ตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเรียนรู้

ตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเรียนรู้

 

ผู้ประกอบการแต่ละคนต่างมีเหตุผลในการเริ่มต้นธุรกิจที่แตกต่างกัน แต่ไม่ว่าเหตุผลนั้นจะเริ่มต้นจากความต้องการในการนำเสนอบริการใหม่ หรือการปรับปรุงบริการที่มีอยู่เดิมก็ตาม ทุกบริษัทมีเป้าหมายที่ไม่ต่างกัน นั่นก็คือ การสร้างผลกำไรและการอยู่รอด ในตลาดที่มีการแข่งขันอย่างดุเดือด

ทั้งนี้ ผู้ประกอบการควรจะจัดให้มีการตรวจสอบและประเมินกระบวนการทางธุรกิจด้วยตัวชี้วัดธุรกิจที่หลากหลายและครอบคลุม ซึ่งตัวชี้วัดธุรกิจก็คือข้อมูลเชิงปริมาณที่จับต้องได้ ข้อมูลที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำไปใช้เพื่อตรวจวัดว่าแผนธุรกิจดำเนินไปอย่าง ถูกต้องและเหมาะสมหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ตัวชี้วัดธุรกิจสำหรับแต่ละองค์กรนั้นจะแตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเปิดร้านค้าออนไลน์ สิ่งสำคัญที่คุณ ต้องทำก็คือการวัดจำนวนการเข้าชมหน้าเว็บไซต์ในแต่ละวัน เพื่อนำไปใช้ในการกำหนดกลยุทธ์เพื่อเพิ่มความรู้จักของธุรกิจทาง สื่อออนไลน์ ในทางกลับกัน ธุรกิจประเภทบริการที่เก็บค่าสมาชิกจะต้องคำนึงถึงอัตราการเปลี่ยนแปลงของลูกค้า หรือเปอร์เซ็นต์ ของลูกค้าที่ยกเลิกการเป็นสมาชิก ทั้งนี้ก็เพื่อที่คุณจะได้นำกลวิธีใหม่เข้ามาใช้เพื่อขยายฐานของสมาชิกให้เติบโตยิ่งขึ้น

 

ตัวชี้วัด 5 ประการที่จะช่วยตรวจสอบระดับความมั่นคงของธุรกิจ

1. กระแสเงินสด ซึ่งหมายถึงจำนวนเงินสดที่ได้รับและจ่ายออกจากบริษัทของคุณในช่วงเวลาหนึ่ง โดยเมื่อมีเงินสดเข้ามา จะบันทึกเป็นกระแสเงินสดแดนบวก และเมื่อจ่ายเงินสดออกไปจะบันทึกเป็นกระแสเงินสดแดนลบ

แดชบอร์ดกระแสเงินสดด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นถึงบันทึกรายการเงินเข้าและเงินออกโดยละเอียดตลอดช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งข้อมูลสำคัญนี้เป็นข้อมูลที่จะช่วยให้คุณเข้าใจได้ว่าอะไรคือตัวการที่ทำให้กระแสเงินสดอยู่ในแดนบวกหรือแดนลบ และต้องวางแผนปรับเปลี่ยนอะไรบ้างเพื่อให้ธุรกิจของคุณเติบโตต่อไปได้อย่างยั่งยืน

  ตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเรียนรู้

2. รายรับจากการขาย ซึ่งหมายถึง รายรับจากค่าสินค้าและบริการ ที่ลูกค้าซื้อจากคุณลบกับรายจ่ายจากการคืนสินค้าหรือสินค้า ที่ไม่ได้จัดส่ง ผู้ประกอบการควรจะติดตามรายรับจากการขายเป็นประจำทุกเดือนหรือทุกไตรมาส เนื่องจากเป็นข้อมูลที่มีความสำคัญต่อการวางแผนกลยุทธ์เพื่อให้พร้อมรับมือกับช่วงเดือนที่ยอดขายลดลง

แดชบอร์ดรายรับ หรือแดชบอร์ดวิเคราะห์ยอดขาย ดังเช่นตัวอย่างด้านล่างนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในขั้นตอนการดึงข้อมูล ที่มีความสำคัญต่อธุรกิจของคุณ โดยข้อมูลเหล่านั้นรวมไปถึง การเติบโตของรายรับจากการขาย ลูกค้าที่มียอดซื้อสูงและพนักงานที่มีศักยภาพ เงินทุนหมุนเวียน และโอกาสของ Win Rate

ตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเรียนรู้

3. กำไรสุทธิและกำไรขั้นต้น คือตัวชี้วัดสำคัญที่แสดงว่าเงินที่คุณใช้จ่ายไปนั้นสามารถคืนกำไรให้กับคุณอย่างคุ้มค่าหรือไม่

กำไรขั้นต้น แสดงให้เห็นสัดส่วนของรายรับต่อต้นทุนการผลิต โดยการคำนวณหากำไรขั้นต้นนั้น ให้นำยอดรวมของรายรับมาลบกับต้นทุนของสินค้าที่ขายได้ (COGS) จากนั้น ให้นำผลลัพธ์ที่ได้มาหารกับยอดรวมของรายรับ แล้วแปลงผลลัพธ์ที่ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ โดยสูตรของการคำนวณกำไรขั้นต้นคือ

กำไรขั้นต้น = [(รายรับ-COGS)/รายรับ] X 100

ทั้งนี้ทั้งนั้น การคำนวณข้างต้นไม่ได้รวมถึงต้นทุนในส่วนอื่น เช่น ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการ ภาษี และการลงทุนอื่นๆ ดังนั้น คุณจึงจำเป็นต้องคำนวณหากำไรขั้นต้นอีกด้วย

ก่อนที่จะคำนวณกำไรสุทธิ คุณจะต้องประมวลรายรับจากการดำเนินการ ซึ่งนั่นก็คือรายรับก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย แล้วนำรายรับจากการขายลบกับ COGS และลบกับรายจ่ายจากการดำเนินการ ซึ่งแสดงเป็นสูตรคำนวณได้ดังนี้

รายรับจากการดำเนินการ = (รายรับ-COGS) – รายจ่ายจากการดำเนินการ

เมื่อได้รายรับจากการดำเนินการแล้วให้นำมาหักจากค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ไม่ว่าจะเป็น ภาษี ดอกเบี้ย และต้นทุนอื่นๆ เพื่อหาค่ากำไรสุทธิของคุณ จากนั้น นำผลลัพธ์ที่ได้มาเป็นตัวตั้งแล้วหารด้วยยอดรวมรายรับ แล้วแปลงผลลัพธ์ที่ได้เป็นเปอร์เซ็นต์ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ยอดกำไรสุทธิแล้ว

กำไรสุทธิ = [(รายรับจากการดำเนินการ-ภาษีและดอกเบี้ย)/รายรับ] x 100

การที่คุณทราบถึงกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธินั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง เพราะข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลต่อประสิทธิผลของธุรกิจ กำไรขั้นต้นจะแสดงให้เห็นว่าต้นทุนการผลิตสูงกว่ารายรับของคุณหรือไม่ ในขณะที่กำไรสุทธิจะชี้ให้เห็นถึงระดับ ของความสามารถในการทำกำไรของธุรกิจคุณ

4. ความภักดีของลูกค้าและการรักษาฐานลูกค้า

แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญเพื่อความยืนหยัดของธุรกิจ คือฐานลูกค้าที่มีความภักดี ซึ่งความภักดีของลูกค้านี้เองที่มีค่ามากกว่า กลยุทธ์ทางการตลาดที่สวยหรู เนื่องจากลูกค้าที่มีความพึงพอใจจะมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของลูกค้ารายอื่นๆ อีกทั้งยังสามารถช่วยสร้างชื่อ และความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี

ในการวัดความภักดีและการรักษาฐานลูกค้าถือเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เนื่องจากข้อมูลเหล่านี้จะเปลี่ยนเป็นเครื่องมือที่ช่วยตอบคำถามที่ว่า คุณมีค่าใช้จ่ายในการสร้างการรับรู้ของสาธารณชนอยู่ที่เท่าใด โดยค่าใช้จ่ายบางส่วน ก็คือค่าใช้จ่ายในการสำรวจความคิดเห็นของลูกค้า ข้อเสนอแนะโดยตรง และการศึกษาวิเคราะห์เกี่ยวกับการซื้อ

5. มูลค่าระยะยาวของลูกค้า (CLV) และต้นทุนการสร้างฐานลูกค้า (CAC)

