ProQuest จับมือ Ex Libris

ProQuest จับมือ Ex Libris

ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นระบบอัตโนมัติสำหรับห้องสมุด



ศักยภาพเสริมที่จะกรุยทางสู่วิถีใหม่ในการช่วยให้ห้องสมุดต่างๆ ได้เติมเต็มความต้องการที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด โดยผลิตภัณฑ์ล่าสุดนี้ จะได้รับการสนับสนุนและส่งเสริม บริษัท ProQuest ผู้ให้บริการโซลูชั่นข้อมูลที่มุ่งเน้นการวิจัยทั่วโลก ได้ลงนามข้อตกลงเพื่อซื้อกิจการบริษัท Ex Libris Group ผู้ให้บริการชั้นนำระดับโลกด้านโซลูชั่นระบบอัตโนมัติสำหรับห้องสมุด โดยความสามารถต่างๆของ Proquest และ Ex Libris Group ได้แผ่ขยายความเชี่ยวชาญในด้านคอนเทนท์สื่อสิ่งพิมพ์ อิเล็กทรอนิกส์ และดิจิทัล รวมทั้งโซลูชั่นสำหรับการบริหารจัดการห้องสมุด การค้นคว้า และขั้นตอนการวิจัยงานอีกด้วย

โลโก้ - http://photos.prnewswire.com/prnh/20120620/DE27948LOGO-a

การผนวกรวมคุณสมบัติเสริมเหล่านี้เข้าด้วยกัน จะทำใ

ห้ Proquest และ Ex Libris ยกระดับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม และยังช่วยผลักดันนวัตกรรมของบริการใหม่ๆ ให้กับบรรดาห้องสมุดต่างๆเพื่อตอบสนองต่อความท้าทายที่สร้างแรงกดดันมากที่สุดได้อย่างรวดเร็ว เช่น ขั้นตอนการทำงานที่มีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงของแหล่งข้อมูลที่เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ อิเล็กทรอนิกส์ และแบบดิจิทัล และการสำรวจเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว คอนเทนท์ และสภาพแวดล้อมของผู้ใช้งาน ทั้งนี้มีการคาดการณ์ว่าการซื้อกิจการดังกล่าวจะเรียบร้อยภายในช่วงไม่กี่เดือนที่จะถึงนี้

"เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เห็น Ex Vlibris ร่วมมือกับ ProQuest และยินดีกับสถิติแห่งนวัตกรรมเพื่อห้องสมุดที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ความเชี่ยวชาญในการดำเนินการ ซึ่งถือเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จของโซลูชั่นการจัดการทรัพยากรที่มีความเป็นหนึ่งเดียวที่ชื่อว่า Alma ของบริษัท Ex Libris ที่ได้ช่วยเหลือสถาบันต่างๆ กว่าร้อยแห่งทั่วโลกในการปรับปรุงคุณค่าของห้องสมุดเพื่อผู้ใช้บริการ" นายเคิร์ท แซนฟอร์ด ซีอีโอของ ProQuest กล่าว "เมื่อเราร่วมมือกันแล้ว พวกเราจะสร้างและเนรมิตการให้บริการห้องสมุดที่ดียิ่งขึ้น และเพิ่มคุณค่าให้แก่ลูกค้าและแวดวงต่างๆในวงกว้างขึ้น"

การที่ Proquest ได้ซื้อกิจการ Exlibris นั้น ช่วยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของเราต่อชุมชนห้องสมุดโลก อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาความสามารถในการดำเนินการด้านโรดแม็ปผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ต่างๆ " นายแมตตี เชม-ทอฟ ซีอีโอของ Ex Libris กล่าว "การผนวกรวมกันของพรสวรรค์และความเชี่ยวชาญของ ProQuest และ Ex Libris จะนำไปสู่การพัฒนาและการสนับสนุนโซลูชั่นชั้นนำของเราให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งจะเป็นการผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่ผลิตภัณฑ์ชุดปัจจุบัน และบรรดาผลิตภัณฑ์ใหม่ เราจะเสาะแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อส่งต่อสิ่งที่ดีที่สุดของทั้งสองบริษัทเท่าที่จะสามารถจัดหาให้ได้ผ่านการเพิ่มเติมคุณสมบัติที่สำคัญในเรื่องการบริหารจัดการทรัพยากร ฐานความรู้ และบริการด้านการค้รหา เพื่อยกระดับผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่เดิม"

"การผนวกรวมของบริษัทเรา จะช่วยให้เราสร้างโอกาสและทางเลือกให้แก่บรรดาหห้องสมุดต่างๆได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มลูกค้าเดิมของเรา" นาย โอเรน เบท-แอรี, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายยุทธศาสตร์ของ Ex Libris กล่าว "ทั้ง ProQuest และ Ex Libris มีความผูกพันที่แน่นแฟ้นกับชุมชนห้องสมุดทั่วโลก และได้รับประโยชน์จากกลุ่มลูกค้าและผู้ใช้ที่มีความกระตือรือร้น ให้ความร่วมมือ และคิดการณ์ไกล เรามุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับชุมชนผู้ใช้ของเรา เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและให้คำแนะนำในขณะเดียวกันเราก็เดินหน้าพัฒนาโซลูชั่นที่มีอยู่และคิดค้นโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อสานต่อธรรมเนียมแห่งความร่วมมือกันของเรา"

ทั้งสองบริษัทจะสานต่อความมุ่งมั่นที่มีมาอย่างยาวนาน เพื่อเปิดกว้างและประสานกับหน่วยงานต่างๆในวงการ ได้แก่ OCLC, Google, Gale Cengage, HARRASSOWITZ และ YBP/EBSCO เพื่อผลประโยชน์แก่ลูกค้า

ภายหลังจากที่ปิดตัวลง ProQuest และ Ex Libris จะจัดตั้งหน่วยธุรกิจพิเศษชื่อว่า Ex Libris, a ProQuest Company โดยมี นายเชม-ทอฟ เป็นผู้บริหาร ซึ่งจะยังได้รับการสนับสนุนจากทีมผู้บริหารของ Ex Libris และทีมผู้บริหารโซลูชั่นขั้นตอนการทำงานของ ProQuest โดยทั้ง ProQuest และ Ex Libris จะยังคงเดินหน้าเพื่อสนับสนุนชุดผลิตภัณฑ์ที่มากมายที่บรรดาลูกค้าต้องการพึ่งพา อีกทั้งจะยกระดับผลิตภัณฑ์ต่างๆของบริษัท อาทิ Alma, Aleph, bX, Intota, Primo, Rosetta, SFX, SIPX, Summon, 360 Link, Voyager และโซลูชั่นที่ได้เปิดตัวไปเมื่อเร็วๆนี้ เช่น Leganto หรือโซลูชั่นรายการที่ต้องอ่าน และ campusM โซลูชั่นไร้สายสำหรับวิทยาเขต

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ ProQuest และ Ex Libris ว่า จะดีขึ้นเมื่อรวมกิจการกันได้อย่างไรได้ที่ http://bit.ly/ProQuestOct6