MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

 

MTS จับมือ CME GROUP ขยายตลาดลงทุนไทยสู่ตลาดสินค้าอนุพันธ์ระดับโลก เพิ่มทางเลือกการลงทุนให้หลากหลายและครบวงจร พร้อมทั้งเปิดศักยภาพการลงทุนด้วยความรู้จากวิทยากรตัวจริง SUPER TRADER และ SKYNET SYSTEMS ผู้นำด้านนวัตกรรมการเทรดสมัยใหม่ ก้าวสู่ประสบการณ์การลงทุนยุค Smart Investor

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัทในเครือ MTS GOLD แม่ทองสุก

เปิดเผยว่า บริษัทถือเป็นผู้นำด้านการลงทุนทองคำครบวงจร ทั้งการให้บริการซื้อขายทองคำแท่งและรูปพรรณ เป็นผู้ส่งออกทองคำรายใหญ่ของไทย และได้ขยายตลาดซื้อขายทองคำไปยังฮ่องกงและสิงคโปร์ รวมทั้ง ยังได้รับสิทธิเป็นโบรกเกอร์ทองคำที่ซื้อขายใน CME Group ตลาดสินค้าอนุพันธ์ระดับโลก เพื่อเป็นช่องทางให้นักลงทุนไทยได้เข้าถึงการลงทุนในสินค้าที่หลากหลายและมีมาตรฐานระดับโลก

“เราเป็นโบรกเกอร์ไทยเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่เป็นสมาชิกของ CME ตลาดอนุพันธ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก จึงเป็นโอกาสที่ดีที่นักลงทุนไทยจะได้ซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ที่หลากหลายได้อย่างถูกต้องและมั่นใจ ไม่ต้องกลัวถูกหลอก”

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

นายณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประธานฝ่ายบริหารบริษัท MTS GOLD GROUP กล่าวถึง แผนการดำเนินธุรกิจของ MTS ในปีนี้ว่าบริษัทมีแผนขยายตลาดการลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ล่วงหน้าเพิ่มเติม เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของนักลงทุนมากยิ่งขึ้น ทั้งสินค้ายางพาราในตลาด TOCOM ประเทศญี่ปุ่น และตลาดเซี่ยงไฮ้ รวมถึงเปิดโอกาสให้นักลงทุนซื้อขายสินค้าใหม่อย่างน้ำตาล เพิ่มเติมจากสินค้าเดิมๆ อย่างทองคำ, น้ำมัน หรือ การเก็งกำไรค่าเงินต่างประเทศในตลาด CME ที่บริษัทร่วมเป็นพันธมิตรอยู่

พร้อมกันนี้บริษัทได้นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมการลงทุนสมัยใหม่ อาทิ การลงทุนสินค้า Gold       Online หรือ การซื้อขายทองคำระบบออนไลน์รายแรกของประเทศไทย การบริการเครื่องมือ Meta Trader 5  หรือ MT 5 เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุน โดยบริษัทถือเป็นเจ้าแรกในไทยที่ให้บริการซื้อขายผ่านระบบ MT 5 บน Smart Phone

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

และปีนี้ยังได้ร่วมมือเป็นพันธมิตรด้านการลงทุนกับบริษัท ซุปเปอร์ เทรดเดอร์ จำกัด ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านการเงินการลงทุน และบริษัท สกายเน็ต ซิสเต็มส์ จำกัด ศูนย์กลางการเชื่อมต่อระบบเพื่อการส่งคำสั่งซื้อ-ขายจากระบบเทรด (Algorithmic Trade) เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพนักลงทุนไทยให้เทียบเท่าสากล สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักลงทุนยุคปัจจุบันที่สนใจผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลาย และต้องการเครื่องมือที่ทันสมัย

“MTS มองว่าความร่วมมือกับ CME จะทำให้นักลงทุนไทยมีโอกาสเลือกทำกำไรและเทรดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ และอนาคตเราเชื่อว่าจะมีสินค้าโภคภัณฑ์ซื้อขายในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้นักลงทุนไทยได้เข้าถึงและมีทางเลือกในการลงทุนที่หลากหลาย ในขณะเดียวกันการร่วมมือกับซุปเปอร์เทรดเดอร์และสกายเน็ตจะช่วยให้นักลงทุนไทยลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านผู้เชี่ยวชาญด้านการเทรดมืออาชีพ”

โดยปัจจุบันบริษัทมีลูกค้าที่เปิดบัญชีซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาด CME ประมาณ 1,500 บัญชี เป็นลูกค้าที่ซื้อขายประจำ (Active) 30% มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันราว 2-2.5 พันล้านบาท หรือ เดือนละประมาณ 5 หมื่นล้านบาท และจากการร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งซุปเปอร์เทรดเดอร์ในการให้ความรู้กับนักลงทุน และสกายเน็ตในการพัฒนาระบบการซื้อขายที่มีมาตรฐานจะช่วยให้ลูกค้ามีความมั่นใจและกล้าออกไปลงทุนในตลาดต่างประเทศผ่านตลาด CME มากขึ้น โดยตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีลูกค้าเพิ่มเป็น 5,000 บัญชี และมูลค่าการซื้อขายต่อเดือนเพิ่มเป็น 1 แสนล้านบาท

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

Ms.Rachel WongClient Development&Sales – Retail Asia, CME Group กล่าวว่า ปัจจุบันมีนักลงทุนซื้อขายในตลาด CME Group มากขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยในปี 2561 กลุ่มนักลงทุนที่ไม่ใช่สถาบันการเงินขยายตัวมากขึ้นถึง 27% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสัญญาซื้อขายเฉลี่ยที่ 660,000 สัญญา/วัน สำหรับภาพรวมการลงทุนจากทั่วโลก พบว่ามีนักลงทุนจากภูมิภาคเอเชียเพิ่มขึ้นถึง 30% จากยุโรปเพิ่มขึ้น 36%

ทั้งนี้ หลังจากที่ CME ได้ร่วมมือกับ MTS ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2561 ได้มองเห็นศักยภาพของนักลงทุนไทยที่เริ่มสนใจซื้อขายสินค้าโภคภัณฑ์ผ่านตลาดซื้อขายของ CME ซึ่งเป็นกลุ่มนักลงทุนที่มีคุณภาพ มีความรู้และเข้าใจในตัวสินค้า แม้ว่าการทำกำไรในตลาดซื้อขายล่วงหน้าอาจจะผัวผวนอยู่บ้าง แต่เชื่อว่าการที่ MTS ได้ให้ข้อมูลข่าวสารและการวิเคราะห์ที่ดีกับลูกค้าจะช่วยสร้างโอกาสในการลงทุนที่ดียิ่งขึ้น

นอกจากนี้  ทาง CME เตรียมเปิดตัวสินค้า Micro E – mini futures โดยเป็นการพัฒนาสินค้าให้มีขนาดสัญญาซื้อขายเพียง 1 ใน 10 ของ E – mini futures ในดัชนีเดียวกัน ซึ่งการลดขนาดสัญญาลงมาจะช่วยให้นักลงทุนจำนวนมากสามารถเข้าถึงการซื้อขายดัชนีหุ้นเด่นๆของสหรัฐได้มากขึ้น ทั้ง S&P 500, Nasdaq - 100, Russell 2000 และ Dow Jones ทำให้ง่ายต่อการบริหารพอร์ตและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสม อีกทั้งการซื้อขายในตลาด CME Group ยังมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก โดย Micro E-mini futures จะสามารถเริ่มซื้อขายได้ในเดือนพ.ค. ปีนี้

“สำหรับปีนี้เรายังเห็นถึงความมุ่งมั่นของ MTS ที่จะขยายโอกาสการลงทุนและเพิ่มสินค้าให้กับนักลงทุนไทย ทำให้เรามีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินงานของ MTS ในฐานะพันธมิตรที่จะช่วยกันผลักดันตลาดซื้อขายล่วงหน้าให้มีมูลค่าและสัญญามากขึ้น รวมถึงขยายฐานนักลงทุนให้เพิ่มมากขึ้น”

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

ด้าน นายกระทรวง จารุศิระ ประธาน บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ จำกัด กล่าวถึง ความร่วมมือกันระหว่าง MTS GOLD และ บริษัท ซุปเปอร์เทรดเดอร์ รีพับบลิค จำกัด ในครั้งนี้ว่า เป็นการร่วมมือครั้งสำคัญในด้านการแนะนำแนวทางการลงทุนและการอบรมสัมมนาแก่นักลงทุน ตลอดจนบุคลากรภายในองค์กรจากวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญ

“ซุปเปอร์เทรดเดอร์รีพับบลิค มีความพร้อมที่จะร่วมมือกับ MTS GOLD ในการพัฒนาศักยภาพนักลงทุนไทย โดยเราจะเป็นหน่วยงานที่ให้คำแนะนำแนวทางการลงทุน รวมไปถึงการจัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ โดยความตั้งใจของทั้งสององค์กรที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะช่วยให้นักลงทุนได้รับโอกาสที่กว้างขวางและนำไปสู่การพัฒนาประเทศได้อย่างยั่งยืน”

MTS จับมือพันธมิตรเสริมศักยภาพ Smart Investor

นายพิพัฒน์ รุ่งเรือง ประธานบริหาร บริษัท สกายเน็ต ซิสเต็มส์ จำกัด กล่าวถึง การเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในครั้งนี้ว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นของตลาดการลงทุนไทยที่มีการใช้เทคโนโลยีระบบ Social Trading Platform ที่รองรับ Algorithm และ AI ได้ในระดับ Deep Learning สามารถจัดอันดับนักลงทุนหรือบทวิเคราะห์ หรือ AI เพื่อให้นักลงทุนทั่วไปสามารถขอติดตามและตรวจสอบความน่าเชื่อถือได้

“บริษัท สกายเน็ตซิสเต็มส์ จำกัด รู้สึกยินดีมากที่ได้เป็นพันธมิตรร่วมมือกับ MTS และถือว่าเป็นความสำเร็จอีกขั้นของสกายเน็ตที่จะได้เชื่อมต่อกับ CME Group ซึ่งเป็นตลาดสินค้าล่วงหน้าระดับโลกที่ประเทศอเมริกา ถือฟินเทคสตาร์ทอัพสัญชาติไทยเจ้าแรกที่ได้รับการยอมรับจากตลาดระดับโลกในครั้งนี้”