STO จะมาแทนที่ ICO?
ครั้งก่อนผู้เขียนได้อธิบายถึงทิศทางกฎหมายและเทคโนโลยีทางการเงินในปี 2019 ฉบับนี้ ผู้เขียนยังคงอยู่ในธีมการคาดการณ์ Trend ในปี 2019
ครั้งก่อนผู้เขียนได้อธิบายถึงทิศทางกฎหมายและเทคโนโลยีทางการเงินในปี 2019 ฉบับนี้ ผู้เขียนยังคงอยู่ในธีมการคาดการณ์ Trend ในปี 2019
ความเดิมจากฉบับที่แล้ว ผู้เขียนขออธิบายต่อในเรื่องของกฎหมายและเทคโนโลยีทางการเงินที่จะเด่นชัดในปี 2019
สำหรับผู้เขียน ในปีที่ผ่านมาถือเป็นปีที่กฎหมายได้รับอิทธิผลจากการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกที่เราได้เห็นการปรับปรุง
ตามที่ผู้เขียนได้เคยกล่าวถึงบทบาทของ Blockchain ที่มีต่อวงการกฎหมาย ฉบับนี้จะขอเล่าการปรับใช้ Blockchain กับภาคธุรกิจ
ในโลกยุคที่ AI (Artificial Intelligence) มีบทบาทสำคัญในหลายวงการธุรกิจ และกำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบในการดำเนินงานของหลายอาชีพ
ฉบับนี้ ผู้เขียนจะนำเสนอประเด็นที่น่าสนใจที่เกี่ยวข้องกับประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจระบบ
เดิมทีหากกล่าวถึงบทบาทของเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) เรามักนึกถึงการทำงานของ Cryptocurrency สกุลต่างๆ ซึ่งบทบาทของ Blockchain
เครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายเพื่อปรับปรุงระบบการบริหารการจัดเก็บภาษี(Tax administration)ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในปัจจุบันการพัฒนาระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพโดยใช้เทคโนโลยี Biometrics ได้ถูกนำมาปรับใช้อย่างแพร่หลายในธุรกิจที่มีการให้บริการดิจิทัล
เมื่อโลกกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัล กฎหมายที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องปรับปรุงให้ก้าวทันเช่นกัน บทความฉบับนี้ จึงขออธิบายประเด็นภาษี
จะเป็นอย่างไร หากในอนาคตธนาคารกลางจะออกเงินในรูปแบบดิจิทัลเพิ่มอีกประเภท โดยสามารถนำไปใช้ได้ไม่ต่างจากเงินสดที่ใช้ในปัจจุบัน
กระบวนการในการรู้จักและพิสูจน์ตัวตนลูกค้า (Know Your Customer : KYC) เป็นขั้นตอนสำคัญของธุรกิจในการตรวจสอบความถูกต้องของบุคคลก่อนให้บริการ
ความเดิมจากฉบับที่แล้ว หลังจากผู้เขียนได้ชี้ให้เห็นว่า ICO ไม่ได้มีลักษณะอย่างเช่น หุ้น หนี้ และเงินตรา
ด้วยข้อจำกัดของกฎหมายในปัจจุบันและ ICO มีลักษณะพิเศษ จึงทำให้การออก ICO ไม่สามารถใช้กฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันกำกับดูแลได้