มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ

มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ

 

กองทุนหมู่บ้านฯ สานพลังจัดงาน “มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ” ช่วยเศรษฐกิจฐานรากได้ผลตามเป้า เผย ๓ ปี ยกระดับชุมชนกว่า ๗๐,๐๐๐ กองทุน ผ่าน ๒๐๐,๐๐๐ โครงการ เกิดการจ้างงานกว่า ๑.๖ ล้านคน

วันที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๖๑ นายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) เป็นประธานในงาน “มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง จัดโดยสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ พร้อมระบุ ๓ ปีที่ผ่านมา (๒๕๕๙-๒๕๖๑) กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ และยกระดับคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ในหมู่บ้านและชุมชนเมืองกว่า ๗๐,๐๐๐ กองทุน ผ่านการดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐ กว่า ๒๐๐,๐๐๐ โครงการ โดยเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนในการทำประชาคมโดยประชาชน เพื่อประชาชน ผ่านกลไกของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั่วประเทศ โดยมีผู้แทนกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากทุกจังหวัดทั่วประเทศมาร่วมงานประมาณ ๒๐,๐๐๐ คน ณ อาคารชาเลนเจอร์ ๒ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี

ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ระบุว่า รัฐบาลเล็งเห็นความสำคัญของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ในการขับเคลื่อนโครงการต่างๆ เพื่อแก้ปัญหาความยากจน รวมทั้งยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลมีความเชื่อมั่น และไว้วางใจในกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองซึ่งมีอยู่ ทั่วประเทศว่าจะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก โดยลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสในการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้เป็นอย่างดี รัฐบาลจึงได้สนับสนุนงบประมาณให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ทั้ง ๗๙,๕๙๕ กองทุน ให้ดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐ ใน ๓ ปีต่อเนื่อง คือ ๑. โครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ ในปี ๒๕๕๙ วงเงิน ๓๕,๐๐๐ ล้านบาท ๒.โครงการเพิ่มศักยภาพหมู่บ้านและชุมชนเพื่อความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ในปี ๒๕๖๐ วงเงิน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท และ ๓.โครงการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืนโดยศาสตร์พระราชา ตามแนวทางประชารัฐ ในปี ๒๕๖๑ วงเงิน ๒๐,๐๐๐ ล้านบาท

“ตลอดระยะเวลาเกือบ ๓ ปี กองทุนหมู่บ้านและชุมเมือง กว่า ๗๐,๐๐๐ กองทุน ได้จัดทำและดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐดังกล่าว กว่า ๒๐๐,๐๐๐ โครงการ ก่อให้เกิดประโยชน์หลายมิติ เช่น ทำให้เกิดร้านค้าชุมชนไม่น้อยกว่า ๒๕,๐๐๐ ร้านค้าทั่วประเทศ โครงการน้ำดื่มชุมชนไม่น้อยกว่า ๑๐,๐๐๐ โครงการ โครงการส่งเสริมการเกษตรไม่น้อยกว่า ๕๖,๐๐๐ โครงการ โครงการบริการเพื่ออุปโภค-บริโภค ไม่น้อยกว่า ๔๕,๐๐๐ โครงการ โครงการผลิตภัณฑ์ประชารัฐไม่น้อยกว่า ๓๗,๐๐๐ โครงการ และโครงการตลาดประชารัฐไม่น้อยกว่า ๒,๙๐๐ โครงการ นอกจากนี้ การดำเนินโครงการประชารัฐยังก่อให้เกิดการจ้างงานประชาชนในหมู่บ้านและชุมชน กว่า ๑.๖ ล้านคน ทำให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีรายได้รวม ๓ ปี      ไม่น้อยกว่า ๓๙,๐๐๐ ล้านบาท ได้รับผลกำไรกว่า ๘,๕๐๐ ล้านบาท ประการสำคัญก็คือ การทำให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองมีโอกาสฟื้นฟูกลับมาเป็นกองทุนที่เข้มแข็ง ตามนโยบายของรัฐบาที่จะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังอีกกว่า ๕,๐๐๐ กองทุน

