หงส์นคร’บุกอสังหาฯลักชัวรี

หงส์นคร’บุกอสังหาฯลักชัวรี

หงส์นคร’บุกอสังหาฯลักชัวรี ปั้นเมกะโปรเจค‘หมื่นล้าน’สุวรรณภูมิ

อสังหาริมทรัพย์ระดับลักชัวรีเป็นตลาดศักยภาพ!! ของบรรดานักลงทุนที่มั่นใจว่ายัง “ซื้อง่าย_ขายคล่อง” หากสามารถสร้างโปรดักท์ได้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ต้องการคุณภาพของการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต หรือ Quality Living!! เป็นโรดแมพของดีเวลอปเปอร์น้องใหม่ "หงส์นคร พร็อพเพอร์ตี้" ภายใต้การกุมบังเหียนของคนรุ่นใหม่วัย 29 "พิรกร ทองใบใหญ่" ที่ท้าทายตัวเองและคู่แข่งไม่น้อยกับการขยายอาณาจักรคอนโดมิเนียมลักชัวรี La Citta บนโลเคชั่นแพงระยับใจกลางทองหล่อ ทั้งเตรียมปักธง “เมกะโปรเจคแห่งอนาคต" มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาทย่านทำเลทองสุวรรณภูมิ

พิรกร ทองใบใหญ่ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หงส์นคร พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมียม กล่าวว่า การพัฒนาอสังหาฯ สำคัญที่สุดและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันคือ “ทำเล” เป็นส่วนหนึ่งของการเลือกและมองหาที่ดินย่านทองหล่อเป็นทำเลยุทธศาสตร์ของหงส์นครฯ สร้างชื่อในฐานะน้องใหม่พร้อมสะท้อนภาพลักษณ์แบรนด์พรีเมียม!!
จากวันที่เดินเข้าไปกดกริ่งซื้อที่ดินแปลงงามผืนแรกกลางทองหล่อเมื่อ 2 ปีก่อนส่งโครงการลักชัวรีโลว์ไรซ์ La Citta Penthouse ทองหล่อ 8 เจาะลูกค้าระดับบนที่มองหาบ้านหลังที่ 2 ใจกลางเมือง ทำสถิติปิดโปรเจคภายในไม่กี่เดือน

คอนเซ็ปต์แรกของการทำลักชัวรีโลว์ไรซ์ที่เป็นเสมือน “บ้านใจกลางเมือง” มุ่งสาระสำคัญที่ Livable space หมายความว่าพื้นที่น่าอยู่ เพียงต่อการใช้สอยไม่ว่าจะห้องนอน ห้องนั่งเล่น โซนทำกับข้าว ทานอาหาร พื้นที่ห้องต้องใหญ่กว่าโครงการปกติทั่วไป โดยนำ “Quality Living" เป็นตัวตั้ง ซึ่งห้องไม่เน้นกว้างอย่างเดียว แต่ต้องได้สัดส่วน...อยู่สบายเหมือนบ้าน คือความต่างจากคู่แข่ง ยกตัวอย่าง พื้นที่ 1 ห้องนอนเริ่ม 74 ตร.ม. ใหญ่กว่าคอนโดทั่วไป 1 เท่า ขณะที่ราคาห้องสูงกว่า 2 เท่า

สิ่งเหล่านี้สอดรับพฤติกรรมการเลือกซื้อที่อยู่อาศัยของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ให้ความสำคัญกับความลงตัวและความครบวงจรของที่พักอาศัยมากขึ้น ตั้งแต่ ทำเลที่ตั้งใกล้สิ่งอำนวยความสะดวก วัสดุที่ใช้ก่อสร้างและตกแต่งมีคุณภาพ แข็งแรง คงทน ดีไซน์ทันสมัย ราคาคุ้มค่า ขาดไม่ได้ในยุคนี้คือการอยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อม

“โครงการลักษณะนี้มีตลาดรองรับและเป็นตลาดที่คนพร้อมจะหา แต่ดีเวลอปเปอร์ใหญ่ๆ มองข้ามไป เหมือนเรือหาปลาลำใหญ่ต้องการจับปลาหมู่มาก ของดีๆ ที่มีน้อยๆ อาจไม่สน เลยไม่มีโปรดักท์เข้ามาในตลาด เราจึงนำประสบการณ์ที่มีมาพัฒนาพื้นที่ใหม่”

ล่าสุดปั้นโปรเจคคอนโดมิเนียมโลว์ไรซ์ La Citta Delre ทองหล่อ 16 มูลค่า 2,500 ล้านบาท บนทีี่ดิน 1.2 ไร่ จำนวน 51 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 2.5-2.8 แสนบาทต่อตร.ม. 1-4 ห้องนอน ขนาด 74-380 ตร.ม.คาดแล้วเสร็จไตรมาสแรกปี 2563

โครงการ La Citta Delre ออกแบบอาคารโดยบริษัทสถาปนิก 49 หรือ A49 ดีไซน์แบบ Adjustable Function ประกอบด้วย 2 อาคาร รองรับครอบครัวใหญ่ และเล็ก ที่จอดรถ 200%
"การเลือกโลเคชั่นสำหรับคอนโดโลว์ไรซ์ระดับลักชัวรีสำคัญมาก เพราะจะสะท้อนความเป็นโปรดักท์พรีเมียม และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งระดับเดียวกันอย่างชัดเจน"
พิรกร ขยายความต่อว่า ทำเลที่ใช่!! สำหรับคอนโดโลว์ไรซ์พรีเมียมของหงส์นครฯ เริ่มจาก In-location ดีที่สุด คือ Walkable location สามารถเดินได้ ส่วนตัวนับตั้งแต่ทองหล่อ ซอย 4-18

นี่คือทองหล่อ!! เพราะไลฟ์สไตล์ ศูนย์กลางใช้ชีวิตของคนเมืองอยู่ในโซนนี้ ไม่ว่าจะมาร์เก็ตเพลส เจอเวนิว 8ทองหล่อ ซีนสเปซ 72คอร์ทยาด เพนนีบาโคนี เดอะคอมมอน เรียกว่า ไม่ต้องใช้รถในการเดินไปถึงไลฟ์สไตล์เหล่านี้!!

นอกจากนี้ทำเลต้อง “No Traffic” หรือมีระยะเซฟแบ็คต่ำสุด 7.50 เมตร จากถนนป้องกันเสียงและมลพิษเข้าถึง ส่วนในซอยที่มีรถผ่าน หรือถูกขนาบด้วยถนนแม้จะเดินได้ถึงย่านไลฟ์สไตล์แต่ไม่มีความเป็นส่วนตัว ดีที่สุด คือ "ซอยตัน” ที่จะป้องกัน "Surrounding" ซึ่งในโซนนี้คือผับ บาร์ สำนักงาน บ้านคน ฯลฯ

"La Citta Delre ทองหล่อ 16 อยู่ใน Walkable location ตรงข้ามเจอเวนิว อยู่ในเซ็นเตอร์ของไลฟ์สไตล์ และอยู่ในซอยตันเป็นที่ผืนสุดท้ายในซอย 250 เมตรเพียงพอต่อการป้องกันมลพิษทางเสียงและทางอากาศ ซึ่งยังได้ร่วมมือกับเขตวัฒนา และกรุงเทพมหานครในการพัฒนาพื้นที่สวนสาธารณะ โดยเลือกต้นมะฮอกกานีใบใหญ่เมื่อโตเต็มวัย (10ปี) จะสูง 20-25 เมตร ปกคลุมโครงการ"
จะเห็นว่า แนวคิดหลักของหงส์นครฯ ในการเลือกทำเลที่ถือเป็นยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการลงทุนไล่ตั้งแต่ภาพใหญ่ พิจารณา 3 องค์ประกอบได้แก่

“การเดินทาง” หรือการเข้าถึงของโครงข่ายคมนาคมต่างๆ แนวถนนตัดผ่านในอนาคต ตามด้วย “เทรนด์” ของผู้คนนิยมไปไหน ทำอะไร สุดท้าย “บิ๊กอินเวสเมนต์” ที่จะส่งผลต่อการขยายตัวของโอกาสธุรกิจเกี่ยวเนื่องมากมายในทำเลนั้นๆ เห็นได้ชัดจากโครงการลงทุนขนาดใหญ่หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯ อาทิ สนามบินสุวรรณภูมิที่เป็นแม่เหล็็กดึงดูดการลงทุนมาสู่กรุงเทพฯ ตะวันออก โครงการไอคอนสยาม ซึ่งเป็นบิ๊กอินเวสเมนต์ของฝั่งธนบุรี หรือการแจ้งเกิดวันแบงค็อก ของ “เจ้าสัวเจริญ” กระตุ้นการลงทุนย่านพระราม 4 กลับมาคึกคัก

เวลานี้ หงส์นครฯ ยังเตรียมที่ดิน "ทองหล่อ 4" รองรับการพัฒนาต่อเนื่อง คาดว่าจะขยายสู่โปรดักท์ไฮไรซ์ตามความเหมาะสมของพื้นที่นอกจากนี้ อยู่ระหว่างวางแผนพัฒนา “โครงการขนาดใหญ่” ที่อยู่อาศัยแนวราบ โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก ย่านสนามบินสุวรรณภูมิ ลงทุนไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาท คาดเดินหน้าโครงการได้ในปี 2564
“ย่านสุวรรณภูมิคือบิ๊กอินเวสเมนต์แห่งอนาคตที่จะมีการลงทุนหลายๆ ด้านตามมา มีโครงข่ายคมนาคมรองรับการเดินทางทุกรูปแบบ เป็นโลเคชั่นที่ไม่กระโดดจนเกินไป ทุกคนรู้จักว่าอยู่ตรงไหน จะเป็นโครงการระดับมาสเตอร์พีชในระยะ 10 ปีของหงส์นครเลยทีเดียว"

​นับเป็นการตอกย้ำความเชื่อมั่นในภาวะเศรษฐกิจและมั่นใจในศักยภาพประเทศไทยที่มองเรื่องของ “ดีมานด์” และ “ซัพพลาย” ในตลาดเป็นหลักมากกว่า ซึ่งพบว่าดีมานด์ในตลาดในตลาดค่อนข้างสูง แสดงถึงความต้องการ ย้อนกลับไปที่ปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดดีมานด์ นั่น คือ โครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐและเอกชน เมกะเทรนด์ และการขยายตัวของโครงข่ายคมนาคม ล้วนทำให้เกิดโอกาสธุรกิจและขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย