Alliance to End Plastic Waste เร่งแก้ขยะพลาสติก

Alliance to End Plastic Waste เร่งแก้ขยะพลาสติก

กลุ่มพันธมิตร Alliance to End Plastic Waste ทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์เร่งแก้ปัญหาขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าลงทุนให้ได้ 1.5 พันล้านดอลลาร์

กลุ่มพันธมิตรซึ่งประกอบด้วยบริษัทระดับโลกในห่วงโซ่คุณค่าวงการพลาสติกและสินค้าอุปโภคบริโภค ได้ประกาศเปิดตัวองค์กรใหม่ในวันนี้ เพื่อมุ่งยกระดับโซลูชันการลดขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะทางทะเล
องค์กรใหม่ที่ว่านี้มีชื่อว่า Alliance to End Plastic Waste (AEPW) ซึ่งขณะนี้มีบริษัทเกือบ 30 แห่งร่วมเป็นสมาชิก โดยได้ร่วมสนับสนุนเงินทุนแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ทั้งยังตั้งเป้าหมายการลงทุนรวมกัน 1.5 พันล้านดอลลาร์ตลอดช่วง 5 ปีข้างหน้าด้วย เพื่อช่วยลดขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ทางกลุ่มพันธมิตรจะพัฒนาและสร้างสรรค์โซลูชันใหม่ ๆ ที่ช่วยลดและจัดการปัญหาขยะพลาสติก พร้อมนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนไปสนับสนุนแนวทางการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับพลาสติกใช้แล้วด้วย สำหรับสมาชิกของกลุ่มพันธมิตรประกอบด้วยบริษัทระดับโลกซึ่งดำเนินธุรกิจอยู่ในอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ ยุโรป เอเชีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกา และตะวันออกกลาง

"ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ขยะพลาสติกไม่ควรอยู่ในทะเลหรือสิ่งแวดล้อมอื่น ๆ ตามธรรมชาติ ปัญหานี้ถือเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนและร้ายแรง ซึ่งจำเป็นต้องมีการจัดการอย่างรวดเร็วและต้องอาศัยผู้นำที่แข็งแกร่ง และ AEPW ถือเป็นหน่วยงานที่มีความตั้งใจจริงในการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม" คุณเดวิด เทย์เลอร์ ประธานกรรมการ ประธานบริหาร และซีอีโอของ Procter & Gamble ผู้เป็นประธานของ AEPW กล่าว "ผมจึงอยากให้ทุกบริษัท ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ ในทุกภูมิภาคและทุกภาคส่วน ให้มาร่วมมือกับเรา"

"ประวัติศาสตร์ได้สอนให้เรารู้ว่า ความร่วมมือและการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างภาคอุตสาหกรรม หน่วยงานรัฐ และองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร สามารถสร้างโซลูชันสุดสร้างสรรค์ที่ช่วยรับมือกับความท้าทายในระดับโลกเช่นนี้ได้" คุณบ็อบ พาเทล ซีอีโอของ LyondellBasell และรองประธาน AEPW กล่าว "ปัญหาขยะพลาสติกเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกต่างตระหนักดี ซึ่งเราต้องช่วยกันแก้ไขปัญหา และผมเชื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนควรร่วมมือกัน"

กลุ่มพันธมิตร AEPW เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ประกอบด้วยบริษัทผู้ผลิต ใช้ จำหน่าย แปรรูป สะสม และรีไซเคิลพลาสติก ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตพลาสติกและเคมีภัณฑ์ บริษัทผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ผู้ค้าปลีก ผู้แปรรูป และบริษัทด้านการจัดการขยะ หรือที่เรียกรวมกันว่าเป็นกลุ่มห่วงโซ่มูลค่าพลาสติก โดยกลุ่มพันธมิตรได้ร่วมมือกับ World Business Council for Sustainable Development ในฐานะพันธมิตรผู้ก่อตั้งทางกลยุทธ์ และในวันนี้ AEPW ยังได้ประกาศโครงการริเริ่มและความร่วมมือระยะเริ่มต้น ที่แสดงให้เห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาที่จะช่วยขจัดขยะพลาสติก ดังนี้:

- จับมือเป็นพันธมิตรกับเมืองต่าง ๆ เพื่อออกแบบระบบการจัดการขยะแบบบูรณาการในเมืองใหญ่ ๆ ที่ขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะบริเวณเลียบแม่น้ำ ซึ่งพัดพาขยะพลาสติกที่ไม่ได้รับการจัดการอย่างถูกต้องจากพื้นดินลงสู่ทะเล ความร่วมมือในครั้งนี้รวมถึงการร่วมงานกับรัฐบาลท้องถิ่นและบรรดาผู้ถือผลประโยชน์ร่วม และสร้างแบบจำลองที่มีความยั่งยืนทางเศรษฐกิจและทำซ้ำได้ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในเมืองและภูมิภาคต่าง ๆ โดย AEPW จะเดินหน้าจับมือเป็นพันธมิตรกับเมืองต่าง ๆ ที่มีปัญหาพลาสติกรั่วไหลสูง พร้อมวางแผนร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่มีการดำเนินงานกับเมืองต่าง ๆ อยู่แล้ว อาทิ โครงการ Project STOP ในอินโดนีเซีย
- ระดมทุนสนับสนุนโครงการ The Incubator Network by Circulate Capital เพื่อพัฒนาและสนับสนุนเทคโนโลยี แบบจำลองทางธุรกิจ และผู้ประกอบการ เพื่อช่วยป้องกันปัญหาขยะพลาสติกรั่วไหลลงสู่ทะเล พร้อมยกระดับระบบการจัดการขยะและการรีไซเคิล โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อจัดตั้งโครงการต่าง ๆ ที่จะสนับสนุนการลงทุนต่อไป ซึ่งในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นการพัฒนาไปที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
- พัฒนาโครงการสารสนเทศระดับโลกที่ใช้ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์แบบโอเพนซอร์ซ เพื่อสนับสนุนโครงการด้านการบริหารจัดการขยะทั่วโลก ด้วยการรวบรวมข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงตัววัด มาตรฐาน และระเบียบวิจัย ที่ช่วยให้รัฐบาล บริษัท และนักลงทุนสามารถศึกษาและเร่งดำเนินการหาแนวทางลดปัญหาขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อม โดยกลุ่มพันธมิตรจะมุ่งหาโอกาสในการจับมือกับบรรดาสถาบันวิชาการชั้นนำ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลในลักษณะคล้าย ๆ กันอยู่แล้ว
- จัดตั้งโครงการความร่วมมือด้านการเสริมสร้างศักยภาพ ร่วมกับองค์การระหว่างรัฐบาล เช่น องค์การสหประชาชาติ (UN) ในการจัดเวิร์คช็อปและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รัฐและผู้นำชุมชน เพื่อเฟ้นหาและพัฒนาแนวทางแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพและตรงตามแต่ละพื้นที่มากที่สุดในพื้นที่ที่ต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด
- สนับสนุนโครงการ Renew Oceans เพื่อให้ความช่วยเหลือในการลงทุนและสร้างปฏิสัมพันธ์ในพื้นที่ โครงการดังกล่าวออกแบบมาเพื่อกักขยะพลาสติกในแม่น้ำใหญ่ 10 แห่งก่อนที่ขยะจะออกสู่ทะเล ซึ่งแม่น้ำเหล่านี้ล้วนเป็นแม่น้ำสายหลัก ๆ ที่พาขยะจำนวนมหาศาลจากบนบกไหลลงสู่ทะเล โดยการทำงานในระยะเริ่มต้นนั้นจะเป็นการช่วยสนับสนุนโครงการ Renew Ganga ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก National Geographic Society ด้วยเช่นกัน

อีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ ทางกลุ่มพันธมิตรจะเพิ่มการลงทุน และขับเคลื่อนความคืบหน้าในขอบข่ายหลัก 4 ประการด้วยกัน ดังนี้:

- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อเก็บรวบรวมและจัดการขยะ พร้อมส่งเสริมการรีไซเคิล
- สร้างสรรค์นวัตกรรมพัฒนาและยกระดับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้รีไซเคิลและฟื้นฟูพลาสติกได้ง่ายขึ้น และช่วยสร้างมูลค่าจากพลาสติกที่ใช้งานแล้ว
- ให้ความรู้และกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาล ภาคธุรกิจ และชุมชน เพื่อสร้างแรงขับเคลื่อน และ
- ทำความสะอาดพื้นที่ที่เดิมทีมีขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว โดยเฉพาะแหล่งขยะขนาดใหญ่อย่างแม่น้ำที่นำขยะพลาสติกไหลลงสู่ทะเล

คุณอองตวน เฟรอโรต์ ซีอีโอของ Veolia ซึ่งเป็นรองประธานของ AEPW กล่าวว่า "ความสำเร็จจะต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจและการประสานงานจากหลายภาคส่วน บ้างก็นำมาซึ่งความคืบหน้าในอนาคตอันใกล้ บ้างก็อาศัยการลงทุนขนาดใหญ่และต้องใช้เวลานานกว่า การแก้ปัญหาขยะพลาสติกในสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจพลาสติกหมุนเวียน จะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกคนตลอดห่วงโซ่คุณค่า และต้องอาศัยความร่วมมือระยะยาวจากภาคธุรกิจ รัฐบาล และชุมชน เพราะไม่มีประเทศ บริษัท หรือชุมชนใด ที่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้โดยลำพัง"

งานวิจัยจาก Ocean Conservancy แสดงให้เห็นว่า ขยะพลาสติกในมหาสมุทรเกือบ 80% มีจุดกำเนิดมาจากกองขยะบนบก ซึ่งส่วนหนึ่งไหลลงสู่ทะเลผ่านแม่น้ำ แท้จริงแล้ว งานวิจัยชิ้นหนึ่งคาดคะเนว่า พลาสติกในทะเลที่มีต้นตอจากแม่น้ำกว่า 90% มาจากแม่น้ำใหญ่ 10 สายจากทั่วโลก โดยมีแม่น้ำ 8 สายอยู่ในเอเชีย และ 2 สายในแอฟริกา มากไปกว่านั้น ขยะพลาสติกในทะเลราว 60% มาจาก 5 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

คุณปีเตอร์ แบคเคอร์ ประธานและซีอีโอของ World Business Council for Sustainable Development กล่าวว่า "ในขณะที่ความพยายามของเราจะครอบคลุมไปทั่วโลก แต่กลุ่มพันธมิตรจะเข้ามาสร้างอิทธิพลได้มากที่สุด หากเน้นแก้ปัญหาในพื้นที่บางแห่งของโลกที่กำลังเผชิญกับความท้าทายที่หนักหน่วงที่สุด พร้อมแบ่งปันวิธีแก้ปัญหาและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด เพื่อให้ความพยายามมีผลยิ่งขึ้นและส่งผลไปยังทั่วโลก"

บริษัทที่เป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งกลุ่มพันธมิตร ได้แก่ BASF, Berry Global, Braskem, Chevron Phillips Chemical Company LLC, Clariant, Covestro, Dow, DSM, ExxonMobil, Formosa Plastics Corporation USA, Henkel, LyondellBasell, Mitsubishi Chemical Holdings, Mitsui Chemicals, NOVA Chemicals, OxyChem, PolyOne, Procter & Gamble, Reliance Industries, SABIC, Sasol, SUEZ, Shell, SCG Chemicals, Sumitomo Chemical, Total, Veolia และ Versalis (Eni)

รับชมการถ่ายทอดสดทั่วโลกผ่านระบบอินเทอร์เน็ตที่ www.endplasticwaste.org/live การถ่ายทอดสดจะเริ่มในวันที่ 16 ม.ค. เวลา 14.00 น. (GMT) โดยมีความยาวประมาณ 30 นาที