เลือกอย่างไร ?

เลือกอย่างไร ?

คนไทยจำนวนมากมักจะพูดกันว่า รถยนต์ที่ผลิตขายในประเทศไทยมีมาตรฐานต่างไปจากที่ส่งไปขายต่างประเทศ จึงมีค่านิยมการซื้อรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในต่างประเทศ หรือรถยนต์ที่ผลิตจากต่างประเทศที่เรียกกันว่ารถนำเข้าแบบประกอบสำเร็จรูปทั้งคัน ( CBU )

โดยหารู้ไม่ว่าผู้ผลิตรถยนต์ทุกยี่ห้อในโลกนี้ เมื่อวางแผนจะผลิตรถยนต์ขึ้นมา ต้องศึกษาถึงกฎระเบียบของประเทศที่จะส่งรถไปจำหน่าย รวมทั้งต้องหาข้อมูลเรื่องความนิยมของกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ในประเทศนั้น ๆ ด้วย

รถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายและใช้งานในประเทศหนาว จะมีระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่ารถยนต์ที่ใช้งานในประเทศร้อน ตัวอย่างเช่นรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศทางแถบสแกนดิเนเวีย หม้อน้ำจะมีความจุน้ำน้อยกว่ารถยนต์ยี่ห้อเดียวกัน ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศแถบเขตร้อนเช่นประเทศไทย

วัสดุที่ใช้กับรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศหนาว ก็ต้องแตกต่างไปจากวัสดุสำหรับรถยนต์ที่ใช้งานในประเทศที่มีอากาศร้อนมาก จะเห็นได้ว่าในรถยนต์ระดับราคาไม่แพง หรือรถยนต์ขนาดเล็กที่ชาวบ้านใช้กันทั่วไป หากผลิตออกมาเพื่อจำหน่ายและใช้งานในเขตประเทศหนาว วัสดุหุ้มเบาะมักจะเป็นจำพวกผ้าสังเคราะห์ เพื่อจะได้ไม่ดูดซับและอมความเย็นจากอากาศที่หนาวจัดเหมือนหนังเทียม หากเป็นรถยนต์ราคาแพงๆก็จะใช้หนังแท้ที่มีคุณสมบัติไม่อมความเย็น แต่ก็มักจะใช้หนังที่เป็นโทนสีดำ เพื่อดูดความร้อนขณะจอดกลางแจ้ง หรือไม่เช่นนั้นก็มีระบบอุ่นเบาะติดตั้งมาให้ คนขับที่ขึ้นมานั่งในรถจะได้ไม่รู้สึกหนาวเย็นบริเวณก้นและต้นขา

ต่างจากรถยนต์ที่ผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศเขตร้อน วัสดุหุ้มเบาะนิยมใช้จำพวกหนังเทียมบ้าง หนังสังเคราะห์หรือหนังแท้บ้าง แต่จะหันไปใช้โทนสีที่อ่อนลง เช่น สีน้ำตาลหรือสีเทา เป็นต้น และไม่นิยมใช้วัสดุจำพวกผ้าสังเคราะห์ เพราะประเทศแถบร้อนมักจะมีฝุ่นเยอะ และผู้คนมีเหงื่อออกตามร่างกายมาก จึงกลัวว่าวัสดุจำพวกผ้าสังเคราะห์จะอมเหงื่อและฝุ่นเอาไว้ ทำให้ทำความสะอาดยุ่งยากมากขึ้น

แม้จะเป็นประเทศที่อยู่ในเขตภูมิอากาศคล้ายกัน แต่รสนิยมของผู้บริโภคก็ยังเป็นตัวกำหนดเรื่องอุปกรณ์และวัสดุต่างๆ ตัวอย่างเช่นรถยนต์ที่จำหน่ายในอินโดนีเซีย มักจะเป็นรถยนต์แบบตรวจการณ์ท้ายตัด เพราะประชากรที่นั่นเดินทางไปไหนมาไหนแบบครอบครัวใหญ่คนเยอะ วัสดุที่ใช้ทำแผงหน้าปัดและกรุบานประตูต่างๆ ก็มักจะใช้ประเภทพลาสติกอัดขึ้นรูปที่ดูแลรักษาง่าย

แต่รถยนต์ยี่ห้อและรุ่นเดียวกันถ้าจำหน่ายในประเทศไทย วัสดุที่ใช้สำหรับแผงหน้าปัดและกรุบานประตู ก็มักจะต้องมีการหุ้มหนังเทียมบุฟองน้ำบ้างไม่บุบ้าง เพราะคนไทยมักจะคิดว่าถ้าเป็นพลาสติกมันดูมูลค่าน้อยลง และเมื่อเอามือไปเคาะพลาสติกมันจะดังก๊อง ๆแก๊ง ๆ เหมือนกับไม่ทนทาน ต่างไปจากการหุ้มด้วยหนังเทียม เป็นต้น

การเลือกอุปกรณ์ที่ใช้กับรถยนต์ก็เช่นกัน ยางรถยนต์ที่บอกกันว่าดีและเหมาะสมสำหรับประเทศแถบหนาว อาจจะไม่ใช่ยางรถยนต์ที่ดีและเหมาะสมกับประเทศแถบร้อนและมีฝนตกชุก เพราะขีดความสามารถในการรีดน้ำ และการยึดเกาะถนนในสภาพอากาศที่แตกต่างกัน ย่อมแตกต่างกันออกไปด้วย ดังนั้นหากต้องเลือกยางรถยนต์มาใช้งาน นอกจากจะเลือกที่ขนาดตามกำหนดแล้ว ต้องเลือกที่ลายดอกยางให้เหมาะกับการใช้งานของรถยนต์แต่ละคัน ไม่จำเป็นต้องไปเลือกให้เหมือนคนอื่น เพราะอาจจะมีลักษณะการใช้งานและความต้องการสมรรถนะของยางที่ต่างกัน

เจ้าของรถยนต์หลายคนเลือกผ้าเบรกจากการหาความรู้ด้วยตนเอง เมื่อรู้ว่ารถแข่งส่วนมากใช้เบรกยี่ห้ออะไรและรุ่นไหน ก็จะเลือกตามนั้นเพราะเชื่อว่าขนาดรถแข่งที่ใช้ความเร็วสูง ผ้าเบรกรุ่นนั้นยังสามารถหยุดรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงต้องสามารถหยุดรถของตนเองลงได้อย่างเฉียบพลันตามต้องการได้ด้วย

ทั้งที่ในความเป็นจริงรถแข่งต้องใช้ความเร็วสูง และต้องเบรกบ่อย ๆ ในแต่ละกิโลเมตรที่แล่นในสนาม เพราะทุกสนามแข่งรถจะมีทางโค้งอยู่มากมาย เบรกสำหรับรถแข่งจึงทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพในอุณหภูมิที่สูง ๆ เมื่อมาใช้งานกับรถยนต์บ้านที่ใช้งานในชีวิตประจำวัน อุณหภูมิที่จานเบรกและผ้าเบรกไม่สูงพอ ที่จะทำให้ผ้าเบรกเปล่งประสิทธิภาพออกมาได้ จึงกลายเป็นว่าทุกครั้งที่เหยียบเบรก เพื่อต้องการชะลอความเร็วหรือต้องการหยุดรถ ก็จะมีอาการไถลหรือแถมเกิดขึ้นทุกครั้ง

แม้แต่รถยนต์ที่ใช้งานประเทศเดียวกัน แต่ต่างภูมิภาคต่างสถานการณ์ เช่น รถยนต์ที่ต้องแล่นอยู่บนทางภูเขาคดโค้งเป็นประจำ กับรถยนต์ที่แล่นด้วยความเร็วต่ำๆในเมืองตลอดเวลา กรณีอย่างนี้ต่อให้เป็นรถยนต์ยี่ห้อและรุ่นเดียวกัน ก็ควรต้องเลือกใช้ผ้าเบรกให้แตกต่างกันออกไป เพราะรถยนต์ที่แล่นบนภูเขาย่อมต้องใช้เบรกบ่อย และเกิดความร้อนที่ผ้าเบรกและจานเบรก สูงกว่ารถยนต์ที่แล่นในเมืองด้วยความเร็วต่ำ

การเลือกใช้น้ำมันเครื่องก็เช่นกัน บางครั้งสมุดคู่มือประจำรถ ก็แปลมาจากสมุดคู่มือประจำรถจากประเทศแม่ ซึ่งเป็นประเทศที่อยู่ในเขตอุณหภูมิหนาวเย็นเกือบทั้งปี จึงมีการกำหนดความข้นหนืดของน้ำมันเบรกให้น้อยไว้ก่อน แต่เมื่อรถยนต์นั้นถูกนำมาจำหน่ายในประเทศเขตร้อนเช่นประเทศไทย แถมยังเป็นรถยนต์ที่ถูกใช้งานในลักษณะหนักหาสาหัส เช่นต้องใช้งานในเวลาที่การจราจรติดขัดหนักๆเป็นประจำ เครื่องยนต์จึงต้องทำงานหนัก ทำให้เกิดความร้อนที่ห้องเครื่องหรือในเครื่องยนต์สูง ความต้องการน้ำมันเครื่องของการใช้งานในรูปแบบนี้ อาจจะจำเป็นที่จะต้องปรับให้มีค่าความหนืดสูงขึ้นบ้าง เพื่อถนอมเครื่องยนต์เอาไว้ไม่ให้สึกหรอเร็วกว่าที่ควร

แม้แต่เสียงแตรของรถยนต์ที่ใช้ในเมืองกับรถยนต์ที่ต้องวิ่งบนทางหลวงระหว่างจังหวัดเป็นประจำ ก็ควรเลือกใช้เสียงแตรที่ต่างกัน เพราะการขับรถยนต์บนทางหลวงด้วยความเร็วสูง ต้องการเสียงแตรที่ดังชัดเจนกว่ารถที่ใช้ในเมืองครับ