ดูหนังกลางสายฝน

แล้วจะเลือกหนังเรื่องไหนที่เข้ากันดีกับสายฝนดีนะ Netflix ผู้นำบริการความบันเทิงทางอินเตอร์เน็ต มีภาพยนตร์เกี่ยวกับสายฝนในเครือหลายเรื่องทั้งฝั่งตะวันตกและฝั่งเอเชีย เป็นติ่งสายไหนตามไปชมกันได้ มีอาทิ

            สื่อในสายฝน (Something in the Rain) เรื่องนี้ดังมากในแดนกิมจิ เรื่องราวความรักของสาววัย 35 กับน้องชายของเพื่อนสนิท ทั้งคู่มีอายุห่างกันหลายปี แต่ความรักจะเกิดมันก็ต้องเกิด มีทั้งรักโรแมนติกและอุปสรรคจากคนรอบข้างและญาติผู้ใหญ่ ทำให้จินอาและจุนฮีต้องแอบคบกันอย่างลับ ๆ แต่ในที่สุดความลับก็ไม่มีในโลก ใต้ร่มคันสีแดงที่เคยเดินด้วยกันกลับต้องจำใจห่าง ขอเตือนเลยว่า ซีรีส์เกาหลีเรื่องนี้จะทำให้หัวใจของคุณพองฟูและหดเหี่ยวลงได้อย่างฉับพลัน ถ้าอยากรู้ว่าตอนจบทั้งคู่จะสมหวังหรือไม่ ติดตามได้ใน Netflix

          อีกเรื่องยังเป็นแนวติ่งเกาหลีคือ รักไม่รู้ลืม (Love Rain) ความรักของชายหญิงที่ไปตกหลุมรักยามเมื่อได้อยู่ใต้ร่มคันเดียวกันในวันฝนพรำ แต่ด้วยโชคชะตาทำให้ทั้งคู่ไม่สามารถสานรักต่อกันได้ จนเรื่องราวดำเนินมาถึงรุ่นลูก เมื่อทายาทของทั้งสองคนกลับบังเอิญได้พบเจอกันและมีใจต่อกัน ใครที่ชอบพระนางที่หน้าหวานไม่แพ้กันอย่างจางกึนซอกและอิมยุนอา เรื่องนี้คงได้ฟินจิกหมอนเพราะมีทั้งเรื่องราวทั้งรุ่นพ่อและรุ่นแม่ให้ได้ลุ้น เอาเป็นว่าเคลียร์คิวให้พร้อม แล้วนอนดูซีรีส์เรื่องนี้ไปยาว ๆ แบบนอนสต็อป ไม่ต้องสนว่าฝนจะตกหรือไม่ตก

            เดอะ เรน (The Rain) ซีรีส์ฝรั่งสัญชาติเดนมาร์กก็มีนะ แนวโหดเสียด้วย เพิ่งออนแอร์เมื่อเดือนที่แล้วสด ๆ ร้อน ๆ ดูเรื่องนี้ต้องลุ้นระทึก เมื่อฝนในโลกอนาคตมาพร้อมกับไวรัสตัวร้ายคร่าชีวิต ดูเรื่องนี้เสร็จต้องพกร่มออกนอกบ้าน สวมเสื้อกันฝนไปเลยยิ่งดี

            ภาพยนตร์ที่มีสายฝนเป็นฉากหลัง บ้างเป็นตัวเอกแข่งกับพระเอกนางเอกก็มีหลายเรื่อง ฮอลลีวู้ดชอบนำสายฝนเป็นองค์ประกอบสำคัญสร้างเงื่อนงำต่าง ๆ โดยเฉพาะในหนังฆาตกรรม หนังลึกลับซ่อนเงื่อน หนังผีหรือหนังสยองขวัญต่าง ๆ หรือไม่ก็ไปอยู่ในฉากไคลแมกซ์ ฉากต่อสู้ลุ้นระทึก จนถึงฉากจบเศร้า ๆ สำคัญนะที่น้ำฝนบอกเล่าเรื่องราวได้สารพัด แต่ก็มีไม่กี่เรื่องที่ขึ้นทำเนียบ “หนังสายฝนคลาสสิก” ที่คอหนังต้องดู ตั้งแต่หนังขาวดำยุค 30s จนถึงหนังของฮิทช์ค็อก แต่เราไม่ควรไปไกลกว่านั้น (ซึ่งจะหาดูยาก) เอาแค่ใกล้ ๆ กันก่อนที่ Seven Samurai (1954) หรือ “เจ็ดเซียนซามูไร” หนังคลาสสิกของ อาคิระ คูโรซาวา เรื่องนี้ฝนตกตลอด ทั้งฝน โคลน และเลือด ผสมปนเปกันไปโดยเฉพาะในฉากจบ หนังสวยและแฝงปรัชญาสไตล์คูโรซาวา

            อีกเรื่องถ่ายสายฝนได้สวยงามมากใน Rush (2013) ของผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด หนังอิงชีวประวัตินักแข่งฟอร์มูล่าวัน นิคิ เลาดา กับ เจมส์ ฮันท์ ช่วงทศวรรษ 70s ฉากสวยคือตอนแข่งรถท่ามกลางสายฝนในงานแข่ง Nurburgring Grand Prix เมื่อปี 1976 ฝนตกหนักทำให้การแข่งขันเสี่ยงอันตรายเพิ่มขึ้นไปอีก

            ส่วนหนังที่ใช้สายฝนบอกความรู้สึกดี ๆ เป็นอิสระแฝงความชุ่มฉ่ำที่หลายคนจดจำกันดีคือ The Shawshank Redemption (1994) หนังคลาสสิกที่ต้องดู ฉากคลาสสิกใกล้จบคือตอนที่พระเอกคลานลอดอุโมงค์ท่อโสโครกออกจากคุก ระยะทาง 500 หลา แล้วในที่สุดก็โผล่ออกนอกกำแพง ทันใดนั้นสายฝนก็โปรยลงมาประกาศอิสรภาพ

            และหนังที่คอหนังไม่ว่าจะมีอายุกี่ปีต้องหามาดูคือ หนังสายฝนฟีลกู๊ด ดูไปก็มีความสุข อยากร้องเล่นเต้นรำกลางสายฝนเหมือนตอนเป็นเด็กบ้าง ในหนังเพลงอมตะ Singin’ in the Rain (1952) พระเอก จีน เคลลี่ ร้องและเต้นกลางสายฝน ถือร่มอยู่ในมือนะแต่ไม่กางหรอกจะไม่เท่ ร้องไปกระโดดเกาะเสาไฟไปด้วย  เท่มาก หนังดีดนตรีไพเราะและคนดูก็รู้สึกชุ่มฉ่ำไปด้วย

            ฝนตกทีไร นึกอยากกลับไปเด็ก ออกไปวิ่งเล่นกลางสายฝน ถ้ามาทำตอนนี้เพื่อนบ้านคงหาว่าเพี้ยน !

หมายเหตุภาพ:  Netflix, BFI Film Forever