บมจ.สิงห์ เอสเตท สานต่อความสำเร็จ ดันโปรเจค Luxury Low Rise แห่งแรกบน สุขุมวิท 43

3 ปี ที่องค์กรชั้นนำของประเทศอย่างกลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัดได้เปิดตัวด้านการลงทุนและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในชื่อบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) (SINGHA ESTATE) ได้เกิดการตอบรับที่ดีจากผู้อยู่อาศัยทั้งไทยและต่างชาติเป็นอย่างมาก

เริ่มตั้งแต่โครงการ THE ESSE Asoke คอนโด High rise ความสูง 55 ชั้น บนทำเลพรีเมียมอย่างถนนอโศกมนตรี เน้นดีไซน์เรียบหรู ทันสมัย  มีระดับ (contemporary luxury) ตอบสนองชีวิตในทุกๆด้าน ซึ่งนับตั้งแต่วันเปิดตัวเมื่อตุลาคม 2015 จนถึงปัจจุบัน THE ESSE Asokeมียอดขายแล้วกว่า 80%

จากนั้น สิงห์ เอสเตท  ได้เปิดตัวโครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEXบนที่ดินแปลงเดิมของสถานฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยในย่านอโศก ซึ่งโครงการนี้เป็น Mixed-Use ที่มีกระแสตอบรับดีอย่างมาก ทั้งยูนิตที่เป็นOffice Building Grade A, Retails และคอนโดมิเนียมระดับ Luxury และหลังจากเปิดตัวเมื่อ  กุมภาพันธ์ 2017 โครงการก็สร้างปรากฏการณ์สามารถ Sold out ปิดการขายได้ภายใน 6 เดือน

จนมาถึงล่าสุดกับโครงการ THE ESSE Sukhumvit 36 คอนโดความสูง 43 ชั้น ซึ่งเป็นโครงการ คอนโดมิเนียมระดับลักซ์ชัวรีที่ 3 ของสิงห์ ที่สรรสร้างภายใต้แนวคิด “สมดุลแห่งความต่าง” หรือ A Harmony of Contrast ที่หล่อหลอมอัตลักษณ์การออกแบบสไตล์ไทยกับเทรนด์ที่อยู่อาศัยในยุคปัจจุบันไว้ด้วยกัน ในทำเลติดสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ พร้อมกับมีผู้ร่วมทุนระดับโลกอย่างกลุ่ม Hongkong Land  ซึ่งหลังจากเปิดตัวไปเมื่อพฤศจิกายน 2017 ปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 60%

Key Success ของโครงการทั้ง 3 นี้ แน่นอนว่านี่เป็นโครงการระดับ Luxury ที่ตอบโจทย์เรื่องความหรูหราได้อย่างครบถ้วนมากที่สุดแบรนด์หนึ่งในตลาด และ สิงห์ เอสเตท ก็ละเมียดละไม ใส่ใจในทุกรายละเอียด ตั้งแต่การวางกลยุทธ์เลือกทำเลแบบLuxurious Location ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลที่พรีเมียม และใกล้กับขนส่งสาธารณะทุกโครงการ ความเป็น Luxurious Design ซึ่งมีการออกแบบที่มีความโดดเด่น เป็นสัญลักษณ์ในแต่ละทำเล สะท้อนภาพลักษณ์และตัวตนของผู้อยู่อาศัย

การวางระดับผ่าน Luxurious Specification ซึ่งเลือกใช้วัสดุที่มีคุณค่า โดยเลือกสรรแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เป็นความหรูหราที่มาพร้อมกับความคุ้มค่า นอกจากนี้แต่ละโครงการยังเป็น Luxurious Amenities ซึ่งให้พื้นที่ส่วนกลางมีขนาดใหญ่ ผู้อยู่อาศัยใช้งานงานอย่างหลากหลาย รวมถึงการวางระดับบริการแบบ Luxurious Services ไม่ต่างจากบริการของโรงแรม 5 ดาว

