185 ปี เรือนเวลา Longines

185 ปี เรือนเวลา Longines

ชมนิทรรศการนาฬิกา Longines ที่ก่อตั้งมายาวนาน 185 ปี ชมและศึกษาเรื่องราวความเป็นมา การออกแบบและการพัฒนากลไกนาฬิกาที่มีชื่อเสียงจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์

       คนรักนาฬิกา ต้องหาโอกาสไปชม นิทรรศการฉลองครบ 185 ปี Longines ในงาน Longines 185th anniversary ณ ลานกิจกรรม Eden 2 ชั้น 2 เซ็นทรัลเวิลด์

re13

  4. Longines 185th Anniversary Fashion Show            

นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมายาวนานจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีจุดกำเนิด ณ เมืองแซงติมิเยร์ (Saint-Imier) เมื่อปี ค.ศ.1832 จากกิจการของ ออกุสต์ อกาสซีส์ (Auguste Agassiz) ผู้ก่อตั้ง โดยรับประกอบนาฬิกาตามใบสั่ง เมื่อทำเสร็จแล้วจึงส่งมอบงาน ต่อมาในปี ค.ศ.1867 แอร์เนสต์ ฟรองซิญง (Ernest  Francillon) ผู้เป็นหลานเข้ามารับช่วงกิจการต่อ ซึ่งต้องการผลิตชิ้นส่วนกลไกและประกอบนาฬิกาในโรงงานเดียวกันอย่างครบวงจร จึงตัดสินใจซื้อที่ดินเพิ่มและตั้งโรงงานบนที่ดินหุบเขาริมแม่น้ำ เรียกว่า Es Longines (Long Medows) และได้กลายมาเป็นชื่อแบรนด์ในเวลาต่อมา

16. PIONEERS & AVIATION

            เรือนเวลาอายุยาวนานเกือบสองร้อยปี ย่อมมีเรื่องราวน่าศึกษา ในงานนิทรรศการครั้งนี้จัดแสดงนาฬิกาในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ

1.  Hunter pocket watch - นาฬิกาพกที่มีการสลักเสลาและเพนต์ลายภาพทิวทัศน์ลงบนหน้าปัดอย่างวิจิตรบรร

          WATCHMAKING – POCKET WATCHES ตั้งแต่ปี 1832 จนถึงทศวรรษที่ 1930 Longines ผลิตนาฬิกาพกเป็นส่วนใหญ่ ช่วงแรกเน้นนาฬิกาพกที่แข็งแกร่งทนทานสำหรับใช้งานก่อนจะเริ่มผลิตนาฬิกาที่มีกลไกและตัวเรือนขนาดบาง ซึ่งบางรุ่นตกแต่งอย่างดงามไม่ต่างจากเครื่องประดับอัญมณี ในยุคนี้มีนาฬิกาให้ชม 3 เรือน ได้แก่ นาฬิกาพกที่มีการสลักเสลาและเพนท์ลายภาพทิวทัศน์ลงบนหน้าปัดอย่างวิจิตรบรรจง (ค.ศ.1892) นาฬิกาพกเทคนิคถมทองเป็นลวดลายดอกไม้ (ค.ศ. 1915) และนาฬิกาพกหน้าปัดสีขาวแสดงเวลา 24 ชั่วโมง (ค.ศ. 1917) 

re2

            ELEGANCE – WOMEN WATCHES ยุคนาฬิกาข้อมือในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 นำเสนอนาฬิกาข้อมือสุภาพสตรี ที่สะท้อนถึงความเรียบง่าย ความสมบูรณ์แบบ และความสง่างาม ซึ่งถือเป็นหัวใจของแบรนด์ มีผลงาน 3 รุ่น ที่นำมาจัดแสดง ได้แก่ นาฬิกาตัวเรือนทองทรงตอนโนเรียบ ๆ ทำงานด้วยกลไกไขลาน (ค.ศ. 1917) นาฬิกาตัวเรือนทองทรงกลม ทำงานด้วยกลไกไขลาน (ค.ศ. 1959) และนาฬิกาตัวเรือนทรงเหลี่ยมสไตล์อาร์ตเดโคฝังเพชร ทำงานด้วยกลไกไขลาน ( ค.ศ.1931)

re3

   re8

re4          

      FLAGSHIP นาฬิกาข้อมือที่เป็นไฮไลท์ของ Longines และมีประวัติศาสตร์ยาวนาน ออกแบบในช่วงปลายปี ค.ศ. 1956 จดลิขสิทธิ์ชื่อและวางจำหน่ายในปี ค.ศ. 1957 เหตุที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะในยุคแรก ๆ ฝาหลังตัวเรือนมีการแกะสลักหรือแสตมป์ภาพเรือธงซึ่งทำหน้าที่บังคับบัญชากองเรือ (Flagship) สะท้อนถึงความสง่างามคลาสสิกแบบนาฬิกาเดรส และได้รับความนิยมมาจนถึงยุคปัจจุบัน

re6

      re9

     PIONEERS & AVIATION เรือนเวลาที่ได้รับความนิยมในหมู่นักบุกเบิกและนักผจญภัยซึ่งออกเดินทางไปสำรวจโลกในช่วงครึ่งแรกศตวรรษที่ 20 โดย Longines ได้พัฒนานาฬิกาที่ช่วยคำนวณตำแหน่งและพิกัดการเดินทางได้อย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทางอากาศหรือทางทะเล ดังเช่นผลงานที่นำมาจัดแสดง ได้แก่นาฬิกาแสดงพิกัดทางอากาศ ผลิตจากอลูมิเนียม ทำงานด้วยกลไกไขลานรวมสองรุ่น (ค.ศ. 1933, 1939)  และนาฬิกามารีนโครโนมิเตอร์ สำหรับเรือเดินสมุทร ทำหน้าที่แสดงเส้นลองติจูด (ค.ศ.1918) โดยตัวนาฬิกาติดตั้งอยู่บนฐานวงแหวนซึ่งทำหน้าที่ล็อกให้นาฬิกาอยู่ในแนวระนาบ และบรรจุอยู่ในกล่องไม้

       WRIST-CHRONOGRAPHS แสดงเรื่องราวระหว่าง Longines กับโลกกีฬา    ตั้งแต่ยุคที่ผลิตนาฬิกาพกโครโนกราฟ เมื่อปีค.ศ.1878  การพัฒนาคาลิเบอร์  13.33Z (ค.ศ. 1913) ซึ่งเป็นกลไกโครโนกราฟรุ่นแรกของแบรนด์ ที่ออกแบบมาเพื่อนาฬิกาข้อมือ รวมทั้งการพัฒนานาฬิกาโครโนกราฟรุ่นต่าง ๆ เบอร์ 12.68Z  (ค.ศ. 1946)

re11

          COUNTERS นาฬิกากดจับเวลาในวงการกีฬาอาชีพ จากปี ค.ศ.1939 Longines ได้เปิดตัวกลไกคาลิเบอร์ใหม่ที่ออกแบบเพื่อการจับเวลาในวงการกีฬาโดยเฉพาะ และ QUARTZ ในนิทรรศการนี้ยังได้จัดแสดงนาฬิกาควอตซ์ซึ่งเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญที่เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกนาฬิกาในยุค 1970s หนึ่งในนั้นคือ นาฬิกาตั้งโต๊ะไม้มะฮอกกานี ทำงานด้วยเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ควอตซ์  คาลิเบอร์ 800 ซึ่งพัฒนาขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1965  ที่เที่ยงตรงกว่านาฬิกาจักรกลใด ๆ และคาลิเบอร์ 6512 หรือที่เรียกกันว่า Ultra-Quartz สำหรับนาฬิกาข้อมือซึ่งพัฒนาขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1969

  re7