อารียา เผยโฉม THE AVA RESIDENCE

อารียา เผยโฉม THE AVA RESIDENCE

 

อารียา เผยโฉม THE AVA RESIDENCE บ้านเดี่ยวสุดหรูโครงการสุดท้าย ใจกลางสุขุมวิท 77

The AVA Residence โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สุดเรียบหรู บนทำเลทองผืนสุดท้ายบนถนนสุขุมวิท 77 มูลค่ากว่า 3,300 ล้านบาท เปิดตัวภายใต้แนวคิด “ชีวิตสุนทรียะ ชีวิตที่สุขุมวิท”  ดึงเอาธรรมชาติ ผสมผสานกับย่านเศรษฐกิจกลางเมืองอย่างลงตัว พร้อมระบบความความปลอดภัย 5 ระดับ และบริการหลังการขายเต็มที่ตลอด 5 ปีแรก

วิวัฒน์ เลาหพูนรังสี กรรมการบริหาร บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ได้ฤกษ์เปิดตัวหนึ่งใน 11 โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อารียาตั้งเป้าจะส่งลงสู่ตลาด ในปี 2560 ภายใต้ชื่อ THE AVA RESIDENCE โดยมีมูลค่าโครงการกว่า 3,300 ล้านบาท พร้อมระบุ ว่าเป็นโครงการบ้านเดี่ยวโครงการสุดท้ายที่ติดถนนสุขุมวิท ชูจุดเด่น การตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ลักชัวรี่โอบรอบด้วยธรรมชาติ เอาใจคนรักความสะดวกสบายในการเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS  แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องการความคุ้มค่า และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

นี่เป็นบ้านเดี่ยวโครงการสุดท้ายของกรุงเทพฯ ที่ติดถนนใหญ่ถนนสุขุมวิท สิ่งที่ลูกค้าจะได้คือความร่มรื่นที่หาจากที่ไหนไม่ได้ หากได้ลองเข้ามาสัมผัสจะเหมือนอยู่อีกโลกหนึ่งที่ปราศจากความวุ่นวายทั้งปวงวิวัฒน์กล่าว

โครงการ THE AVA RESIDENCE อยู่ภายในบริเวณพื้นที่กว่า 31-1-37.5 ไร่ มีจำนวนทั้งหมด 94 ยูนิต ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยวแบบเอ็กซ์คลูซีฟ 3 ชั้นราคาเริ่มต้น 25-80 ล้านบาท พร้อมบ้าน 3 แบบ LA VIE II ขนาดเล็กสุด พื้นที่ 61.8 ตารางวา ห้องนอน 3 ห้อง ห้องน้ำ 4 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ห้องแก้ว 1 ห้อง ที่จอดรถ 2 คัน และพื้นที่ใช้สอย  LA VIDA II ขนาดกลาง พื้นที่ 72.5 ตารางวา ห้องนอน 4 ห้อง ห้องน้ำ 5 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง และที่จอดรถ 3 คัน  LA VITA ขนาดใหญ่ที่สุด พื้นที่ 90.5 ตารางวา ห้องนอน 5 ห้อง ห้องน้ำ 6 ห้อง ห้องนั่งเล่น 1 ห้อง ห้องครัว 1 ห้อง ที่จอดรถ 3 คัน พร้อมพื้นที่ใช้สอยและสระว่ายน้ำส่วนตัวบนดาดฟ้า

คุณวิวัฒน์ ผู้พัฒนาโครงการระบุว่า THE AVA RESIDENCE ใช้การจัดวางแบบ Open Plan ด้วยการเชื่อมส่วนห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหารเข้าด้วยกัน แต่สิ่งที่เรียกว่า “เอ็กคลูซีฟ” คือมีการออกแบบสวนภายในบ้าน เป็นห้องกระจก (Glass Room) เพื่อความใกล้ชิดกับธรรมชาติและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของครอบครัวที่มองหาสิ่งที่ตอบโจทย์ และยังเพิ่มระยะเวลารับประกันมากกว่ากฎหมายกำหนดถึง 5 ปีเต็ม

