หลังจากลุยน้ำ

หลังจากลุยน้ำ

สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันเรื่องการขับรถยนต์ลุยน้ำท่วม ในสัปดาห์นี้ก็ยังมีคำเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาว่า จะมีพายุฝนพัดมาทางประเทศไทยอีก

ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักในประเทศไทยหลายพื้นที่ และแน่นอนว่าต้องมีคำเตือนเกี่ยวกับ เรื่องน้ำท่วมในพื้นที่ราบลุ่มหรือพื้นที่ริมน้ำ และเตือนเรื่องดินถล่มตามพื้นที่เชิงเขา เพราะระยะหลังมานี้ปัญหาน้ำท่วมและดินถล่ม ดูจะเกิดขึ้นบ่อยและหนักมากขึ้นทุกปี

และก่อนหน้านี้หลายจังหวัดในภาคกลาง ก็มีน้ำท่วมอยู่หลายพื้นที่ บางตำบลบางอำเภอท่วมสูงและยังคงมีน้ำขังอยู่ เมื่อมีพายุฝนตามมากระหน่ำซ้ำอย่างที่อุตุฯ เตือนไว้ น้ำที่ท่วมอยู่ก่อนหน้าก็ไม่สามารถระบายได้ น้ำฝนและน้ำจากแม่น้ำลำคลองที่มาเพิ่มใหม่ ก็จะยิ่งเป็นปัญหาที่มาซ้ำเติมให้ผู้คนเดือดร้อนมากขึ้น

ในช่วงเวลาน้ำท่วมบ้านเรือนนั้น สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องอาหารการกิน แต่เป็นเรื่องของการขับถ่าย เพราะเมื่อมีน้ำท่วมถังเกรอะหรือบ่อเกรอะที่มีไว้สำหรับรองรับของเสีย น้ำในบ่อเกรอะก็ไม่สามารถระบายทิ้งออกไปได้ ทำให้ไม่สามารถกดชักโครกเพื่อให้ของเสียไหลไปที่บ่อเกรอะได้ อีกทั้งในหลายต่อหลายพื้นที่ เมื่อมีน้ำท่วมเกิดขึ้น ระบบการจ่ายน้ำของการประปาในพื้นที่ก็จะไม่สามารถทำได้ ทำให้มีปัญหาเรื่องของน้ำดื่มและน้ำใช้

น้ำดื่มนั้นยังพอพึ่งพาน้ำบรรจุขวด ที่ปัจจุบันมีจำหน่ายมากมายทั่วไป แต่น้ำสำหรับใช้ทั้งหลายนั้นเป็นปัญหาที่คนมักจะนึกไม่ถึง เพราะแม้จะมีน้ำท่วมรายรอบพื้นที่ แต่น้ำที่ท่วมอยู่นั้นก็สกปรกเกินกว่าจะนำมาใช้งานใด ๆ ได้ และการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ, ซักผ้า, หุงข้าว, ล้างจาน ฯลฯ ล้วนแล้วแต่เป็นกิจกรรมที่ต้องการน้ำในปริมาณมากทิ้งสิ้น

ในพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมขังนั้น ปัญหาที่ตามมาคือเรื่องของอาชญากรรม เพราะเมื่อเกิดน้ำท่วมในต่างจังหวัด ประชาชนก็จะหาทางอพยพขึ้นไปอยู่บนพื้นที่สูงที่น้ำท่วมไม่ถึง เช่น ไปสร้างเพิงพักหรือกางเต็นท์นอนบนคันคลองชลประทาน หรือทำที่อยู่อาศัยชั่วคราวบริเวณไหล่ทาง หรือบางครั้งก็บนพื้นถนนซึ่งสูงกว่าระดับน้ำ

การอพยพชั่วคราวจากบ้านเรือนที่อยู่อาศัยประจำนั้น สิ่งที่นำติดตัวไปได้ก็จะมีแต่ของใช้ที่จำเป็น หรืออย่างเก่งก็เอารถยนต์หนีน้ำขึ้นไปหลบอยู่ที่สูงด้วย แต่ทรัพย์สินหลักอื่น ๆ นั้นยากที่จะขนย้ายติดตัวไป โดยเฉพาะบรรดาเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ และหากไม่มีคนอยู่คอยเฝ้าบ้านที่น้ำท่วม บรรดาโจรผู้ร้ายก็จะอาศัยช่วงจังหวะเวลานั้น เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินแล้วก็จัดการลักทรัพย์หนีไปได้โดยง่าย

การใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คนจำนวนมากก็ไม่มีทางเลือกที่จะย้ายบ้านเรือนหนีไปอยู่ที่อื่น จึงจำเป็นต้องอยู่กับพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมซ้ำซากอย่างนั้นด้วยภาวะจำยอม

การขับรถบนถนนที่มีน้ำท่วมขังก็เช่นกัน หลายคนไม่สามารถเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่นได้ เพราะฉะนั้นเมื่อต้องขับรถลุยไปบนถนนที่มีน้ำท่วมเช่นที่คุยกันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากจะต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยขณะขับรถลุยน้ำแล้ว สถานการณ์หลังจากผ่านพ้นการลุยน้ำมาก็เป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้กัน

เมื่อต้องขับรถลุยน้ำที่ท่วมพื้นถนน แม้ว่าระดับความลึกของน้ำอาจจะไม่มากนัก ประมาณว่าอยู่ที่ระดับครึ่งหนึ่งของล้อรถ ซึ่งโดยปรกติไม่ว่ารถอะไรก็จะสามารถแล่นผ่านไปได้ หากใช้ความระมัดระวังเพียงพอ

หากความยาวของน้ำที่ท่วมถนนเกินกว่า ๕๐ ม. เมื่อขับผ่านไปจนถึงถนนที่ไม่มีน้ำท่วมแล้ว ให้ดูว่าไม่มีรถแล่นตามหลังมาในระยะกระชั้นชิด ให้คนขับรถใช้ความเร็วประมาณ ๑๕ ถึงไม่เกิน ๒๐ กม./ชม. รักษาระดับความเร็วไว้คงที่ แล้วใช้เท้าซ้ายค่อย ๆ เหยียบแป้นเบรก แบบที่เรียกกันว่าเลียเบรก โดยมือทั้งสองข้างต้องจับพวงมาลัยให้มั่นคง

เพราะขณะที่เบรกด้วยวิธีการดังกล่าว รถอาจจะมีอาการแฉลบไปทางซ้ายหรือทางขวาอย่างกะทันหัน คนขับทำการเบรกตามที่บอกมาสักสามสี่ครั้ง คือเลียเบรกจนผ้าเบรกจับและรู้สึกได้ จากนั้นก็ผ่อนแป้นเบรกออกมา แล้วก็เหยียบแป้นแบบเลียเบรกลงไป ทำซ้ำ ๆ เช่นนี้จนเห็นว่าเมื่อเบรกทำงานจนรถชะลอความเร็วลง โดยไม่มีอาการแฉลบไปทางซ้ายหรือขวาเกิดขึ้น ก็สามารถขับรถต่อไปตามปรกติได้

เมื่อขับรถลุยน้ำและการรีดน้ำออกจากระบบเบรก ด้วยวิธีการเบรกที่ว่ามาแล้ว จากนั้นเมื่อไปถึงบ้านหรือถึงที่หมายปลายทาง แล้วมีการใช้เบรกมือเพื่อความปลอดภัยในขณะจอดรถ ข้อพึงระวังก็คือเมื่อจะนำรถแล่นออกจากที่จอดอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการจอดในเวลาที่ยาวนาน เช่น จอดค้างคืนที่บ้าน

เพราะเมื่อต้องการนำรถเคลื่อนที่ออกไปใช้งาน อาจจะมีอาการที่รถไม่สามารถเคลื่อนที่ออกตัวได้ หรือหากออกตัวเคลื่อนที่ไปได้ ก็จะมีอาการหนืดหน่วงคล้ายเบรกติดหรือเบรกค้าง อาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะผ้าเบรกไม่คลายตัวจากการจับกับจานเบรก แม้ตัวบังคับกลไกคือคันเบรกมือ หรือสวิตช์เบรกมือในรถที่ใช้เบรกมือไฟฟ้าถูกปลดแล้วก็ตาม วิธีการแก้ไขอาการดังกล่าวก็คือ ให้เข้าเกียร์ถอยหลัง แล้วถอยรถออกตัวแรง ๆ อาจจะมีเสียงดังตึงเกิดขึ้นคล้ายรถชนสิ่งกีดขวาง แต่เสียงดังกล่าวนั้นคือสัญญาณว่า ผ้าเบรกคลายตัวจากการจับกับจานเบรกเรียบร้อยแล้ว สามารถนำรถไปใช้งานตามปรกติต่อไปได้

และอย่างน้อยสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ควรหาเวลาตรวจสอบความชื้นภายในห้องโดยสาร โดยต้องรื้อเอาพรมปูพื้นรถออกมา แล้วทำให้ทั้งพรมและพื้นรถแห้งสนิท 

ซึ่งอาจจะใช้วิธีการเปิดประตูให้แดดส่องเข้าไปทั่วถึง หรือจะใช้ไดร์เป่าผมในระดับความร้อนต่ำๆ เป่าไปตามพื้นรถและซอกมุมต่างๆ รวมถึงที่พรมและผ้ายางปูพื้นรถจนมั่นใจว่าแห้งสนิท ก็จะเป็นการป้องกันไม่ให้สนิมได้เป็นอย่างดีครับ