ผุดไอเดียสร้างโกดังตุนเหล็กสร้างเมกะโปรเจค

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เปิดเผยว่าได้แจ้งให้ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณและผู้อำนวยการสำนักบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลังทราบว่าจะสามารถส่งประมาณการวงเงินที่จะมีการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำตาม พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทวงการคลังกู้เงินเพื่อวางระบบบริหารจัดการน้ำและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ. 2555 วงเงิน 3.5 แสนล้านบาท ที่จะมีการลงทุนในปีนี้ให้กับทั้ง 2 หน่วยงานได้ภายในวันที่ 15 ก.พ. 2556 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวจะสามารถนำไปใช้ในการคำนวณการเติบโตของเศรษฐกิจที่จะเกิดจากการลงทุนก่อสร้างโครงการบริหารจัดการน้ำในปีนี้

นายปลอดประสพกล่าวว่าการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำในปี 2556 เป็นวงเงินใกล้เคียงกับที่นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประมาณว่าจะมีการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำในปีนี้ประมาณ 6 - 9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ประมาณ 0.5 - 1% ของจีดีพี

เขากล่าวด้วยว่าการก่อสร้างโครงการบริหารจัดการน้ำหลายโครงการที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ อาจเกิดปัญหาวัสดุก่อสร้างบางรายการขาดแคลน หรืออาจปรับราคาสูงขึ้น เช่น ราคาเหล็ก และราคาดิน ซึ่งขณะนี้ กบอ.กำลังวางแผนที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยวิธีหนึ่งก็คือการที่รัฐบาลอาจเป็นผู้ซื้อวัสดุก่อสร้างบางรายการ เช่น เหล็กมาเก็บไว้และให้ผู้รับเหมามาซื้อต่อจากคลังของรัฐไป ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลน โดยวิธีการแบบนี้ใช้ได้ผลมาแล้วกับการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในประเทศสหรัฐฯ ส่วนความต้องการใช้ดินที่จะเพิ่มขึ้นจากโครงการสร้างเขื่อนขนาดเล็กและขนาดใหญ่ กบอ.กำลังศึกษาแนวทางว่าจะหาพื้นที่ให้ผู้รับเหมามาขุดดินไปใช้ โดยคาดว่าจะใช้พื้นที่ที่ต้องการให้ขุดอ่างเก็บน้ำอยู่แล้ว ซึ่งจะได้ประโยชน์ 2 ส่วนคือการนำดินไปใช้ประโยชน์ และได้อ่างเก็บน้ำโดยไม่ต้องใช้งบประมาณจ้างเอกชนมาขุดดิน

สำหรับความคืบหน้าในการคัดเลือกบริษัทเอกชนเพื่อเป็นผู้ก่อสร้างระบบบริหารจัดการน้ำในระยะยั่งยืนทั้ง 8 แผนงาน หลังจากที่ได้มีการเรียกบริษัทต่างๆเข้ามาสัมภาษณ์เพิ่มเติมหลังจากที่ได้มีการส่งเอกสารแนวคิดในการจัดการน้ำให้คณะอนุกรรมการฯ พิจารณาไปแล้ว โดยขณะนี้คณะอนุกรรมการฯได้ให้บริษัทเอกชนยื่นเอกสารบางส่วนเพิ่มเติมเพื่อชี้แตงประเด็นคำถามที่คณะอนุกรรมการฯได้สอบถามไป รวมทั้งบริษัทที่มีการขอถอนตัวในรอบนี้ก็ได้ให้มีการชี้แจงด้วย เพราะ กบอ.ได้ประกาศไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าบริษัทเอกชนที่ผ่านเข้ามาในรอบนี้จะถอนตัวจากการแข่งขันไม่ได้ เนื่องจากเกรงว่าจะมีการเจรจากันนอกรอบจนเกิดความเสียหายได้

ทั้งนี้ คำถามที่คณะอนุกรรมการฯถามบริษัทเอกชน เช่น แผนการเวนคืนที่ดินจะทำอย่างไร การก่อสร้างที่ใช้เวลานายเกินไปจะแก้ไขอย่างไร แผนการดำเนินโครงการที่ใช้งบประมาณมากกว่าที่กำหนดจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร เป็นต้น

"หลายบริษัทที่มาในวันสัมภาษณ์เตรียมตัวมาพรีเซนต์งาน ซึ่งเราก็ให้พรีเซนต์เพิ่มไม่ได้ เพราะได้เขียนในข้อบังคับไว้แล้วว่าเป็นการสัมภาษณ์เพิ่มเติม ซึ่งบริษัทต่างๆที่ยังชี้แจงได้ไม่ดีก็ให้โอกาสในการจัดทำเอกสารมาเสนอภายในวันที่ 15 ม.ค.เพื่อประกอบการพิจารณา หลังจากนี้จะมีการประชุม กบอ. 2 ครั้งเพื่อตัดสินออกมาว่าใครเป็นผู้ชนะในแผนงานต่างๆ ซึ่งขณะนี้ระยะเวลาต่างๆยังคงเดินไปตามแผนที่วางไว้คาดว่าจะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม.ภายในเดือนเม.ย.นี้"