โตแน่นอน
หลังประเทศไทยของเราเริ่มฟื้นตัวจากการจมอยู่ในปัญหาการเมืองได้ประมาณ 3 ปีเศษ ดูอัตราการส่งออกที่เติบโตเป็น 10%
การออกเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ได้พบปะ พูดคุย และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้คนที่หลากหลายนั้นทำให้เราได้ข้อมูลที่เรียกว่า ‘First Hand’
ภาพงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่เผยแพร่ออกไปตามสื่อต่างๆ ทำให้คนทั่วทั้งโลกได้เห็นความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมไทย
Thailand 4.0 คือทิศทางของประเทศไทยที่จะก้าวไปสู่ข้างหน้าด้วยแผนยุทธศาสตร์ของชาติ
“การส่งออกวัฒนธรรม” หนึ่งในวิธีการส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศที่ได้ผลชะงักงันจนทำให้หลายๆ ประเทศต่างเดินตามรอยแล้วส่งออกวัฒนธรรมตามกันไป
ทุกวันนี้หากหลายๆ ท่านมีโอกาสได้เดินทางไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และลองเปิดโทรทัศน์ช่องท้องถิ่นดูจะพบว่า เราได้พบเห็นละครไทยมากขึ้น
เวลาเราพูดถึงคำว่าไทยแลนด์ 4.0 มักจะให้ความรู้สึก Bright Future มากๆ และเราก็จะเพ่งเล็งไปที่เด็กๆ หรือคนวัยทำงานที่อายุต่ำกว่า 40 ลงมา
การได้ไปต่างถิ่นบ่อยๆ ได้ไปเห็นผู้คน เห็นการใช้ชีวิต และเห็นโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมขนส่งต่างๆซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีความโดดเด่นที่แตกต่างกันไป
เคยนึกสงสัยกันไหมครับว่า ทำไมประเทศไทยต้องมีนโยบาย Thailand 4.0 มันเริ่มต้นจากไหน และนโยบายนี้เกิดผลอย่างไรกับประเทศไทย
วันนี้ผมจะพูดถึงการทำตลาดยุคใหม่ ซึ่งผมว่าสิ่งที่น่าสนใจในการที่จะทำให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้า คือ การเปลี่ยนรูปแบบการทำการตลาดแบบใหม่
รัฐบาลยุคนี้กำลังพาประเทศไทยเข้าสู่ยุคThailand 4.0 ตามชื่อคอลัมน์นี้เลยครับ ภาพที่เห็นชัดสุดคือการลงทุนด้านระบบโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ
จากตอนที่แล้วที่ผมพูดถึงการนำเสนอภาพลักษณ์ประเทศไทยในงาน อัสตานา เอ็กซ์โป 2017 ไป วันนี้ผมจะขอพูดถึงประเทศคุ้นเคยกับคนไทยอย่าง เกาหลีใต้บ้าง
คอลัมน์นี้ผมเขียนตอนกำลังมาตรวจเช็คความพร้อมของอาคารศาลาไทย หรือ ไทยแลนด์พาวิลเลียน
ผมเดินทางไปต่างประเทศเดือนละ 4-5 ครั้ง เรียกว่าไปสนามบินบ่อยกว่าไปห้างสรรพสินค้าเสียอีก
รู้จัก 'โฮเซ มูจิกา' นักการเมืองที่ไม่ใช่นักการเมือง
เมื่อโลกเปลี่ยน… ถึงเวลาปรับมุมมองต่อ 'ฟองสบู่'