หลากสีสันเสน่ห์แห่งลอนดอน

หลากสีสันเสน่ห์แห่งลอนดอน

สถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ทั้งโบสถ์เก่า พระราชวัง สถาปัตยกรรมอาคารเก่าแก่ และสิ่งใหม่ๆที่ถูกสร้างขึ้นให้งดงาม



เสน่ห์ที่ทำให้หลงรักอังกฤษและลอนดอนก็คือธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์น่าตื่นตาตื่นใจมากมาย ทั้งโบสถ์เก่า พระราชวัง สถาปัตยกรรมอาคารเก่าแก่ และสิ่งใหม่ๆที่ถูกสร้างขึ้นให้งดงามเคียงคู่เมืองหลวงแห่งนี้

#Thai #ThaiAirways #การบินไทย #สบายต่างกัน #เที่ยวลอนดอนกับการบินไทยสบายต่างกัน#Travelistaพาเที่ยวลอนดอน 

มาลอนดอนพลาดไม่ได้กับบริติช มิวเซียม ถือเป็น Collection of the World ก็คงไม่ผิด เพราะมีของเก่าแก่ที่ได้มาจากทุกมุมโลก ด้วยอำนาจของสมัยยุคล่าอาณานิคม หลายสิ่งเห็นแล้ว ต้องคิดในใจว่า “ขนย้ายมาได้อย่างไร?” เพราะของบางอย่างมีน้ำหนักหลายตัน และต้องคิดอีกว่า“แล้วพื้นที่ดั้งเดิม จะเหลืออะไรให้ดู?” โดยเฉพาะที่ต้องมาดูให้ได้คือ มัมมี่ อิยิปต์ และวิหาร Parthenon แห่ง กรีก โบราณ ยกมาได้ทั้งต้นหนักหลายตัน ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของมนุษย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นั่งรถเมล์ไปพิพิธภัณฑ์วิกตอเรียแอนด์อัลเบิร์ต เป็นอีกพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก เก็บรวบรวมวัตถุสิ่งของกว่า 4.5 ล้านชิ้นและแกลเลอรี่ 145 แห่ง ภายในพื้นที่ 32 ไร่ คอลเล็กชันของพิพิธภัณฑ์นี้ครอบคลุมประวัติศาสตร์ 5,000 ปีและนำเสนอสิ่งของจากหลายทวีป
พิพิธภัณฑ์ที่ไม่ธรรมดาแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1852 และย้ายมายังที่ตั้งปัจจุบันตั้งแต่ 1857

แต่เดิมเคยมีชื่อว่า Museum of Manufactures จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็น South Kensington Museum จนกระทั่งในปี 1899 สมเด็จพระนางเจ้าวิกตอเรียได้วางหินรากฐานของอาคารใหม่ของพิพิธภัณฑ์ และพิพิธภัณฑ์นี้จึงเปลี่ยนชื่อเพื่อเป็นเกียรติแก่พระนาง ใช้เวลาสักครู่เพื่อชมด้านหน้าอาคารสไตล์วิกตอเรียจากด้านนอก

พิพิธภัณฑ์นี้ได้ชื่อว่ามีประติมากรรมแนวหลังยุคคลาสสิกมากที่สุดในโลก ชมคอลเล็กชันอิตาเลียนเรอเนซองส์ซึ่งเป็นหนึ่งใน คอลเล็กชันประเภทนี้ครอบคลุมที่สุดนอกอิตาลี

มีการจัดแสดงเอเชียหลายโซน ชมการจัดแสดงที่เน้นไปที่ประเทศญี่ปุ่น เห็นทั้งเสื้อเกราะ ชุด งานไม้ และภาพวาด ส่วนแฟชั่นนำเสนอเครื่องแต่งกายที่มีสไตล์ในช่วง 4 ศตวรรษ ตื่นตาตื่นใจกับชุดราตรีจากยุค 1600 และเรียนรู้เกี่ยวกับแฟชั่นสมัยหลังสงครามในทศวรรษที่ 1960

ตอนนี้เขาไปเปิดในเมืองไทยแล้ว แต่ก็ยังอยากมาทานอยู่ดี ร้านอาหารยอดฮิตที่เขาว่ากันว่าต้องไปทานให้ได้ซักครั้งเมื่อไปเยือนกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ นั่นก็คือ Burger & Lobster เป็นร้านอาหารที่มีคอนเซ็ปต์คือ มีเมนูอาหารแค่ไม่กี่เมนูได้แก่ เบอร์เกอร์เนื้อที่เลือกใช้เนื้อวัวจากรัฐเนบราสก้า ล็อบสเตอร์ตัวโตที่สดมากๆส่งตรงจากชาวประมงที่แคนาดาที่มีให้เลือกแบบนึ่งและแบบย่างทานคู่กับซอสเลม่อนบัตเตอร์ และล็อบสเตอร์โรลที่ทางร้านใช้แป้งขนมปังบริออสเนื้อกรอบนอกนุ่มในมาแบ่งครึ่งและอัดเนื้อล็อบสเตอร์เข้าไปจนเต็ม ทุกเมนูทานคู่กับเฟรนช์ฟรายส์และสลัดบัลซามิก

Burger & Lobster มีสาขาในกรุงลอนดอนทั้งหมด 6 สาขา สาขาที่วันนี้มาทานคือที่ โซโห ซึ่งเป็นสาขาที่ใหญ่และคนแน่นที่สุด ร้านเปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงตรงจนถึงประมาณ 4 ทุ่ม ต้องไปรอก่อนร้านเปิดไม่เช่นนั้นจะคิวยาวมาก

มาเที่ยวลอนดอน ต้องมาชมพิธีเปลี่ยนเวรยามของทหารรักษาพระองค์ที่เริ่มต้นเวลา 11.30 น. ซึ่งไม่ได้มีทุกวัน แต่จะมีบางวัน ที่ี่พระราชวังบักกิงแฮม ซึ่งอยู่ที่เวสต์มินสเตอร์ สามารถนั่งรถโดยสารประจำทางจากลอนดอน และสถานีรถใต้ดินที่ใกล้ที่สุดคือเซนต์เจมส์พาร์ก

เดินเล่นริมแม่น้ำเทมส์ ชมชิงช้าสวรรค์ยักษ์ หรือลอนดอน อาย ที่มีความสูงกว่า 135 เมตร เป็นชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ละบอลลูนนั้นก็สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 10 คน ชมทัศนียภาพของเมืองลอนดอนในมุมสูง ยิ่งในช่วงค่ำคืนจะมีบรรยากาศที่โรแมนติกมาก

ใกล้ๆคือหอนาฬิกาบิ๊กเบน เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์คของลอนดอนเลยก็ว่าได้ หอนาฬิกาบิ๊กเบนนั้น ไม่ได้หมายถึงแต่ตัวหอคอยเท่านั้น แต่ยังหมายถึง ระฆังขนาดยักษ์ หนักราว 16 ตัน ที่อยู่บนยอดหอคอยด้วย ระฆังนี้สร้างเพื่อเป็นเกียรติยศแก่เบนจามิน ฮอลล์ (Benjamin Hall) บารอนแห่งลาโนเวอร์ หอนาฬิกาบิกเบนเป็นหอคอยที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของโลก