จับตามมอง ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย ตอบรับไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ

บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เปิดโครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ เมืองแนวคิดใหม่ เพื่อวัยเกษียณ ริมถนนพหลโยธิน ขาออก พร้อมวิสัยทัศน์ สู่การเป็นผู้นำในธุรกิจด้านการดูแลผู้สูงวัยอย่างครบวงจรแห่งแรกที่ดีที่สุด พร้อมทั้งยกระดับการให้บริการด้วยมาตรฐานสากลเพื่อขยายธุรกิจไปจังหวัดสำคัญๆ ในประเทศไทย และประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชีย มุ่งสู่การก้าวขึ้นเป็นผู้นำระดับโลก ตอบรับการเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยและหลายประเทศทั่วโลกที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย

ประเทศไทยก้าวเข้าสู่ สังคมสูงวัย (aging society) มาตั้งแต่ปี 2547 และมีท่าที่ที่จะเพิ่มจำนวนของผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อยๆ โดยประชากรสูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปีขึ้นไป จะมีจำนวนถึง 20% ของประชากรทั้งหมด ดังนั้นจึงส่งผลต่อความต้องการและการลงทุนที่เปลี่ยนแปลงจากอดีต ธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวของกับผู้สูงอายุกำลังได้รับความนิยมและกลายเป็นธุรกิจทำเงิน ทั้ง สุขภาพ อสังหาริมทรัพย์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ

จับตามมอง ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย ตอบรับไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ

ตลาดอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงวัยในประเทศไทย ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ผู้สูงอายุ TerraBKK Reserch คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตขึ้นอีกมากใน 5-10 ปีนี้ แต่ที่พักสำหรับผู้สูงอายุที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน ยังไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้สูงอายุ ยุคใหม่ ที่ไม่เพียงแต่ต้องการความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตเท่านั้น แต่มีความต้องการในด้านการใช้ชีวิตตามไลฟ์สไตล์ เช่น การได้ทำกิจกรรมต่างๆตามความชอบ หรือ การได้เริ่มเรียนรู้ทำกิจกรรมใหม่ๆ อีกทั้งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ ความต้องการด้านสุขภาพ การได้อยู่ใกล้หมอ หรือมีโรงพยาบาลในโครงการ

จับตามมอง ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย ตอบรับไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ

นพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG เผยว่า จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาท์ตี้ เป็นโครงการล่าสุด ที่กำลังอยู่ในกระแสความสนใจของคนไทย เพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ซึ่งเป็นโครงการที่พักอาศัย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านไลฟ์สไตล์ และบริการด้านสุขภาพครบวงจรแห่งแรกของเมืองไทย ที่ไม่ใช่โรงพยาบาล ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ ไม่ใช่บ้านพักคนชรา แต่ถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิด “เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ ” เพื่อผู้สูงอายุและครอบครัว โดยเฉพาะเพื่อตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงที่สังคมกำลังก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย ซึ่งจากสถิติอัตราการเกิด และอัตราการเจริญพันธ์ โดยในอดีตช่วงปี พ.ศ.2506-2526 มีจำนวนการเกิดมากกว่า 1 ล้านคน แต่ในปี พ.ศ.2556 มีจำนวนการเกิดเพียงแค่ 800,000 คน และในอีก 20 ปีข้างหน้าจะลดเหลือเพียงแค่ 600,000 คน ซึ่งหมายความว่าจะมีคนวัยทำงานน้อยลง แต่จำนวนประชากรสูงอายุจะเพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีจำนวน ผู้สูงอายุ 11.2 ล้านคน หรือประมาณ 17.1% และคาดการณ์ว่าในอีก 5 ปีคือ 2565 จะมีผู้สูงอายุเพิ่มเป็น 13.6 ล้านคน หรือประมาณ 20.6% ทำให้ความต้องการด้านโครงการ ที่พักอาศัยคุณภาพที่สนับสนุนการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นตามไปด้วย นอกจากนั้นการที่จะทำที่อยู่อาศัยและสิ่งอำนวยสะดวกให้เหมาะสมและตอบโจทย์กับผู้สูงอายุ ต้องอาศัยความเข้าใจ และคนที่เข้าใจผู้สูงอายุมากที่สุดมีอยู่ 2 กลุ่มคือ ตัวผู้สูงอายุเอง และแพทย์ ดังนั้นโครงการนี้จึงถือกำเนิดขึ้นมา บนความเข้าใจถึงความต้องการของผู้สูงอายุมากที่สุด

จับตามมอง ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย ตอบรับไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ

Jin Wellbeing County แตกต่างอย่างเด่นชัดในเรื่องของการส่งเสริมดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ทั้ง Body, Soul และ Spirit โดยแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ มุ่งเน้นด้านการบริการที่เป็นเลิศเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้พักอาศัย ทั้งนี้ โครงการเข้าใจถึงความต้องการที่หลากหลายและปัจจัยการดูแลสุขภาพที่แตกต่างของแต่ละบุคคล เราจึงออกแบบ โปรแกรมการดูแลแบบเฉพาะบุคคล หรือ Personalized Medicine เริ่มตั้งแต่การตรวจวิเคราะห์ถึงระดับยีน ประเมินความเสี่ยงโรคทางพันธุกรรม เพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ให้ผู้พักอาศัยในโครงการมีสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน โดยประเภทโครงการ เป็นอาคารที่พักอาศัยแบบโลว์ไรส์ และบริการทางการแพทย์ที่ครบวงจร ถือว่าเป็นอาคารชุดที่ถือว่าจัดสรรสิ่งอำนวยความสะดวกและส่วนกลางมาให้อย่างครบครัน เอื้อต่อกิจกรรมของผู้สูงวัย รวมไปถึงกิจกรรมของคนต่างเจเนอเรชั่นที่สามารถทำร่วมกันได้ด้วย นอกจากนั้นในด้านของที่ตั้งโครงการ ยังเหมาะกับครอบครัวที่ลูกหลานยังต้องทำงานในตัวเมือง แต่ก็สามารถกลับมาเยี่ยมพ่อแม่ได้อย่างสะดวกสบาย โดยโครงการประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ส่วนที่พักอาศัย อาคารโลว์ไรส์ สูง 7 ชั้น จำนวน 5 อาคาร รวม 494 ยูนิต, Wellness Center เน้นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพด้วยคลาสกิจกรรมบำบัดที่หลากหลาย มุ่งเน้นการปรับสมดุลจากจิตใจสู่ร่างกาย ลดความเสียงการเกิดภาวะซึมเศร้า เพิ่มคุณภาพชีวิตให้มีความสุขยิ่งขึ้น ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ใส่ใจสุขภาพโดยเฉพาะ ประกอบด้วย - ห้องออกกำลังกายสำหรับผู้สูงวัย - สระว่ายน้ำ - สระธาราบำบัด - ห้องซาวน่า จากุซซี่ ห้องอบไอน้ำ - ห้องเกมกิจกรรม - ห้องคาราโอเกะ - บริการนวดบำบัด - มุมอ่านหนังสือ - ห้องทำสมาธิสวดมนต์ - ห้องจัดเลี้ยง - ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้สูงอายุและลูกหลานที่มาเยี่ยม, และส่วนสำคัญคือ โรงพยาบาลฟื้นฟูสุขภาพ สำหรับผู้ที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ อาทิ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่พักฟื้นหลังการผ่าตัด เป็นต้น โดยมุ่งเน้นการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตให้สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ประกอบด้วย - ศูนย์ดูแลผู้สูงวัย (Aged Care Center) - คลินิกรักษาโรคทั่วไป - บริการให้คำปรึกษาจากนักกายภาพบำบัด นักโภชนาการ นักจิตวิทยา เพื่อวางแผนการดูแลแบบเฉพาะบุคคลหรือ Personalized Medicine นอกจากนี้ ทางโครงการยังให้ความสำคัญกับการส่งต่อผู้ป่วย (Effective transfer) โดยร่วมมือกับสถาบันหลักๆ ในการช่วยเหลือผู้ป่วย ในกรณีป่วยหนัก หรือ ฉุกเฉิน ทั้งในส่วนของเครือโรงพยาบาลธนบุรีเอง และโรงพยาบาลใกล้เคียง ตลอด 24 ชั่วโมง มีพื้นที่สีเขียวด้วย

ซึ่งโครงการมีพื้นที่สวนส่วนกลางถึง 50% ของพื้นที่และมีกิจกรรมพิเศษมากมายสำหรับผู้สูงวัยโดยเฉพาะ และยังมีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่มองหาช่องทางการลงทุนที่มีศักยภาพ เนื่องจากตลาดผู้สูงอายุจะโตขึ้นเรื่อยๆ

สำหรับโครงการนี้เริ่มเปิดขายอย่างเป็นทางการแล้ว มียอดจองแล้วประมาณ 30% ราคาเริ่มต้นที่ 4 ล้านบาท” นอกจากในประเทศไทยที่มีทิศทางการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์กลุ่มผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้นแล้ว ตลาดที่อยู่อาศัยวัยเกษียณในอเมริกาเติบโตถึง 250,00-270,000 ล้านดอลลาร์ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาอสังหาริมทรัพย์สำหรับผู้สูงอายุนั้นเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันกลับพบว่าที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุนั้น จะมีความยืดหยุ่นและไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำมากนัก สะท้อนให้เห็นความเติบโตอย่างต่อเนื่องและน่าจับตามอง

จับตามมอง ธุรกิจดูแลผู้สูงวัย ตอบรับไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