ชุงเหวยใช้ LTE และ VoLTE จากอัลคาเทล-ลูเซ่นขยายบรอดแบนด์

ชุงเหวยผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตชั้นแนวหน้าในกัมพูชาได้ลงนามในสัญญากับอัลคาเทล-ลูเซ่นให้ช่วยขยายเครือข่ายบรอกแบนด์ไร้สายความเร็วสูงให้ทั่วประเทศ โดยได้เลือกใช้เทคโนโลยีแอลทีอี (LTE) และวีโอแอลทีอี (Voice over LTE หรือ VoLTE) ซึ่งจะช่วยพัฒนาการรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ของลูกค้าองค์กรที่มีจำนวนมากขึ้น และในขณะเดียวกัน เป็นการเปิดบริการใหม่ๆ ให้ลูกค้าบุคคลทั่วกัมพูชา

ในปัจจุบัน มีประชากรชาวกัมพูชาจำนวนประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเตอร์เน็ตผ่านอุปกรณ์โมบายประเภทต่างๆ มีจำนวนบัญชีสมาชิกผู้ใช้บริการโมบายเพิ่มขึ้นเป็น 24.20 ล้านคน ซึ่งเท่ากับ 157% ของจำนวนประชากร โดยหนึ่งคนมักจะมีจำนวนบัญชีการใช้อินเตอร์เน็ตมากกว่าหนึ่งบัญชี โดยปีที่แล้ว มีผู้ใช้งานเข้าใช้งานโซเชี่ยลมีเดียผ่านอุปกรณ์โมบายเพิ่มขึ้นถึง 108% ซึ่ง 80 % จากจำนวนดังกล่าวนั้นจะใช้งานแอปพลิเคชั่นเฟสบุคและยูทูบเป็นหลัก

 

เพื่อรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ของลูกค้า และให้บริการที่มีคุณภาพสูงแก่ลูกค้าทั่วกัมพูชา ชุงเหวยจึงได้ใช้บริการให้คำปรึกษาจากเบลแล็ปส์ของอัลคาเทล-ลูเซ่นในการวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดต่อบริการที่เปิดขึ้นใหม่ นอกจากนี้ เมื่อชุงเหวยใช้เทคโนโลยีวีโอแอลทีอี จะทำให้สามารถให้บริการสื่อสารด้วยเสียงที่มีคุณภาพสูงแก่ลูกค้าองค์กรที่มีอยู่ได้ทันที และยังเป็นการปูทางให้สามารถเปิดบริการใหม่ๆ ที่แตกต่างให้แก่ลูกค้าบุคคลได้อีกด้วย

 

ทั้งนี้ จะติดตั้งอุปกรณ์เครือข่ายสื่อสารใหม่ล่าสุดทั้งหมดลงบนเครือข่ายทรานสปอร์ตที่มีความสูงถึง 100 กิกาบิตต่อวินาทีที่อัลคาเทล-ลูเซ่นได้ติดตั้งก่อนหน้านี้ไว้แล้ว และจะเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายเคเบิ้ลใต้น้ำ จึงทำให้ชุงเหวยสามารถให้บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีคุณภาพสูงได้ทุกที่ที่ลูกค้า

ในสัญญาฉบับนี้ อัลคาเทล-ลูเซ่นจะจัดหาเทคโนโลยีแอลทีอีและวีโอแอลทีอีบนแพลทฟอร์มเดียวกัน โดยจะติดตั้งอุปกรณ์ LTE-FDD radio access network (RAN) พร้อมIP Mobile Core ซอฟท์แวร์Rapport™ communications software และอุปกรณ์เร้าเตอร์รุ่น 7705 Service Aggregation Router และระบบไมโครเวฟ9500 Microwave Packet Radio ลงในส่วนแบคฮอลของเครือข่าย นอกจากนี้ ยังจะติดตั้งระบบคิดค่าบริการ ซึ่งประกอบไปด้วยSurepay® อุปกรณ์บริการจัดการ Subscriber Data Manager และอุปกรณ์ควบคุม 5780 Dynamic Services Controller พร้อมบริการอื่นๆ ครบวงจร 

โดยวางแผนจะเริ่มติดตั้งเครือข่ายที่เมืองที่มีความหนาแน่นก่อน ซึ่งรวมถึง กรุงพนมเปญ และบริเวณแหล่งท่องเที่ยว อาทิ เสียมเรียบ วัดอังกอร์ สีหนุวิวรีสอร์ต ปอยเป็ต และเมืองตามชายแดนต่างๆ ที่ติดกับประเทศไทยและประเทศเวียตนาม ซึ่งต้องให้แล้วเสร็จภายในกลางปีหน้านี้

นอกจากนี้ บริการให้คำปรึกษาจากเบลแล็ปส์ของอัลคาเทล-ลูเซ่นจะเสนอแผนธุรกิจ ที่ได้จากการวิเคราะห์ทั้งด้านเทคโนโลยี และทั้งด้านการตลาดของผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต ดาต้าเซ็นเตอร์ และบริการที่เปิดขึ้นใหม่ ให้ชุงเหวยได้เห็นโอกาสในการขยายธุรกิจจากการพัฒนาเครือข่ายในครั้งนี้อีกด้วย

มร. อีริค ลี ซีอีโอแห่งชุงเหวยกล่าวว่า “เรามีวิสัยทัศน์ที่จะก้าวกระโดด ใช้เทคโนโลยีที่มีคุณภาพมากที่สุดในโลกเพื่อให้บริการสื่อสารบรอดแบนด์และเสียงในราคาย่อมเยาแก่ประชาชนชาวกัมพูชาอย่างรวดเร็ว เรามั่นใจว่าด้วยการใช้เทคโนโลยีแอลทีอีและวีโอแอลทีอีจากอัลคาเทล-ลูเซ่นในครั้งนี้ จะเป็นการพัฒนาคุณภาพบริการให้ลูกต้าและเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นอย่างแน่นอน”

 

มร. เซบาสเตียน โลฮอง ประธานแห่งภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนตะวันตกและกรรมการผู้จัดการแห่ง บริษัท อัลคาเทล-ลูเซ่น (ประเทศไทย) จำกัดกล่าวว่า “ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนตะวันตกนี้ หลายประเทศมีแนวโน้มการยกระดับเครือข่ายให้เป็นอัลตร้าบรอดแบนด์ ซึ่งเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว โครงข่ายความเร็วสูงย่อมจะมีบทบาทสำคัญในการใช้รับส่งข้อมูลที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น และการปรับเปลี่ยนเข้าสู่การใช้ชีวิตแบบดิจิตอลมากขึ้น นอกจากนี้ อัลคาเทล-ลูเซ่นมีความภูมิใจอย่างสูงที่มีส่วนช่วยสร้างเครือข่ายที่มีประสิทธิภาพสูงให้ชุงเหวยและกัมพูชาด้วยเทคโนโลยีที่หลากหลาย พร้อมความเชี่ยวชาญที่เรามีพร้อม”