จากหนึ่งสู่ล้านปลูกจิตสำนึกที่ต้นทางร่วมสร้างความยั่งยืนให้ท้องทะเล

จากหนึ่งสู่ล้านปลูกจิตสำนึกที่ต้นทางร่วมสร้างความยั่งยืนให้ท้องทะเล

 

ปัจจุบันปัญหาสำคัญของท้องทะเลก็คือขยะพลาสติกและมากกว่า 80% มาจากชุมชนเมืองซึ่งประเทศไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่ทิ้งขยะทะเลมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ของโลกคนไทยใช้ถุงพลาสติกถึง 240 ใบต่อคนต่อเดือนขยะทะเลเป็นสาเหตุที่ทำให้สัตว์ทะเลตายเมื่อไม่นานมานี้หลายคนคงได้ยินข่าว “วาฬนำร่องครีบสั้น” เกยตื้นตายและเมื่อผ่าท้องมันก็พบว่ามีขยะพลาสติกในกระเพาะอาหารถึง 80 ชิ้นและมีการเก็บสถิติพบว่าทะเลไทยในแต่ละปีจะมีเต่าทะเล 300 กว่าตัววาฬและโลมาประมาณ 100 ตัวต่อปีที่ตายเนื่องจากขยะที่อุดตันอยู่ในท้องกล่าวโดยสรุปก็คือขยะทะเลกำลังเป็นวาระเร่งด่วนของทั้งทะเลไทยและทะเลโลก              

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนในโอกาสวันทะเลโลกที่ผ่านเราจะเห็นว่ามีหลายองค์กรได้ออกมาถ่ายทอดและรณรงค์เรื่องราวเกี่ยวกับพิษภัยของขยะทะเลหนึ่งในนั้นคือบริษัทสิงห์เอสเตทจำกัด (มหาชน) ที่มีปรัชญาในการดำเนินธุรกิจบนเส้นทางการเติบโตอย่างยั่งยืนควบคู่กับการสร้างสมดุลกลมกลืนเป็นประโยชน์ต่อชุมชนสังคมสิ่งแวดล้อมและผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องทุกลุ่มได้ร่วมกับพันธมิตรบริษัทในตึกซันทาวเวอร์สเปิดตัวแคมเปญ “#SeaYouTomorrow” รณรงค์ให้พนักงานผู้ค้าและประชาชนโดยรอบกว่าหมื่นชีวิตร่วมกันลดขยะพลาสติกเพื่อลดการสร้างขยะจากเมืองไปสู่ทะเล

“นริศเชยกลิ่น” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทสิงห์เอสเตทจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการจัดแคมเปญ #SeaYouTomorrow เป็นการสร้างการตระหนักรู้เกี่ยวกับสาเหตุและผลกระทบของขยะทะเลที่ส่วนใหญ่เป็นขยะที่มาจากแผ่นดินทั้งสิ้นให้กับชุมชนบริเวณอาคารซันทาวเวอร์สต่อยอดไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างยั่งยืนในการลดละเลิกการใช้พลาสติกอายุสั้นให้ได้มากที่สุดแล้วหันมาใช้ถุงผ้าในการชอบปิ้งหรือซื้อของกินของใช้ต่างๆทั้งเอาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการทิ้งและจัดการขยะอย่างถูกวิธีนำไปถ่ายทอดต่อให้กับคนในครอบครัวคนใกล้ชิดและเพื่อนๆซึ่งเป็นการขยายชุมชนที่น่าอยู่ออกไปเรื่อยๆ

กิจกรรมนี้ถือเป็นการกลับมาเริ่มต้นที่ “ต้นทาง” โดยการสร้าง “จิตสำนึก” เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นซึ่งเมื่อไม่มีปัญหาเกิดขึ้นก็ไม่จำเป็นแก้ไขในภายหลังแตกต่างไปจากการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุที่อาจทำแล้วได้ผลแต่ต้องใช้ความพยายามและต้นทุนที่มากกว่า

“ผมมีโอกาสนั่งเรือเดินทางไปที่หมู่เกาะพีพีแล้วได้เห็นขบวนขยะลอยพาดผ่านท้องทะเลไทยถ้าหากถ่ายจากยานอวกาศลงมาก็คงเห็นเป็นเส้นสีขาวที่ดูแล้วน่ากลัวมากเราอาจนึกไม่ถึงว่าเพียงแค่ขยะชิ้นเดียวที่ทิ้งลงไปมันจะไปรวมกันที่ในทะเลได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อสิงห์เอสเตทอยากเป็นส่วนเล็กๆในการสร้างจิตสำนึกให้เกิดขึ้นในสังคมไทยด้วยการปฏิเสธในสิ่งที่ไม่ถูกต้องสิ่งที่จะสร้างภาระให้กับสิ่งแวดล้อมก็คือปฏิเสธพลาสติกหรือขยะทุกอย่าง”

อย่างไรก็ดีการสร้างจิตสำนึกเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาการรณรงค์แคมเปญดังกล่าวจึงมุ่งไปที่การ “บริหารจัดการขยะ” เน้นการสื่อสารให้คนในชุมชนตึกซันทาวเวอร์สที่มีอยู่กว่า 10,000 คนได้รับรู้ถึงผลกระทบจากการใช้ถุงพลาสติกที่มีอายุการใช้งานสั้นหรือใช้แล้วทิ้งทันทีโดยคิดแคมเปญเพื่อสร้างการเปลี่ยนพฤติกรรมลดการใช้พลาสติกทั้งผู้ซื้อและผู้ขายโดยร่วมสะสมคะแนนจากการปฏิเสธการใช้ถุงพลาสติกผ่านแอพพลิเคชั่นการทิ้งขยะและการคัดแยกขยะที่ถูกวิธีภายในระยะเวลา21 วัน ( 21 Days challenge)
ตามรอยทฤษฎีที่บอกว่าหากคนได้ทำอะไรติดต่อกัน 21 วันการกระทำนั้นจะ “ตกผลึก” จนกลายเป็น “นิสัย” ทั้งนี้ทุก 50 คะแนนจะเปลี่ยนเป็นปะการัง 1 กิ่งเพื่อช่วยคืนความสวยงามให้อ่าวมาหยา

สิงห์เอสเตททำธุรกิจหลักๆก็คือโรงแรม, อาคารสำนักงานและที่อยู่อาศัยนายนริศกล่าวว่าโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจโรงแรมซึ่งเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาพักนั้นดูเหมือนว่าจะมีโอกาสในการสร้างมลพิษและความไม่สมดุลในหลายๆเรื่องและอาจส่งผลกระทบต่อชุมชนสิ่งแวดล้อมที่อยู่โดยรอบเช่นก่อให้เกิดน้ำเสียหรือขยะเป็นต้นแน่นอนว่าต้องโฟกัสให้การดูแลธุรกิจนี้เป็นพิเศษโดยที่ผ่านมาบริษัทได้มีการจัดทำและร่วมสนับสนุนโครงการต่างๆที่เน้นการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลมาอย่างต่อเนื่องได้แก่ “พีพีกำลังจะเปลี่ยนไป” โครงการที่สนับสนุน “พีพีโมเดล” ของ “ผศ.ดร.ธรณ์ธำรงนาวาสวัสดิ์” โครงการ “โตไวไว” ที่ร่วมกับภาครัฐและนักวิชาการและล่าสุดได้เปิดตัว“ศูนย์เรียนรู้ทางทะเล” หรือ Marine Discovery Centre : MDC ที่โรงแรมพีพีไอส์แลนด์วิลเลจ บีชรีสอร์ทเกาะพีพีจังหวัดกระบี่เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้แนวคิดการอนุรักษ์ทะเลให้นักท่องเที่ยวและทุกๆคน

ในการทำธุรกิจเราต้องไม่ไปทำลายเพื่อสร้างประโยชน์ระยะสั้นแต่กลับไปทำลายประโยชน์ในระยะยาวสำหรับผมในฐานะของซีอีโอมองว่าเพื่อทำให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมการสร้างประโยชน์โดยไม่มีค่าใช้จ่ายคงเป็นไปไม่ได้ผมเชื่อมั่นว่าในระยะยาวมันจะสร้างผลดีต่อบริษัทเมื่อคนรู้ว่าเราทำดีเราทำธุรกิจพร้อมกับดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมเขาจะยินดีให้การสนับสนุนเพราะเขารู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วยสิงห์เอสเตทมุ่งเป็นองค์กรที่ Good ในเวลาเดียวกันเราอาจจะ Great ด้วยก็ได้