เปิดกลยุทธ์ APEX บิ๊ก อสังหาฯ เพื่อการท่องเที่ยว

คุณพงษ์พันธ์ สัมภวคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ (APEX) หนึ่งในผู้นำการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ในรูปแบบมิกซ์ยูสระดับพรีเมียม ที่มุ่งเน้นการพัฒนาที่จะให้ประโยชน์หรือสร้างมูลค่าเพิ่มสูงสุด (Enhancing Value) ให้แก่นักลงทุนและผู้ซื้อซึ่งเป็นลูกค้าของโครงการ

ด้วยประสบการณ์ ยาวนานกว่า 30 ปี  ในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์  คุณพงษ์พันธ์ ได้เล่าถึงการดำเนินธุรกิจในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาว่า  ก่อนเริ่มการพัฒนาโครงการในนาม บริษัท เอเพ็กซ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เราได้ทำโครงการต่างๆหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็น คอนโดมิเนียม โรงแรม และอาคารสำนักงาน ผมมองหาโอกาสใหม่ๆในการพัฒนาธุรกิจที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความเจริญรุ่งเรืองของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย เช่นที่ พัทยา ภูเก็ต และกระบี่ โดยการเริ่มพัฒนาโครงการโรงแรม          รีสอร์ท และคอนโดมิเนียมริมทะเลแห่งแรกชื่อ  "โครงการไวท์แซนด์ บีช"  ริมชายหาดพัทยา พื้นที่ประมาณ 30 ไร่ มูลค่าโครงการ 3,500 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงแรมโมเวนพิค (อาคารฝั่งเหนือ) ส่วนที่พักอาศัย โมเวนพิค เรสซิเดนซ์ (อาคารฝั่งใต้) และโมเวนพิค พูลวิลล่า”

จากนั้น เอเพ็กซ์ ได้พัฒนาอีก  2 โครงการอสังหาริมทรัพย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มและค่าตอบแทนเป็นรายได้ที่ดีให้ลูกค้าผู้ซื้อลงทุนใน Residences (Condominium) โดยจัดให้มีเชนโรงแรมชื่อดังระดับ 5 ดาว เข้ามาบริหารการจัดให้เช่า Residences คือ โครงการ “The Residences at Sheraton Phuket Grand Bay” ที่อ่าวปอ จังหวัดภูเก็ต และโครงการ คลับเมด (Club Med) ที่หาดยาว จังหวัดกระบี่

 

จุดพลุแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่บนเขาบริเวณอ่าวปอ ภูเก็ต

โครงการ “The Sheraton Phuket Grand Bay Resort and Residences”

 

เป็นโครงการแบบมิกซ์ยูส ระดับพรีเมียมแบบ Branded Residences ที่บริหารโดย Sheraton ซึ่งเป็นกลุ่มเชนโรงแรมระดับ 5 ดาว ที่มีเครือข่ายเและเป็นที่ยอมรับทั่วโลก มูลค่าโครงการกว่า 4,000 ล้านบาท  ที่มีการจัดให้เช่าโดย Sheraton แห่งแรกในประเทศไทย ตั้งอยู่บริเวณอ่าวปอ ชายฝั่งตะวันออกของจังหวัดภูเก็ต พื้นที่กว่า 66  ไร่ บนเนินเขาติดแนวชายฝั่ง 650 เมตร ซึ่งโครงการดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งชาวไทยและต่างชาติเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเป็นโครงการที่พักตากอากาศระดับมาสเตอร์พีซ บนทำเลที่ดี ท่ามกลางธรรมชาติที่มีความเป็นส่วนตัว ปัจจุบันมียอดขาย Residence ไปแล้วกว่า 70% การันตีด้วยรางวัล รางวัล Best Condo Development (Phuket) 2018 และ Best Hotel Development 2018 และอีก 3 รางวัล จาก Property Guru Thailand Property Awards 2018 นอกจากนี้ยัง ได้รับรางวัลชนะเลิศในระดับภูมิภาคเอเชีย สาขา  “Best Hotel Architectural Design (Asia)”  จาก Property Guru Asia Property Award 2018 และรางวัลชนะเลิศ “Best Resort Home Development” จากงาน The Japan International Property Awards 2018 ที่กรุงโตเกียว อีกด้วย

โดยจุดเด่นของโครงการ “The Sheraton Phuket Grand Bay Resort and Residences” สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันและเกาะน้อยใหญ่ที่สวยงามแบบพาโนรามา 360 องศา ซึ่งประกอบไปด้วยส่วนของโรงแรม Sheraton 183 ห้องพัก และส่วนเรสซิเดนซ์ แบบพูลวิลล่า จำนวน 101 ยูนิต โดยแต่ละยูนิตอยู่ในรูปแบบกรรมสิทธิ์ free-hold Condominium ที่สำคัญการเดินทางสะดวกสบาย ด้วยระยะห่างเพียง 30 นาที จากสนามบินนานาชาติภูเก็ต และยังใกล้กับท่าเรือแกรนด์มารีน่า และสนามกอล์ฟมิชชั่นฮิลล์  โดยที่ผู้ซื้อจะได้รับผลตอบแทนที่ดี จากการจัดให้เช่า Residences โดยโรงแรม Sheraton นอกจากนี้ ผู้ซื้อซึ่งเป็นเจ้าของห้องพักยังได้สิทธิการเข้าพักในพูลวิลล่า 30 วันต่อปี

ในส่วนของ Residences มีกำหนดงานก่อสร้างและตกแต่งแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปี 2562 นี้ และส่วนโรงแรม Sheraton Phuket Grand Bay Resort มีกำหนดแล้วเสร็จและเปิดให้บริการ ไตรมาสที่ 4 ปี 2563  ปัจจุบันการก่อสร้างในส่วน South Residences คืบหน้าไปแล้วกว่า 60%

 

จุดพลุแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกระบี่ที่หาดยาว

โครงการ “The Club Med Krabi Resort and Residences”

เป็นโครงการแบบมิกซ์ยูสเช่นเดียวกับ Sheraton Phuket บนเนื้อที่กว่า 108 ไร่ ติดหาดยาวประมาณ 280เมตร ห่างจากสนามบินนานาชาติกระบี่เพียงแค่ 25 นาที ประกอบด้วย ห้องพัก 300 ห้อง เรสซิเดนท์แบบพูลวิลล่าจำนวน 58 ยูนิต มีทั้งแบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน มีขนาดเริ่มต้นที่ 81 – 156 ตารางเมตร มีทั้งวิวทะเลและวิวลากูนที่สวยงามเข้าถึงความเป็นธรรมชาติและความเป็นส่วนตัว โดยแต่ละยูนิตอยู่ในรูปแบบกรรมสิทธิ์ ห้องชุด Low-Rise คอนโดมิเนียม เหมาะสมแก่การลงทุน ที่จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนของการลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาวจากค่าเช่า ซึ่งบริหารจัดการปล่อยเช่าห้องพักเรสซิเดนท์โดย Club Med  ตลอดระยะเวลา 20 ปี และผู้ซื้อยังสามารถเข้าพักฟรีได้ 15 วันต่อปี  ปัจจุบันมียอดจอง Residences ไปแล้วกว่า 60% ของยอดขายทั้งหมด กำหนดเริ่มก่อสร้าง Club Med กระบี่ในไตรมาส ที่ 2 ของปี 2562 และกำหนดแล้วเสร็จเปิดให้บริการประมาณไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 

นอกจากนี้ ทางเอเพ็กซ์ ได้ร่วมกับจังหวัดกระบี่ จัดงานแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติ Apex World Record Sailing Tournament 2019 ในช่วงวันที่ 1-3 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ หาดยาว จังหวัดกระบี่ เพื่อประชาสัมพันธ์พื้นที่บริเวณหาดยาวให้เป็นที่รู้จักและชูหาดยาวให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลกอีกแห่งหนึ่งของกระบี่   ซึ่งกิจกรรมครั้งนี้ยังได้ปักหมุดเส้นทางของทะเลกระบี่ ให้เป็นเวิลด์เรคคอร์ด และเปิดโอกาสให้เรือใบจากนานาชาติมาแข่งทำลายสถิติเวลาได้ทุกปี โดยจะมีการเผยแพร่ภาพและข่าวการแข่งขันในช่อง TV Fox Sports ไปสู่ 33 ล้านครัวเรือนทั่วเอเชีย