ทางเราได้วางเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด ไว้ในที่แห่งนี้หมดแล้ว  ไฟทุกห้องจะสามารถเปิดได้โดยอัตโนมัติเมื่อเดินผ่าน เนื่องจากใช้ระบบเซ็นเซอร์ล่าสุด และอีกหลายอย่างที่เตรียมไว้สำหรับลูกบ้านทุกท่าน จะเห็นได้ว่าความอาวุโสของผม ไม่ได้ลดความทันสมัยลงแต่อย่างใด” วิวัฒน์กล่าว

นอกจากนั้น อีกไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นคือทางโครงการยังมีการวางระบบความปลอดภัย 5 ระดับตลอด 24 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่หน้าโครงการทั้งระบบ Double Gate Securities ประตูหน้าโครงการ 2 ชั้น เพื่อพักรถเสริมความปลอดภัยก่อนเข้าไปในตัวโครงการ กล้องวงจรปิด CCTV  สัญญาณกันขโมยไร้สายมาตรฐานสากล  VDO Call ซึ่งสามารถติดต่อกับเจ้าของบ้านด้วยระบบเรียลไทม์ สามารถเห็นทุกความเคลื่อนไหวภายในบ้าน และเพิ่มความสะดวกสบายด้วยการควบคุมการเปิด-ปิด ของประตูรั้ว เพียงแค่ปลายนิ้วสัมผัสหน้าจอบนสมาร์ทโฟน  อีกทั้งยังการเปิด-ปิดไฟ อัตโนมัติผ่านระบบ Photo Sensor

ด้านทำเลที่ตั้งรายล้อมไปด้วย ห้างสรรพสินค้าและสถานที่สำคัญอาทิเช่น The EmporiumThe EmQuartierThe Emsphere J Avenue ทองหล่อGateway เอกมัยและ Terminal 21สามารถเดินทางได้ทั้ง 2 เส้นทางหลัก ทั้งถนนสุขุมวิท และถนนศรีนครินทร์ และยังตั้งอยู่ในจุดที่มีรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท แอร์พอร์ต ลิงค์ และรถไฟฟ้า MRT สายอนาคต (YELLOW LINE)วิ่งผ่าน ครบครันเรื่องการเดินทาง

นอกจากนี้ยังมีบริการไวไฟฟรี 100 Mb ไว้สำหรับรองรับคนทันสมัยทุกหลังคาเรือน 

เรื่องบริการหลังการขาย เป็นหนึ่งสิ่งที่อารียาให้ความสำคัญมากขึ้น จึงได้ปรับปรุงพัฒนาระบบหลังบ้าน โดยวางพื้นฐานตั้งแต่ระบบCall Center ให้เก็บข้อมูลการร้องเรียนและต้องติดตามการทำงานทุกอย่างจนสำเร็จ ตลอดจนถึงนิติบุคคลที่ต้องคลุกคลีกับลูกบ้าน ต้องมีวิธีการจัดการเจรจาให้ดี ค่อนข้างมั่นใจว่าบริการหลังการขายดีไม่แพ้ใครแน่นอนครับ

สำหรับโครงการ THE AVA RESIDENCE  เขาตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะสร้างรายได้ให้เฉลี่ยเดือนละ 100 ล้านบาท โดยอารียายังมีแผนเปิดโครงการอื่นๆ ในปี 2560 รวม11 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 24,000 บาท โดยแบ่งเป็นโครงการแนวราบ 7 โครงการ และโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม 4 โครงการ ส่วนแนวทางการทำธุรกิจของอารียายังคงยึดจุดแข็งเหมือนเดิม คือ ทำเล การออกแบบดีไซน์ คุณภาพ และการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขายเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดลูกค้าซึ่งปีนี้ตั้งเป้าเติบโตไม่น้อยกว่า 35-38 %