เครือข่ายอนาคตไทยรวมพลัง เผยแพร่สื่อรณรงค์“อย่าให้ใครว่าไทย”

เครือข่ายอนาคตไทยรวมพลัง เผยแพร่สื่อรณรงค์“อย่าให้ใครว่าไทย”

 

เครือข่ายอนาคตไทยรวมพลัง เผยแพร่สื่อรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ชุดใหม่ พร้อมเปิดตัวองค์กรสมาชิกใหม่

สมาชิกเครือข่ายอนาคตไทยพร้อมใจแสดงพลังสร้างกระแสการรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” เดินหน้าจัดกิจกรรมทั้งภายในและภายนอกองค์กรประชาสัมพันธ์สื่อโปสเตอร์รณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ปฏิทินและแอปพลิเคชัน คิดดี...มีตังค์ รวมพลังช่องทางสื่อเผยแพร่คลิปวีดีโอ และหนังโฆษณา คิดดี...มีตังค์เพื่อส่งเสริมการออมให้คนไทยมีวินัยทางการเงิน ลดเลิกพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ฟุ้งเฟ้อขี้โกง มักง่าย ไร้สติพร้อมแนะนำสมาชิกใหม่ 3 องค์กรที่มาจากทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน

เครือข่ายอนาคตไทยเป็นการรวมตัวกันของหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนที่ร่วมกันขับเคลื่อนโครงการรณรงค์ระดับประเทศ Thailand Campaign ภายใต้ชื่อ "อย่าให้ใครว่าไทย"  ซึ่งเป็นโครงการที่มีจุดมุ่งหมายที่จะกระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนทัศนคติลดเลิกพฤติกรรมเชิงลบ (ฟุ้งเฟ้อขี้โกง มักง่าย ไร้สติ) โดย 6 องค์กรหลักผู้ริเริ่ม ได้แก่ มูลนิธิมั่นพัฒนา สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและสภาหอการค้าไทย ปัจจุบันมีภาคีเครือข่ายทั้งสิ้นจำนวน 115องค์กร

นายธาตรี ลิขนะพิชิตกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันมั่นพัฒนา มูลนิธิมั่นพัฒนาในนามเครือข่ายอนาคตไทยเล่าถึงความเคลื่อนไหวของเครือข่ายอนาคตไทยในการดำเนินภารกิจปี 2560 ในช่วงที่ผ่านมาว่า ได้รับความร่วมมือจากสมาชิกเครือข่ายเป็นอย่างดี โดยองค์กรสมาชิกเครือข่ายได้ร่วมกันจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์สื่อรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ทั้งกับกลุ่มพนักงานภายในองค์กรและกับประชาชนทั่วไปภายนอกองค์กรตัวอย่างหน่วยงานที่ร่วมจัดกิจกรรมรณรงค์ อาทิ กลุ่มสถาบันการเงิน ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทยและธนาคารเกียรตินาคินกลุ่มองค์กรภาครัฐ เช่น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอรมน.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)การประปานครหลวงกลุ่มองค์กรภาคเอกชน หอการค้าไทย กลุ่มมิตรผล เอสซีจีบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)บริษัทผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)ที่ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการออมและแจกปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ให้กับพนักงานภายในหน่วยงาน และเผยแพร่โปสเตอร์ “อย่าให้ใครว่าไทย” คลิปวีดีโอและหนังโฆษณา คิดดี...มีตังค์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆ ขององค์กรกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม เช่นมูลนิธิประเทศไทยใสสะอาดองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันมูลนิธิยุวสถิรคุณ  มูลนิธิครอบครัวพอเพียง ได้นำสื่อรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ไปประชาสัมพันธ์ภายในองค์กรและจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์รณรงค์กับกลุ่มเป้าหมายขององค์กร รวมทั้งสถาบันการศึกษา เช่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์นอกจากจะเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สื่อรณรงค์ผ่านช่องทางสื่อต่างๆของมหาวิทยาลัยแล้วยังมีการนำปฏิทิน คิดดี...มีตังค์ ไปจัดกิจกรรมกับนักศึกษาในวิชาด้านการเงิน เพื่อส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการออมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ด้วย

“นอกจากองค์กรสมาชิกเครือข่ายอนาคตไทยจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่ได้ร่วมกันสร้างกระแสรณรงค์อย่างพร้อมเพรียงแล้ว ในส่วนภูมิภาคก็ยังมีเครือข่ายอนาคตไทยจังหวัดขอนแก่นและจังหวัดสุโขทัยที่เป็นการรวมตัวกันของกลุ่มองค์กรในหลายภาคส่วนภายในจังหวัดดังกล่าว ซึ่งเป็นกำลังสำคัญที่ได้ร่วมจุดกระแสรณรงค์โดยการเผยแพร่สื่อรณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย”ผ่านช่องทางสื่อ และผ่านการจัดกิจกรรมกับกลุ่มเป้าหมายทั้งในสถาบันการศึกษาและประชาชนทั่วไป”

กลุ่มสมาชิกเครือข่ายฯ อีกภาคส่วนที่มีบทบาทเป็นอย่างมากในการร่วมสร้างกระแสการรณรงค์ในปี 2560 คือ กลุ่มองค์กรด้านสื่อสารมวลชน เช่นจส.100สถานีวิทยุจราจรเพื่อสังคม FM 99.5 GP Channel ที่มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อรายการวิทยุและFacebook Fanpage ของหน่วยงาน บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด นอกจากจะเผยแพร่สื่อรณรงค์ภายในองค์กรแล้วยังได้นำหนังโฆษณา คิดดี..มีตังค์ ขึ้นป้ายโฆษณา LEDเพื่อสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนเพื่อสร้างกระแส “อย่าให้ใครว่าไทยฟุ้งเฟ้อ” บริษัท ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัดได้จัดตารางการออกอากาศ คลิปวีดีโอและหนังโฆษณาคิดดี...มีตังค์มาตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.ที่ผ่านมาโดยออกอากาศทั้งในระบบ SD และระบบ HD ทางช่องรายการทรูวิชั่นส์รวมถึงสื่อภาครัฐอย่างกรมประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นองค์กรตั้งต้นเครือข่ายฯ ก็ได้นำคลิปวีดีโอและหนังโฆษณา ดังกล่าวไปเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางสื่อโทรทัศน์ของกรมประชาสัมพันธ์ ทั้งนี้เพื่อร่วมสร้างกระแสการรณรงค์ให้คนไทยได้หันกลับมาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมความฟุ้งเฟ้อ สร้างวินัยทางการเงินและใช้ชีวิตตามหลักความพอเพียง

“จากความร่วมมือร่วมใจขององค์กรสมาชิกเครือข่ายฯในช่วงที่ผ่านมาทำให้เกิดกระแสการตอบรับเป็นอย่างดีส่งผลให้มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “คิดดี...มีตังค์” ที่เครือข่ายอนาคตไทยได้พัฒนาขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือช่วยสร้างวิถีชีวิตแบบใหม่ มีสไตล์ มีสตางค์ เสริมความรู้และทักษะด้านการบริหารจัดการการเงินให้กับผู้ใช้ มียอดดาวน์โหลดทะลุ 100,000 ดาวน์โหลด และติดอันดับ 1 ฟรีแอปพลิเคชัน หมวด Lifestyle ในเวลาอันรวดเร็ว” นายธาตรี กล่าว

นอกจากความเคลื่อนไหวในการขับเคลื่อนภารกิจร่วมกันขององค์กรสมาชิกเครือข่ายฯแล้ว ในส่วนของการขยายเครือข่าย มีการเพิ่มจำนวนองค์กรสมาชิกเครือข่ายฯ อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดสมาชิกใหม่ 3 องค์กรได้ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาที่ไปในการเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทย องค์กรแรกเป็นสถาบันการศึกษาแนวหน้าของประเทศไทยสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA)โดย รศ.ดร.ประดิษฐ์ วรรณรัตน์ อธิการบดี ได้เล่าถึงเหตุผลที่เข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทยว่าเนื่องด้วยปัญหาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทั้ง 4 ด้าน ฟุ้งเฟ้อ ขี้โกง มักง่าย ไร้สติ ล้วนเป็นปัญหาระดับประเทศและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดย NIDA เองเลือกที่จะขับเคลื่อนใน 2 ประเด็น คือ ขี้โกง และมักง่าย ซึ่งปัญหาพฤติกรรมทั้ง 2 เรื่องนี้จำเป็นที่จะต้องมีการปลูกฝังตั้งแต่ระดับสถาบันครอบครัว เด็ก เยาวชน โดยภายในNIDA มีโครงการ “โตไปไม่โกง” ซึ่งดำเนินการโดยศูนย์สาธารณประโยชน์และประชาสังคมที่ได้จัดอบรมครูที่จะกลับไปสอนเด็กให้เติบโตอย่างมีคุณธรรม และในส่วนพฤติกรรมความมักง่าย การทิ้งขยะไม่เป็นที่เป็นทางซึ่งมักจะเห็นผลกระทบของปัญหาได้ชัดเจนมากในช่วงน้ำท่วมนั้นต้องสร้างจิตสำนึกให้กับคนไทยให้ใส่ใจในสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมของ NIDAเองก็มีอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญที่ทำเรื่องลูกบอล ชีวภาพ (EM Ball) ที่ใช้บำบัดน้ำเสียอยู่ซึ่งจะได้ขับเคลื่อนในเรื่องการดูแลสิ่งแวดล้อมต่อไป

