโรจน์ และมีทีท่าว่า อาจมีโอกาสก้าวขึ้นมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในอนาคต ก็ถูกมหาวิทยาลัย ยกเลิกปริญญาเอกของเขาเช่นกัน เพราะพบว่าไปลอกผลงานของคนอื่น หลายต่อหลายหน้า!

งามหน้ายิ่งขึ้น ก็คือตอนที่นาย Karl-Theodor zu Guttenberg ถูกยึดปริญญาเอกกลับคืน และต้องลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมนั้น นาง Annette Schavan รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนเดียวกันนี้นี่แหละ ที่ตำหนิพฤติกรรมของเขาอย่างรุนแรง แต่แล้ววันนี้ สังคมกลับพบว่า เธอก็ทำแบบเดียวกัน

เป็นไปได้อย่างไร ที่เยอรมนี ซึ่งเป็นประเทศพัฒนาแล้ว จะมีรัฐมนตรีในรัฐบาลเดียวกัน ถูกมหาวิทยาลัยประกาศยกเลิกปริญญาเอก ถึงสองคน ในช่วงเวลาเพียงปีเศษๆ เรื่องนี้อธิบายได้ว่าประเทศเยอรมันนั้น ให้ความสำคัญกับ ยศและตำแหน่งทางการศึกษา เป็นอย่างมาก คนเยอรมันที่สำเร็จปริญญาเอก จะได้รับเกียรติ ด้วยการเรียกว่า “ด๊อกเตอร์” เสมอ (ซึ่งเป็นวัฒนธรรมเดียวกับประเทศสารขัณฑ์ ของท่านอาจารย์ คึกฤทธิ์ ปราโมช เลย)

แม้กระทั่งในวันที่ประกาศยกเลิกปริญญาเอกของเธอ มหาวิทยาลัยก็ยังให้เกียรติ เรียกเธออย่างเต็มยศว่า “Frau Professor Dr. A. Schavan”!

ประเทศที่พัฒนาแล้วอีกหลายแห่ง เช่นสหรัฐ (ที่มีผู้สำเร็จปริญญาเอกอยู่มากมาย) เขาไม่นิยมเรียกว่า ด๊อกเตอร์ กันเท่าใดนัก อาจจะมีอยู่บ้าง ก็เพียงในมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่เรียกว่า “โปรเฟสเซอร์” ก็เพียงพอแล้ว

เมื่อค่านิยมในเยอรมนีเป็นเช่นนี้ นักการเมืองและนักธุรกิจ จึงนิยมสร้าง คุณค่าและราคา ให้แก่ตนเอง ด้วยการเรียนให้ถึงระดับปริญญาเอก เช่นนาง Annette Schavan อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ เป็นต้น

แต่มหาวิทยาลัยก็มีมติด้วยคะแนนเสียง 12 ต่อ 2 ให้ยกเลิกปริญญาเอก ที่ได้มอบให้แก่เธอนานแล้ว โดยเหตุผลว่า เธอ“ตั้งใจ และทำการอย่างเป็นระบบ ในการนำเสนอผลงานวิชาการ ในวิทยานิพนธ์ของเธอตลอดทั้งเล่ม ซึ่งไม่ใช่ผลงานของเธอเอง และไม่ได้กล่าวอ้างอิงถึงที่มาของงานเหล่านั้น จึงถือได้ว่าเธอมีความผิดจากการ คัดลอกผลงานผู้อื่นมาใช้เป็นของตนเอง โดยเจตนา”

เมื่อมหาวิทยาลัยประกาศยกเลิกปริญญาเอกของเธอ วันนี้ เธอจึงมีคุณวุฒิทางการศึกษาสูงสุดที่ถูกต้องและเป็นทางการจริงๆ เพียงสำเร็จ “มัธยมศึกษา” เท่านั้นเอง เพราะเธอไม่มีแม้กระทั่งปริญญาตรี หรือปริญญาโท!

อย่าเพิ่งกระหน่ำซ้ำเติมว่าเธอโกงมาทั้งปริญญาตรีและโทนะครับ เพราะเธอไม่เคยได้รับทั้งปริญญาตรีและโทเลย เนื่องจากก่อนที่เยอรมันจะปฏิรูประบบการศึกษา (เมื่อเร็วๆนี้) ประเทศนี้ เปิดโอกาสให้บุคคลสามารถทำปริญญาเอกได้ โดยไม่ต้องผ่านระดับปริญญาตรี หรือ โท เลย (....ประเทศสารขัณฑ์ ยังไม่ถึงขนาดนั้น.....) ด้วยเหตุนี้ เมื่อปริญญาเอกของเธอ ถูกยกเลิกไป เธอจึงมีคุณวุฒิเหลืออยู่เพียง มัธยมศึกษา เท่านั้นเอง

คนระดับรัฐมนตรีผู้ทรงเกียรติ อย่างนาย Guttenberg และนาง Schavan ซึ่งอยู่ในวัยเกิน 50 ปีแล้วทั้งคู่ คงไม่ต้องพบกับชะตากรรมแบบนี้ และคงอยู่ในตำแหน่งได้อย่างสง่างามต่อไป ถ้าไม่มีบุคคลกลุ่มหนึ่ง ซึ่งแม้จะมีจำนวนไม่มากนัก แต่ก็ได้รวมตัวกัน และประสานงานกันหลายองค์กร เพื่อขุดค้น และหาข้อมูลต่างๆ ถึงที่มาของปริญญาทางการศึกษาของท่านผู้ทรงเกียรติเหล่านี้ โดยมีการสืบสวนที่มาของวิทยานิพนธ์ ซึ่งได้ทำไว้หลายสิบปีมาแล้ว และนำออกมาตีแผ่ให้สังคมได้เห็นว่าผู้นำบางคน อย่างนาย Guttenberg นั้น ลอกผลงานของคนอื่นมาหลายหน้ากระดาษ อย่างหน้าตาเฉยเลยทีเดียว

ส่วนวิทยานิพนธ์ของนาง Schavan ถูกระบุว่าไม่ได้ลอกมาทั้งดุ้นขนาดนั้น แต่ซ่อนไว้ในบทต่างๆอย่างแนบเนียน ซึ่งบุคคลกลุ่มนี้ ก็ร่วมมือ ช่วยกันโยงใยข้อมูลต่างๆ จนในที่สุดก็นำไปสู่การสอบสวนของมหาวิทยาลัย และ มหาวิทยาลัยเห็นว่ามีหลักฐานเพียงพอในการยกเลิกปริญญาเอกของเธอ

บุคคลกลุ่มนี้ ทำงานเพื่อให้สังคมสะอาดขึ้น และพวกเขากำลังอิ่มเอิบใจกับผลงาน ที่สามารถโค่นรัฐมนตรีไปได้สองคน ซึ่งหลังจากที่รัฐมนตรีกลาโหมลาออกเมื่อปี 2011 พวกเขาก็เปิดเว็บไซต์ เพื่อตามล่าผู้นำคนอื่นๆต่อไป ล่าสุดมีการเปิดอีกเว็บไซต์ขึ้นมา ชื่อว่า VroniPlag ซึ่งเป็นชื่อของ “เป้าหมายรายต่อไป” ของพวกเขาคือ นาง Veronica Sass สมาชิกรัฐสภายุโรป

กิจกรรมของคนกลุ่มนี้ คงทำให้นักการเมืองหรือนักธุรกิจผู้มีชื่อเสียงในเยอรมัน ระดับด๊อกเตอร์ทั้งหลาย ต้องใจเต้น ตุ๋มๆต้อมๆ ไปตามๆกัน เพราะไม่ทราบว่าเมื่อใด ที่ตนเองจะตกเป็นเป้าหมายรายต่อไปของพวกเขา........

น่าเป็นห่วงเหมือนกันนะครับ ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า พวกเขาเกิดขยายกิจกรรมนี้ ไปถึงประเทศสารขันธ์ ขึ้นมา และถ้ามากันจริงๆ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสมาชิกกลุ่มนี้ จะตั้งชื่อเว็บไซต์ ของพวกเขา.....ว่าอย่างไร