และเพื่อประกาศความสำเร็จที่จะนำไปสู่การถอดบทเรียนเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างความพร้อมเพื่อการพัฒนาต่อยอดการดำเนินโครงการตามแนวทางประชารัฐที่ดำเนินการโดยกลไกของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง และเป็นการให้กำลังใจแก่คณะกรรมการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง   ที่มุ่งมั่น ตั้งใจดำเนินโครงการจนประสบผลสำเร็จ รวมทั้งการขอบคุณรัฐบาลที่ให้ความเชื่อมั่น และไว้วางใจในความมุ่งมั่น ตั้งใจ และศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทั้งประเทศ คณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ โดยคณะอนุกรรมการบริหารโครงการ จึงมีมติเห็นชอบให้มอบรางวัลโครงการประชารัฐตัวอย่างให้แก่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในทุกจังหวัด ที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะทำงานในแต่ละจังหวัด แบ่งเป็นรางวัลในภาพรวมของแต่ละจังหวัด ๒๓๑ รางวัล และรางวัลตามยุทธศาสตร์ ๒๐ ปีของประเทศ ใน ๖ ด้าน ในแต่ละจังหวัด ได้แก่ ๑.การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน สร้างความสุขและความมั่นคง ๒.การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการพัฒนา ๓.การพัฒนาและเสริมสร้างทรัพยากรมนุษย์ ๔.การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และลดความเหลื่อมล้ำ ๕.การพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และ ๖.การบูรณาการกิจกรรมการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน จำนวนทั้งสิ้น ๑,๓๘๖ รางวัล รวมทั้งสิ้น ๑,๖๑๗ รางวัล โดยหวังว่าจะมีการพัฒนาต่อยอดเพื่อสร้างคุณค่า และมูลค่าของโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เป็นสินทรัพย์ของแผ่นดิน ที่จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต

ด้านนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ กล่าวว่า ภายใต้การดำเนินโครงการของกองทุน ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย ร่วมสนับสนุนตามแนวทางประชารัฐให้โครงการเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น เช่น กระทรวงพาณิชย์ สนับสนุนการพัฒนาร้านค้าประชารัฐ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สนับสนุนองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีเพื่อยกระดับ คุณภาพโครงการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ให้การรับรองคุณภาพ และคุณธรรมของโครงการด้วยการมอบตราสัญลักษณ์คุ้มครองผู้บริโภคให้โครงการที่ผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการ และมหาวิทยาลัยราชภัฏทั่วประเทศ ร่วมติดตามประเมินผล และสนับสนุนการพัฒนาต่อยอดโครงการ เป็นต้น

สำหรับกิจกรรมในวันนี้ (๑๐ ม.ค. ๖๒) นอกจากมีการมอบรางวัลให้กับโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ตามแนวทางประชารัฐซึ่งได้มีการคัดเลือกจากแต่ละจังหวัดแล้วยังมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบนิทรรศการของโครงการตัวอย่างที่คัดเลือกมาจากแต่ละจังหวัด และการนำเสนอแนวทางการดำเนินงานของหน่วยภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อเผยแพร่ผลการดำเนินงานสำหรับเป็นบทเรียนแห่งการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการดำเนินงานในระยะต่อไป โดย ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) นอกจากได้มอบรางวัล และมอบนโยบายในการขับเคลื่อนงานต่อไปแล้ว ยังเปิดปฏิบัติการ การพัฒนาต่อยอดโครงการของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองตามแนวทางประชารัฐเพื่อให้โครงการได้ดำเนินการต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลตาม “วิถีประชารัฐ เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน” และในช่วงบ่ายได้เปิดโอกาสให้มีการลงทะเบียนเป็นอาสาพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองจากสมาชิกกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองที่เข้าร่วมกิจกรรม กว่า ๑๘,๐๐๐ คน ทั้งนี้ เพื่อจะได้ให้ อาสาพัฒนาได้ช่วยประสานงานและสนับสนุนการต่อยอดโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและ ชุมชนเมือง เพื่อการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชนในแต่ละพื้นที่ให้สัมฤทธิ์ผลยิ่งขึ้นต่อไป

มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ

มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ

มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ

มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ

มหกรรมแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