ยังไม่ทันไร...พี่ไทยก็ทะเลาะกันเองเสียแล้ว

ยังไม่ทันไร...พี่ไทยก็ทะเลาะกันเองเสียแล้ว

กรณี "ปราสาทพระวิหาร" แทนที่จะระดมสรรพกำลังและความรู้แบบ "สหวิทยาการ" กลับหันมา "เล่นงาน" กันเอง

โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทยกับประชาธิปัตย์ที่เอาแต่ "แลกหมัด" และโยนบาปกันไปมาจนชาวบ้านเขาเอือมระอา...ระวังเถิดคดีแพ้ขึ้นมา จะเจอข้อหาและถูกจับขึงพืดทั้งสองพรรคนั่นแหละ

O จับจังหวะจากฝ่ายรัฐบาล ดูเหมือนจะ "รู้งาน" ตั้งแต่ไก่โห่ แต่ที่ออกมาพูดกันใหญ่โต หาใช่กลัวคดีแพ้ แต่กลัวเข้าทางม็อบไล่ ดูอย่างบทวิเคราะห์ของ "เลขาฯสมช." นั่นปะไร ท่านลากเส้นโยงใยตั้งแต่ "ม็อบเสธ.อ้าย" ที่แม้จะดูแพ้พ่าย แต่ก็เกาะกระแสขย่มรัฐบาลเอาไว้ และสุดท้ายจะไปแตกหักเดือนเมษาฯ ซึ่งก็คือเดือนที่ศาลโลก "นัดพิจารณา" คดีปราสาทพระวิหารแบบ hearing หรือออกนั่งบัลลังก์ฟังข้อมูลจากทั้งสองฝ่ายนั่นเอง

O งานนี้รัฐบาลจึงแก้เกมด้วยการตั้ง "ทีมโฆษก" ขึ้นมาให้ข้อมูลแก่ประชาชน แต่ข่าววงในแจ้งว่าเริ่มได้ยิน "เสียงบ่น" เพราะทั้งขุด ทั้งค้น ยังไม่เห็นมีใครยอมเป็น ก็เรื่องมันหนักเห็นๆ ไม่มีแววรุ่ง มีแต่แววร่วง ในแวดวงทหารมีเสียงแซวกันให้พอหายง่วง ว่างานนี้ถ้าผู้บังคับบัญชาเกลียดใคร...ก็ตั้งไอ้นั่นแหละไปเป็นโฆษก (ฮา)

O แต่เรื่องนี้ฮาไม่ออก เพราะไม่ใช่เรื่อง "หยิกแกมหยอก" แต่เอากันถึงตาย นั่นคือการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลา แทน "อดีตนายกฯพีระ" ที่ถูกยิงเสียชีวิตไป ผู้ที่ชนะ "เข้าป้าย" คือผู้สมัครหมายเลข 2 สมศักดิ์ ตันติเศรณี จากทีมสงขลาใหม่ และก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นรองนายกฯสมัยที่ "พีระ ตันติเศรณี" เป็นนายกฯนั่นเอง แถมยังมีสายสัมพันธ์แบบ "คนกันเอง" เป็นลูกพี่ลูกน้องกันด้วย

O เบื้องหลังที่ผู้สมัครหมายเลข 2 ชนะแบบทิ้งห่าง มีคนเห็น "เงาร่าง" ของ "นิพนธ์ บุญญามณี" ทั้งผลักทั้งดันเต็มที่ แล้วก็สำเร็จสมอารมณ์หมาย ขณะที่บันไดขั้นต่อไป แว่วว่า "นิพนธ์" จะยอมทิ้งเก้าอี้ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ลงซัดกับ "อุทิศ ชูช่วย" ชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา ทำนองว่าขอ "ดับซ่า" เพื่อนเก่า

O ต้องไม่ลืมว่าเหตุการณ์ยิง "นายกฯพีระ" จนไม่เหลือเงา เมื่อ 7 พ.ย.55 คนที่เจอข้อหา "บงการฆ่า" ก็คือ "กิตติ ชูช่วย" น้องชายของอุทิศ ที่เคยเป็นคู่แข่งของ "นายกฯพีระ" แต่พ่ายแพ้ไปนั่นเอง

O ย้อนรอยคนใจนักเลงในแวดวงการเมืองสงขลา แทบไม่อยากเชื่อว่า ทั้ง "อุทิศ" และ "พีระ" ที่แท้เป็นเกลอเก่ากัน เรียนหนังสือห้องเดียวกันที่มหาวชิราวุธ จ.สงขลา คนพื้นที่เรียก "เด็กมหาฯ" จบ มศ.5 ช่วงปี 2519 ชื่อรุ่น 17-19 โดยมี นิพนธ์ บุญญามณี เป็นหัวหน้านักเรียน จากนั้นก็แยกย้ายกันไป แต่ก็ยังไม่เลิกติดต่อกัน แม้สายสัมพันธ์ "นิพนธ์-พีระ" จะมาแนบแน่นขึ้นช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แม้ "นิพนธ์" เรียนรามฯ แต่ "พีระ" เรียนมหิดล ทว่าทั้งสองคนพักอยู่บ้านเดียวกัน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีกับ "อุทิศ" แปรเปลี่ยน

O ทั้ง "พีระ" และ "อุทิศ" กลับมาเล่นการเมืองสนามท้องถิ่น โดยมี "นิพนธ์" ที่ผาดโผนในการเมืองระดับชาติแล้วคอยช่วยเหลือ และสุดท้ายก็ถึงคราวแตกหักเมื่อ "นวพล บุญญามณี" น้องชายนิพนธ์ ลงนายกฯอบจ.สมัย 2 แล้วโดนใบเหลือง "อุทิศ" นามกระเดื่องก็โดดขึ้นแท่นเป็นนายกฯแทน แถมยังส่งน้องชาย "กิตติ ชูช่วย" ลงสมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครสงขลาด้วย ทั้งๆ ที่ "พีระ" เพื่อนรักก็ประกาศตัวลงสมัครเช่นกัน ในที่สุดก็สิ้นสุดสายสัมพันธ์ รวมทั้งรายของ "นิพนธ์" ที่ตัดสินใจช่วย "พีระ" ในฐานะญาติภรรยา

O แม้หัวใจแห่งความเป็นเพื่อนอาจจะไม่เคยเปลี่ยน แต่การเมืองและอำนาจทำให้คนเปลี่ยน นับจากนี้คงต้องรอลุ้นการเลือกตั้งในสนามปราบเซียน ชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา ในเดือนพฤศจิกาฯปลายปี!