ต้นทุนในการสร้างฐานลูกค้าใหม่ คือเรื่องที่ธุรกิจที่กำลังเติบโตจะต้องศึกษาให้ถ่องแท้เพื่อให้สามารถประเมินได้ว่าธุรกิจกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องหรือไม่

การคำนวณค่า CLV นั้น ให้นำยอดขายโดยเฉลี่ยมาคูณกับจำนวนครั้งของการทำธุรกรรมซ้ำ แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้ไปคูณ กับระยะเวลาโดยเฉลี่ยที่ลูกค้าแต่ละรายอยู่กับคุณ

ในทางกลับกัน สำหรับการคำนวณค่า CAC นั้น ให้นำงบรวมค่าการตลาดและโฆษณาเป็นตัวตั้ง แล้วหารด้วยจำนวนลูกค้าที่หามาได้ในช่วงเวลาที่กำหนด

สำหรับเจ้าของธุรกิจทุกประเภท ตัวชี้วัดนี้ถือเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะช่วยไขความกระจ่างได้ว่า เราต้องจ่ายเงินจำนวนเท่าไรในการหาลูกค้าใหม่ และช่วงเวลาใดคือช่วงที่เหมาะสมในการสร้างฐานลูกค้าใหม่

แดชบอร์ดแสดงผลประกอบการ

เพื่อให้ธุรกิจใดธุรกิจหนึ่งดำรงอยู่ได้ เจ้าของธุรกิจจึงควรจัดหาชุดข้อมูลชี้วัดพร้อมใช้มาเพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ เนื่องจากข้อมูลชุดดังกล่าวจะช่วยให้เจ้าของธุรกิจมองเห็นภาพเส้นทางของธุรกิจได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น

ในการคัดเลือกแดชบอร์ดแสดงผลประกอบการสำหรับตัวชี้วัดธุรกิจนั้น เกณฑ์ที่คุณควรนำมาพิจารณาก็คือ ความสามารถ ในการปรับแต่ง การแสดงผลที่ชัดเจน ความสมบูรณ์ของข้อมูลพื้นฐาน การใช้งานที่ง่ายไม่ซับซ้อน และระยะเวลาการตอบสนองของระบบที่รวดเร็ว

ตัวอย่างด้านล่างนี้แสดงให้เห็นถึงแดชบอร์ดแสดงผลประกอบการที่ดี ซึ่งคือแดชบอร์ดที่แสดงข้อมูลผ่านการจัดเรียง ที่เป็นระเบียบพร้อมกราฟและตารางต่างๆ ที่จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจตีความข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย

ตัวชี้วัดความสำเร็จทางธุรกิจที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเรียนรู้

แดชบอร์ดที่เป็นผลงานพัฒนาของ SAP จะช่วยให้เจ้าของธุรกิจจัดการตัวชี้วัดได้ดีกว่า ในการปลุกปั้นเอกลักษณ์เฉพาะ ในตลาด และสร้างความแตกต่างที่โดดเด่นให้กับธุรกิจของคุณ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่ SAP Business One จะช่วยให้คุณติดตามตัวชี้วัดทางธุรกิจแบบบูรณาการ กับการใช้งาน ที่ง่ายดาย และแดชบอร์ดแสดงผลประกอบการที่แสดงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างสวยงาม ซึ่งเป็นแดชบอร์ดที่พร้อมให้คุณอัพเดทข้อมูล ได้แบบเรียลไทม์ หากพร้อมแล้วก็เริ่มต้น ทดลองใช้ SAP Business One ฟรี ตอนนี้เลย

ศึกษาเพิ่มเติมที่ SAP.com/TH/growyourbiz

 

เกี่ยวกับ Erwan Philippe

Erwan Philippe เป็นหัวหน้าฝ่าย SAP Business One ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยดูแลประเทศญี่ปุ่นและจีนแผ่นดินใหญ่ กว่า 13 ปีที่เติบโตมากับส่วนงาน IT ซึ่งรวมถึงการดำรงตำแหน่งในระดับผู้บริหารในสายงานการขาย การพัฒนาธุรกิจ และการปฏิบัติการ โดยในปัจจุบันนี้ Erwan มีหน้าที่รับผิดชอบในด้านการขับเคลื่อนยอดขาย การปฏิบัติการ และการเติบโตของ SAP Business One ทั่วทั้งเอเชีย