หน่วยงานที่สองมาจากภาคประชาสังคม คือมูลนิธิครอบครัวพอเพียง ซึ่งมีภารกิจหลักเพื่อเผยแพร่หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ไปสู่เยาวชน ครอบครัว สังคม โดยนางวาสนา  สุทธิเดชานัย รองประธานกรรมการมูลนิธิฯ ได้เล่าถึงเหตุผลในการเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทยว่า เนื่องด้วยมีเป้าประสงค์ที่สอดคล้องกัน และมูลนิธิฯ ตระหนักดีว่าการจะทำงานให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีความร่วมมือระหว่างเครือข่าย ประกอบกับเครือข่ายอนาคตไทยมีสื่อประชาสัมพันธ์ที่ดีซึ่งมูลนิธิฯสามารถขอรับการสนับสนุน เพื่อนำไปเผยแพร่กับกลุ่มเป้าหมายของมูลนิธิฯได้ โดย มูลนิธิฯเลือกที่จะขับเคลื่อนการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ ทั้ง 4 ด้านโดยสอดแทรกกับทุกกิจกรรมการให้ความรู้ เรื่อง “ศาสตร์พระราชาสู่สถานศึกษาและชุมชน”นอกจากนั้นยังมีการจัดกิจกรรมแจกปฏิทินและดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “คิดดี มีตังค์” โดยมีการจัดนิทรรศการ และกิจกรรมตอบคำถามเกี่ยวกับการออมกับกลุ่มเป้าหมาย

หน่วยงานที่สามจากภาคเอกชน บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)โดยนางสาวสุภัค แก่นจัน ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม(CSR Manager)เล่าถึงเหตุผลการเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทยว่าบริษัทฯ ต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภารกิจเพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืนโดยกลุ่มบริษัทศรีตรังได้ดำเนินกิจกรรม CSR ภายในซึ่งตรงกับเครือข่ายอนาคตไทยอยู่แล้วจึงถือเป็นโอกาสดีที่จะร่วมมือกันขยายผลของกิจกรรมนี้ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้นโดยเลือกขับเคลื่อนในทุกประเด็นเพราะล้วนมีผลต่อการสร้างสังคมที่ดีโดยแนวนโยบายของกลุ่มบริษัทศรีตรังมีความมุ่งมั่นที่จะรักษาไว้ซึ่งความเป็นผู้นำในธุรกิจยางพาราในระดับสากล และพร้อมกับสานต่อการพัฒนาธุรกิจอย่างยั่งยืน ด้วยจิตสำนึกที่ว่าในทุกย่างก้าวของการเติบโตของธุรกิจต้องเติบโตไปพร้อมกับชุมชนและสังคม

ความร่วมมือของเครือข่ายอนาคตไทยในการขับเคลื่อนภารกิจการพัฒนาประเทศและการขยายเครือข่ายไปสู่หน่วยงานในทุกภาคส่วนจะยังคงเดินหน้าต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งด้วยเจตนารมณ์ร่วมที่แน่วแน่ชัดเจนอันจะส่งผลต่อการสร้างกระแสการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เพื่อสร้างสังคมใหม่บนพื้นฐานการพัฒนาอย่างยั่งยืนต่อไป