ทั้ง 3 โครงการอยู่ภายใต้แบรนด์ THE ESSE และสามารถทำยอด Backlog ได้กว่า 10,000 ล้าน ภายในระยะเวลา 3 ปี ความสำเร็จที่ว่านี้ ณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บมจ.สิงห์ เอสเตท บอกว่า สิงห์ เอสเตท เตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ใหม่ พร้อมกับคอนเซ็ปต์ใหม่เพื่อให้โปรเจคที่ว่านี้เรียกเสียงฮือฮาอีกครั้ง โดยหนนี้ได้เลือกทำเลสุดเอ็กซ์คลูซีฟกลางซอยสุขุมวิท 43 เป็นที่ตั้ง

จะแตกต่างจาก 3 โครงการแรก ก็คือโปรเจคใหม่นี้จะเป็นแบบ Low Rise ซึ่งถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของ Urban Self lover หรือกลุ่มคนเมืองที่รู้ว่าความต้องการที่แท้จริงของตัวเองเป็นอย่างไร และกลุ่มคนเหล่านี้นี่เองที่มองหาคอนโดมิเนียมที่เป็น “Absolute Urban Retreat” หรือที่อยู่อาศัยที่ที่สามารถตอบโจทย์เรื่องความปลอดภัย (SAFE) ความเป็นส่วนตัว (PRIVATE) ความผ่อนคลาย (SANCTUARY) และให้ความรู้สึกเหมือนบ้าน (LIKE A HOUSE) ขณะเดียวกันโปรเจคที่อยู่อาศัยแบบ Low Rise ที่ให้ความเป็นส่วนตัวจึงตอบสนองได้ดีที่สุด ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ชาร์ทพลัง หรือพักผ่อนได้อย่างมีความสุขในทุกวัน

คอนเซปใหม่นี้จะถูกพัฒนาภายใต้แนวคิด Urban Hidden Treasureซึ่งสิงห์ เอสเตทคิดและสร้างสรรค์ ประกอบด้วย

Hidden Gem Location ซึ่งเลือกที่ตั้งโครงการที่มีความสงบเป็นส่วนตัว แอบซ่อนอยู่ในใจกลางเมือง ที่มีความสะดวกสบาย มีไลฟ์สไตล์หลากหลายที่เหมาะกับคนเมือง โดยโครงการที่ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 43 นี้ ถือเป็นซอยที่มีความเงียบสงบมากที่สุดของทำเลสุขุมวิท แต่ในขณะเดียวกันก็อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าพร้อมพงษ์และห้างสรรพสินค้าเอ็มควอเทียร์ เพียง 550 เมตร. รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านระดับคุณภาพ ทำให้เป็นทำเลที่เหมาะแก่การอยู่อาศัยอย่างแท้จริง

Hidden Life in Natureซึ่งเน้นการดีไซน์ที่เน้นการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การออกแบบที่คำนึงถึงทิศทางลม และแดด และพื้นที่สีเขียวที่ออกแบบให้ใกล้ชิดกับผู้อยู่อาศัย แถมทำเลยังใกล้กับสวนสาธารณะขนาดใหญ่อย่างเบญจสิริ ทำให้โปรเจคนี้ตอบสนองการอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างแท้จริง

Serve Everyone Hidden Needsซึ่งหมายถึงการใส่ใจทุกความต้องการที่แอบซ่อนของผู้อยู่อาศัย เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะตัวได้ดีที่สุด

Hidden Function in One Space แบบMulti-Function Facilities ซึ่งออกแบบพื้นที่ส่วนกลางที่ให้อารมณ์ไม่ต่างจากการอาศัยอยู่ที่บ้าน โดยซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งาน ให้สามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้หลากหลาย และเพิ่มโอกาสการพบปะกันระหว่างผู้อยู่อาศัย

แนวคิดทั้งหมดนี้ จะช่วยสร้างบรรยากาศที่อยู่อาศัยในโปรเจคใหม่นี้ให้เป็นโลกส่วนตัว ที่จะทำให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตอย่างเป็นตัวเองได้ทุกวันสร้างความสมดุลระหว่างการทำงาน การเรียน และการพักผ่อน

แน่นอนว่านี่จะเป็นโปรเจคใหม่ของ สิงห์ เอสเตท ที่ใครๆจะกล่าวถึงไปอีกนาน

สนใจเข้าชมโครงการคลิก : http://bit.ly/2ycFiHL