รพ.หัวเฉียวทุ่มงบ 500 ล้านบาทวางแผน 3-5 ปี ยกระดับรพ.เฉพาะทาง โรครักษายาก

รพ.หัวเฉียวทุ่มงบ 500 ล้านบาทวางแผน3-5 ปี ยกระดับรพ.เฉพาะทาง โรครักษายาก พร้อมชูนโยบาย รพ. เพื่อสังคม  (Social Enterprise)

โรงพยาบาลหัวเฉียวเตรียมงบประมาณ 500ล้านบาท ชูแผน 3-5 ปีจากนี้ไป ยกระดับเป็นโรงพยาบาลรักษาโรคยากโรคซับซ้อน พร้อมเปิดศูนย์อุบัติเหตุหลังเปิดให้บริการแล้ว 5ศูนย์ เผย 5ปีที่ผ่านมาลงทุนแล้ว 1,000 ล้านบาททั้งปรับปรุงด้านอาคารสถานที่ ห้องไอซียู ห้องผ่าตัด พัฒนาด้านเครื่องมือทางการแพทย์ ระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์คาดการณ์ปี 2561  มีรายได้เพิ่ม10 – 15% พร้อมเน้นย้ำความเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และเป็นโรงพยาบาลเพื่อสังคม (Social Enterprise)

นายสุธีเกตุศิริกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารโรงพยาบาลหัวเฉียวเปิดเผยว่า แผนยุทธศาสตร์จากนี้ไปอีก 3-5 ปี จะยกระดับให้โรงพยาบาลหัวเฉียวเป็นโรงพยาบาลที่รักษาโรคซับซ้อน โรครักษายาก (ระดับตติยภูมิ)ในหลากหลายสาขามากขึ้นกว่าปัจจุบัน    ที่เป็นโรงพยาบาลรักษาโรคได้ครบทุกสาขาการแพทย์อยู่แล้ว โดยได้เริ่มพัฒนามาตั้งแต่ปี2558–2560 เปิดศูนย์หัวใจและหลอดเลือด ศูนย์ผ่าตัดผ่านกล้องทางศัลยกรรมและนรีเวช ศูนย์แม่และเด็กในปี 2561–2562เปิดศูนย์โรคกระดูกและข้อ ศูนย์จักษุ และในปี 2563– 2564 มีแผนจะเปิดศูนย์อุบัติเหตุ (Trauma Center) รวมถึงการจัดซื้อเครื่องมือทางการแพทย์และการปรับปรุงอาคารสถานที่คาดว่าจะใช้งบลงทุนประมาณ 500ล้านบาท

“5ปีที่ผ่านมาโรงพยาบาลหัวเฉียวมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก ต้องบอกว่าโรงพยาบาลเอกชนมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด เราจึงต้องปรับตัวให้ทันกับโรงพยาบาลเอกชนที่ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูง โดยเฉพาะวิวัฒนาการทางการแพทย์ที่ก้าวหน้าไปมาก หากไม่มีการปรับตัวเราก็จะเสียโอกาสและเสียบุคลากรทางการแพทย์ไป”

ทั้งนี้โรงพยาบาลหัวเฉียวได้เริ่มปรับปรุงและพัฒนาในด้านต่างๆตั้งแต่ปี 2548 แต่ที่มีการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดดเริ่มตั้งแต่ปี 2557 เป็นเวลากว่า 5 ปี จนถึงปัจจุบันด้วยงบลงทุนทั้งสิ้น 1,000 ล้านบาท ทั้งการปรับปรุงพัฒนาอาคารสถานที่ปรับปรุงห้องไอซียู ห้องผ่าตัด หอผู้ป่วยใน หอผู้ป่วยนอก และภูมิสถาปัตย์การสร้างหอพักใหม่สำหรับพยาบาลและเจ้าหน้าที่ การสร้างอาคารบริการใหม่ 7 ชั้น

สั่งซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ล่าสุดได้มีการปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่ใหม่สำหรับผู้สูงอายุที่ปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มสูงมากขึ้น โดยได้เปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุชื่อ “บ้านสุขใจ” (Happy Home)

นายสุธี กล่าวอีกว่า ในปี 2561 นี้ โรงพยาบาลฯ ยังมีการพัฒนาระบบสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ ด้วยงบประมาณถึง 60ล้านบาท โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในต้นปี 2562เพื่อรองรับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น 20 %  หรือประมาณ 6แสนรายต่อปี จากเดิมที่มีเพียง 5แสนรายต่อปี

ในส่วนของจำนวนเตียงผู้ป่วย ปัจจุบันมีจำนวน 338 เตียง มีอัตราการครองเตียง 75% ซึ่งในอนาคตจะมีการเพิ่มเตียงอีกโดยคำนึงถึงคุณภาพและความพร้อมด้านบุคลากรเป็นหลัก หากมีบุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลพร้อมก็จะมีการเพิ่มจำนวนเตียง จากเดิมที่โรงพยาบาลมีแพทย์ประจำ  60 ท่าน  แพทย์ที่ปรึกษา 200 ท่าน   ปัจจุบันโรงพยาบาลมีแพทย์ประจำถึง 90ท่าน และแพทย์ที่ปรึกษาอีกประมาณ250 ท่านโดยการเพิ่มทีมแพทย์นี้จะเน้นไปที่แพทย์เฉพาะทางมากยิ่งขึ้นในส่วนพยาบาลและผู้ช่วยพยาบาล  มีประมาณกว่า 400คน

สำหรับผลประกอบการของโรงพยาบาลหัวเฉียวในปี 2560 – 2561 มีรายได้เติบโตประมาณปีละ 10 –15%โดยรายได้ดังกล่าวคิดเป็นสัดส่วนเงินสด 65% และประกันสังคม 35%

โรงพยาบาลหัวเฉียวเป็นโรงพยาบาลเอกชนในสังกัดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่มุ่งเน้นการให้บริการและนำผลกำไรกลับไปลงทุนซ้ำมีนโยบายที่เด่นชัดในการเป็นองค์กรเพื่อสังคม (Social Enterprise) โดยดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคม  6 ด้าน ได้แก่

ด้านที่ 1 โครงการช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาล มี 4 โครงการ คือ1. การช่วยเหลือค่ายาที่เป็นส่วนเกินสิทธิประกันสังคม เพื่อเพิ่มโอกาสในการรักษา 2. การสงเคราะห์ผู้ป่วยโรคทั่วไป  3. การช่วยเหลือผู้ป่วยฟอกไต และ 4. ส่วนลดสิทธิผู้ป่วยที่นอนพักในโรงพยาบาล 10 – 25 % จากค่าใช้จ่ายทั้งหมด โดยคณะกรรมการมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งให้การสนับสนุนงบประมาณปีละ 25ล้านบาท

ด้านที่ 2 โครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ณ จุดเกิดเหตุ โดยในแต่ละปีให้การช่วยเหลือ 1,000กว่าครั้ง เป็นเงินงบประมาณกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ด้านที่ 3 โครงการให้ทุนการศึกษาพยาบาล และวิชาชีพอื่นๆ โดยโครงการทุนพยาบาล เป็นความร่วมมือของ 3 สถาบัน คือ โครงการทุนต้นกล้าพยาบาล 3 สถาบันมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติและโรงพยาบาลหัวเฉียว เป็นทุนเรียนพยาบาลฟรี 4 ปี มูลค่าทุนละ 4.5 แสนบาท ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556 – 2560ให้ทุนไปแล้ว 150 ทุน เป็นเงินงบประมาณ 70 ล้านบาท ในปี 2561 ให้เพิ่มอีก 20 ทุน เป็นเงิน 9 ล้านบาท

ด้านที่ 4 โครงการให้ความรู้ มี 4 โครงการหลัก คือ 1.โครงการอบรมการปฐมพยาบาลและช่วยชีวิตแก่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ซึ่งอบรมไปแล้วกว่า 19 รุ่น จำนวน 800 กว่าคน2.โครงการอบรมการดูแลผู้สูงอายุ จัดอบรมไปแล้ว 8 รุ่น จำนวน 180 คน3. โครงการอบรมผู้ช่วยพยาบาล โดยเป็นแหล่งฝึกภาคปฏิบัติ จัดอบรมไปแล้ว 4 รุ่น จำนวน 150 คนและ 4. โครงการอบรมผู้ช่วยแพทย์ เป็นโครงการใหม่ โดยช่วยเหลือให้ผู้ที่ยังไม่มีงานทำ ได้รับการอบรมพร้อมมีอาชีพ ซึ่งจัดอบรมรุ่นแรกจำนวน 10 คน

ด้านที่ 5 โครงการดูแลด้านจิตใจ มี 2 โครงการ คือ    1. โครงการธรรมรักษา.. รักษาใจยามเจ็บป่วยเพื่อให้การดูแลช่วยเหลือผู้ป่วยและครอบครัวให้มีกำลังใจพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างสงบสุข2. โครงการธรรมโอสถ เพื่อให้บุคลากรของโรงพยาบาล ให้บริการผู้ป่วยและญาติ ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยความเมตตา มีความเอื้ออาทร   ตลอดจนหวังให้บุคลากรของโรงพยาบาล ผู้ป่วยและครอบครัว ได้เรียนรู้วิธีลดความเครียดที่เกิดจากการทำงานและการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบัน

ด้านที่ 6 โครงการหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ โดยจัดบริการให้กับประชาชนในถิ่นทุรกันดาร