จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

 

ต้องยอมรับว่าเทรนด์การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มาแรงและถูกกล่าวถึงมากที่สุดในเมืองไทยเวลานี้ คือ อสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน หรือเรียกอีกชื่อว่า Mixed-use Real Estate ที่มีแต่ค่ายชั้นนำเข้ามายึดทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพ เพื่อพัฒนาที่ดินในรูปแบบนี้

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

เหตุผลที่เป็นเช่นนั้น เพราะมิกซ์ยูสเป็นทางเลือกหนึ่งในการรับมือเรื่องต้นทุนที่ดินศักยภาพที่นับวันจะหายากและราคาสูงขึ้นทุกทีเป็นการสร้างมูลค่าให้กับที่ดินเพิ่มกำไรจากยอดขายและการปล่อยเช่า ที่สำคัญเป็นการรองรับการขยายตัวของเมืองตอบรับดีมานด์ของผู้อาศัยที่ต้องการอยู่ในเมืองมากขึ้น

ในเมืองไทยเทรนด์โครงการมิกซ์ยูสอาจเพิ่งถูกหยิบยกมาใช้ แต่สำหรับในต่างประเทศมีการพัฒนาที่ดินในรูปแบบนี้มานานแล้วไม่ว่าจะเป็นนิวยอร์ก, ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, สิงคโปร์ และอีกมากมาย

สิงคโปร์-ฮ่องกง แม่แบบมิกซ์ยูสแห่งอาเซียน

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

อย่างในฮ่องกงจะพบโครงการประเภทมิกซ์ยูสมากมายในย่านเศรษฐกิจอย่างเซ็นทรัล, เกาลูนรวมถึงพื้นที่ที่มีการขยายตัวของเศรษฐกิจ บางโครงการของมิกซ์ยูสเป็นความร่วมมือกันระหว่างภาคเอกชนและภาครัฐ ทำให้โครงการนั้นๆกลายเป็นโปรเจกต์ที่สร้างความเจริญแบบก้าวกระโดดที่เพิ่มมูลค่าให้กับประเทศอย่างมหาศาล

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

Marina Bay Sands ในสิงคโปร์

ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คือ  Marina Bay Sands ในสิงคโปร์ โครงการมิกซ์ยูสที่กลายเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของสิงคโปร์จากปัจจัยบวกต่างๆ ทำให้โครงการนี้มีระยะเวลาคืนทุนน้อยกว่าโครงการส่วนใหญ่กว่าครึ่งหนึ่ง มีอัตราการเข้าพักอาศัยในส่วนโรงแรมสูงถึง 97% สามารถตั้งราคาค่าห้องพักได้สูงกว่าโรงแรมเกรดเดียวกันที่ตั้งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงราว 10% และต่อยอดมาสู่การสานต่อมิกซ์ยูสในโครงการต่อๆ ไป

สองมิกซ์ยูสย่านสีลม แม่เหล็กดูดนักลงทุนข้ามชาติ

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

โครงการ One Bangkok (ภาพจาก One Bangkok)

นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของมิกซ์ยูสที่ประสบความสำเร็จในประเทศเพื่อนบ้านเมื่อกลับมาที่ไทย ทำเล CBD ที่ได้รับความสนใจจากเหล่านักพัฒนาที่สุด คงไม่พ้น สีลม-สาทร-ลุมพินี-ศาลาแดง ที่มีมิกซ์ยูสประชันถึง 2 ด้าน ได้แก่  One Bangkok และ ZEN Saladaeng by Centralซึ่งล้วนแล้วแต่สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้กับทำเลสีลม

อย่าง One Bangkok เป็นโครงการ 104 ไร่ มูลค่ากว่าแสนล้านบาท ตั้งอยู่บนที่ดินเช่าจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ บริเวณหัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ติดกับสวนลุมพินี เชื่อมต่อโดยตรงกับระบบขนส่งมวลชน ตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์คระดับโลกขณะที่ ZEN Saladaeng by Centralเป็นโครงการมิกซ์ยูสร่วมทุนระหว่าง บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) และบริษัท เซ็นทรัล พัฒนา จำกัด (มหาชน) มีมูลค่าโครงการสูงว่า 3.67 หมื่นล้านบาท บนพื้นที่ 24 ไร่ สัญญาเช่า 60 ปี ที่ต้องการยกระดับเป็นย่านธุรกิจสำคัญใจกลางกรุงเทพฯ โดยคาดว่าแล้วเสร็จปี 2568-2569

จากโปรเจกต์ทั้ง 2 ทำให้อนาคตทำเลสีลม-สาทร-ศาลาแดง จะดึงดูดผู้คน ตลอดจนบริษัททั้งในและต่างประเทศเข้ามาตั้งสำนักงานในภูมิภาคนี้ แค่เฉพาะ One Bangkokก็มีแนวโน้มว่าจะมีผู้คนหมุนเวียนมากกว่า 60,000 คน

SALADAENG ONE คอนโดศาลาแดงฟรีโฮลด์ระหว่าง 2 มิกซ์ยูส

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

อย่างที่ทราบดีว่าย่านสีสม-ศาลาแดง เป็นย่านที่หาที่ดินมาพัฒนายากมาก เนื่องจากไม่ค่อยมีที่ดินเหลือแล้ว จึงมีข้อสังเกตประการหนึ่งว่าโครงการคอนโดศาลาแดง รวมถึงที่อยู่รายล้อมสีลม-สาทร-ลุมพินี ส่วนใหญ่ รวมถึง 2 มิกซ์ยูสที่กล่าวไป เป็นโครงการลีสโฮลด์ แต่ไม่ใช่กับ SALADAENG ONE (ศาลาแดง วัน) คอนโดมิเนียมระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ตั้งอยู่ในซอยศาลาแดง 1 ที่เปิดตัวในรูปแบบฟรีโฮลด์ (Freehold)ที่นับวันจะหาโครงการฟรีโฮลด์บนทำเลนี้ยากขึ้นทุกวัน

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

ที่สำคัญ SALADAENG ONE เป็นคอนโดศาลาแดงที่ตั้งอยู่ระหว่าง 2 โปรเจกต์มิกซ์ยูส (One Bangkok และ ZEN Saladaeng by Central)  ซึ่งไม่ใช่แค่พลิกโฉมทำเลสีลม แต่จะมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ระดับประเทศด้วยโดยมีการประเมินอีกด้วยว่าหลัง 2 โปรเจกต์มิกซ์ยูสสร้างเสร็จ จะทำให้ราคาที่ดินทำเลสีลมพุ่งไปถึง 1.5-2 ล้านบาทต่อตร.วา จากเดิมราคาประเมินของกรมธนารักษ์ปี 2560 ราคาที่ดินสีลม บริเวณศาลาแดง ราคาที่ดินสูงถึง 1 ล้านบาทต่อตร.วา โดยปัจจุบันโครงการคอนโดมิเนียมละแวกสาทร-สีลมราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 2.5 แสนบาท/ตร.ม.ซึ่งหากเทียบกับเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว เปิดตัวในราคาไม่ถึง 100,000 บาท/ตร.ม.ด้วยซ้ำ(ข้อมูลจาก Terrabkk)  จากตัวเลขเหล่านี้ คงไม่ต้องบอกว่า “สีลม-สาทร” เป็นทำเลที่เติบโตเร็วแค่ไหน แค่ Cap Gain นั้นก็สูงถึง 5-10% ต่อปีแล้ว

ลงตัวทั้งอยู่เอง-ปล่อยเช่า-ขายต่อ ที่ SALADAENG ONE

นอกจากแนวโน้มการเติบโตด้านทำเลแล้ว ดีไซน์ของ SALADAENG ONE ยังได้รับการออกแบบมาให้เป็น Timeless Design ที่ไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงสง่างามเหนือกาลเวลา ด้วยรูปแบบHorizontal Design อีกทั้งยังเหมาะแก่การอยู่อาศัยได้จริง ด้วยแนวคิด Space Planning ที่กำหนดพื้นที่ใช้สอยคิดจากการใช้ชีวิตจริงในคอนโดเน้นการใช้งานแบบอยู่ได้จริง นี่จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ SALADAENG ONE เป็นคอนโดศาลาแดงที่สวนทางกับคอนโดทั่วๆไปที่มีขนาดห้องเล็กลงเรื่อยๆถือว่าเป็นคอนโดหรูในกรุงเทพ ฯ เพียงไม่กี่แห่งที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดนี้และทำออกมาได้อย่างลงตัว

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง

สำหรับผู้เป็นเจ้าของ SALADAENG ONE เท่านั้น จึงจะเป็นเจ้าของวิวแบบนี้

ขณะเดียวกันแม้SALADAENG ONE จะอยู่ใจกลาง CBD สีลม แต่ก็ยังมอบความเงียบสงบ ด้วยตัวโครงการอยู่ใกล้สวนลุมพินีเพียง 120 เมตร สามารถเห็นวิวสวนลุมพินีได้อย่างชัดเจนซึ่งในปัจจุบันถือว่าหาได้ยากมากที่จะมีคอนโดใจกลางเมืองให้บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติแบบนี้ เป็นการซื้อวิวสวนลุมพินีให้ชื่นชมกันถึงรุ่นลูกรุ่นหลานส่งต่อเป็นมรดกได้ตลอดกาลกันเลยทีเดียว โดยราคาขายSALADAENG ONE ปัจจุบันอยู่ที่ 2.5-3.5 แสนบาท/ตร.ม.

เรียกว่า SALADAENG ONE เป็นคอนโดศาลาแดงที่ไม่ว่าจะมองมุมไหน ก็เหมาะทั้งการเป็นที่อยู่อาศัย-ปล่อยเช่า-ขายต่อคุ้มสำหรับการลงทุนในระยะยาว ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/2IPVzlR Grand Opening วันที่ 21-22 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 โทร.1749 

จับตามิกซ์ยูสลุมพินี พาอนาคต SALADAENG ONE ฟรีโฮลด์หนึ่งเดียวท่ามกลาง 2 มิกซ์ยูสน่าลงทุนเทียบชั้นสิงคโปร์-ฮ่องกง