โรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันก่อน ปลอดภัยจากตาบอด

โรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันก่อน ปลอดภัยจากตาบอด

 

โรคทางตา ถือเป็นโรคที่ปัจจุบันคนไทยนิยมเป็นกันอย่างมาก จากผลสำรวจพบปัญหา 4 อันดับแรก คือ โรคต้อกระจก มีมากถึงร้อยละ 69.7 รองลงมา คือ โรคทางจอประสาทตา ร้อยละ 13.2 โรคต้อหินและโรคความผิดปกติทางสายตา ร้อยละ 4 ซึ่งก็เนื่องมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การเล่นโทรศัพท์ในที่มืด การใช้คอมพิวเตอร์ หรือแท็บเล็ตติดต่อกันเป็นระยะเวลานานเกินความจำเป็น จนอาการต่างๆ ทางตาตามมา 

เมื่อเอ่ยถึงโรคทางตาแล้ว ในเด็กจะพบสายตาสั้นมากที่สุด ถ้าในวัยผู้สูงอายุที่พบบ่อยก็คือ โรคจอประสาทตาเสื่อม มีสาเหตุจากจุดรับภาพตรงกลางของจอประสาทตาเสื่อม ซึ่งโรคจอประสาทตาเสื่อมเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ

พญ.พวงเพชร นาคะพงศ์  จักษุแพทย์  ศูนย์จักษุ  โรงพยาบาลหัวเฉียว กล่าวว่า โรคจอประสาทตาเสื่อม เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมของจอประสาทตาในบริเวณจุดภาพชัด (Macula) เป็นเหตุทำให้ผู้ป่วยมีสายตาเลือนรางหรือตาบอด ผู้ป่วยบางรายอาจเกิดการเสื่อมของจอประสาทตาขึ้นอย่างช้าๆ จนแทบไม่ทันสังเกตหรือไม่รู้สึกว่าผิดปกติ ในขณะที่บางรายอาจเกิดการเสื่อมของจอประสาทตาอย่างรวดเร็ว ซึ่งโรคนี้แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดแห้ง (Dry) และชนิดเปียก (Wet)

จอประสาทตาเสื่อมแบบแห้ง คือ เกิดการสลายตัวของเซลล์ไวแสง ที่จะมีการเสื่อมสลาย หรือบางลงของจุดรับภาพ ซึ่งจะเป็นการเสื่อมไปตามอายุ ความสามารถในการมองเห็นก็จะค่อยๆ ลดลงไปเรื่อยๆ

จอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก ที่พบได้ประมาณ 10-15% ของผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมทั้งหมด แต่มีปัญหาเรื่องของการเกิดความเสียหายที่รวดเร็ว และเป็นสาเหตุสำคัญหลักที่ทำให้ผู้ป่วยตาบอด ซึ่งเกิดจากมีเส้นเลือดงอกออกมาอยู่ใต้จอประสาทตาแบบผิดปกติ ทำให้จุดกลางรับภาพเกิดการบวมจึงเป็นเหตุทำให้มองภาพเห็นเป็นภาพที่บิดเบี้ยว จนภาพที่เห็นจะมืดลงและดับไปในที่สุด

สำหรับอาการของโรคจอประสาทตาเสื่อมที่อาจพบได้ คือ ในระยะแรกอาจไม่มีอาการผิดปกติหรือผู้ป่วยอาจไม่ทันได้สังเกตเห็น และจักษุแพทย์มักตรวจพบการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของจอประสาทตาได้โดยบังเอิญ เช่น จากการตรวจสุขภาพตาเพื่อวัดสายตา การตรวจสุขภาพตาประจำปี เริ่มมองเห็นภาพไม่ชัดหรือตามัวลงเล็กน้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งตรงกลางของภาพ ซึ่งผู้ป่วยอาจมองเห็นได้ไม่ชัด มองเห็นเป็นเงาดำๆ บังอยู่ตรงกลางภาพ หรือมองไม่เห็น จึงทำให้ผู้ป่วยมองภาพ อ่านหนังสือ ขับรถ จำหน้าคน หรือทำงานที่ต้องใช้ความละเอียดได้ยากกว่าปกติ มองเห็นภาพบิดเบี้ยว สายตาไม่ดีเมื่ออยู่ในที่สลัวเวลาอ่านหนังสือหรือทำงานที่ประณีต หรือต้องมองใกล้ ๆ จำเป็นต้องอาศัยแสงสว่างมากขึ้น

ถึงแม้สาเหตุของโรคนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ก็มีวิธีป้องกันโรคจอประสาทตาเสื่อม เพื่อลดความเสี่ยงหรือชะลอความรุนแรงของโรคได้ เช่น เข้ารับการตรวจสุขภาพตาเป็นประจำ งดการสูบบุหรี่ และหลีกเลี่ยงควันบุหรี่ ป้องกันรักษาหรือควบคุมโรคที่เป็นปัจจัยเสี่ยงให้ดี เน้นการรับประทานอาหารที่มีเบต้าแคโรทีน โดยเฉพาะอาหารที่มีสารลูทีน (Lutein) และซีแซนทีน (Zeaxanthin) สูง เป็นต้น

ปัจจุบัน ศูนย์จักษุ โรงพยาบาลหัวเฉียว มีทีมจักษุแพทย์เฉพาะทางมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง ให้บริการดูแลรักษาโรคและอาการที่เกี่ยวกับดวงตา ด้วยเครื่องมือทันสมัยในการตรวจวินิจฉัยและการผ่าตัดด้วยกล้อง

โรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันก่อน ปลอดภัยจากตาบอด

พญ.พวงเพชร นาคะพงศ์  จักษุแพทย์  ศูนย์จักษุ  โรงพยาบาลหัวเฉียว

โรคจอประสาทตาเสื่อม ป้องกันก่อน ปลอดภัยจากตาบอด

ภาพเปรียบเทียบการมองเห็นสำหรับสายตาปกติ กับ ผู้ที่เป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม