ยูนิเซฟและเซเลบดัง ชวนร่วมบริจาค  “บ้านแสนธรรมดา”

ยูนิเซฟและเซเลบดัง ชวนร่วมบริจาค  “บ้านแสนธรรมดา”

 

ยูนิเซฟและเซเลบดัง ชวนร่วมบริจาค  “บ้านแสนธรรมดา” เปลี่ยนความธรรมดาให้เป็นความพิเศษเพื่อเด็กขาดโอกาสทั่วไทย

บ้านที่มีน้ำไหลทุกครั้งที่เปิด มีทางเดินให้วิ่งเล่น มีแสงแดดส่องผ่านหน้าต่าง มีอ้อมกอด ของพ่อแม่รออยู่ที่บ้าน สิ่งต่างๆ เหล่านี้อาจเป็นความธรรมดาของใครหลายคน แต่สำหรับเด็ก อีกหลายล้านคน ความธรรมดา เหล่านี้ คือความพิเศษมากมายที่สามารถเติมเต็มความสุข ในชีวิตที่ขาดโอกาสให้กับพวกเขาเหล่านั้นได้

แสนสิริตระหนักดีว่ายังมีเด็กอีกหลายล้านชีวิตที่กำลังประสบปัญหามากมาย ไม่ว่าจะเป็นด้าน สุขภาพ การศึกษา ความรุนแรง และความปลอดภัยในเด็ก ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหา ที่สอดคล้องกับการทำงาน เพื่อสังคมของแสนสิริที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือเด็ก แสนสิริ เชื่อว่ารากฐานที่ดีเริ่มต้นได้ที่บ้าน และเด็กทุกคนควรได้รับปัจจัยพื้นฐานที่ดี เพราะเด็กคือรากฐาน ของสังคมที่ดี และสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมหรือ Social Change ได้ในอนาคต ซึ่งการมอบ โอกาสให้เด็กได้มีพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นถือเป็นเรื่องของเราทุกคน

“ในวาระครบ 7 ปีในการเป็นพันธมิตรหลักกับองค์การยูนิเซฟ แสนสิริจึงได้ริเริ่มแคมเปญ บ้านแสนธรรมดา โครงการระดมทุนออนไลน์เพื่อยูนิเซฟ โดยเริ่มต้นบริจาคเพียงคนละ 100 บาท เพื่อช่วยเหลือเด็กๆไทยที่ขาดโอกาสในการเข้าถึงปัจจัยพื้นฐานในการใช้ชีวิต ให้มีโอกาส ที่เท่าเทียมในการเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและเป็นสุขอย่างยั่งยืน นอกจากนี้ เรายัง ต้องการชี้ให้สังคมตระหนักถึงปัญหาเกี่ยวกับเด็กในวงกว้าง และอยากให้ทุกคนเข้ามามีส่วนร่วม ในการแก้ไขปัญหาไปด้วยกัน ซึ่งการมอบโอกาสให้เด็กได้มีพื้นฐานคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ถือเป็น เรื่องที่จำเป็นสำหรับเราทุกคนคุณสิรินทรา มงคลนาวิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวางแผนองค์กรและพัฒนาความยั่งยืน บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าว

ในฐานะคนรุ่นใหม่ และ Social Change Ambassador ของแสนสิริ คุณเพลง-กวิตา จินดาวัฒน์ กล่าวว่า เธอคิดว่าโครงการ “บ้านแสนธรรมดา” เป็นโครงการที่ดีมาก เพราะทำให้ การช่วยเหลือสังคมเป็นเรื่องง่าย ใกล้ตัว และทำได้สะดวก สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคน ยุคดิจิทัล โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีกับเริ่มต้นเพียง 100 บาท ก็ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือ สังคมให้ดีขึ้นได้

“เด็กด้อยโอกาสหลายคนไม่ได้เข้าโรงเรียน ไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่ได้รับการดูแลด้านสุขภาพที่ดี แต่เงินบริจาคเล็กๆ ของพวกเราจะทำให้เขามีสิ่งเหล่านี้ได้เหมือนเด็กทั่วไป ซึ่งมันคงพิเศษกับ พวกเขามากๆ และเพลงเชื่อว่า นอกจากเราจะช่วยทำให้พวกเขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ความช่วยเหลือที่เขาได้รับจากสังคมในวันนี้จะทำให้พวกเขารู้สึกอยากทำสิ่งดีๆ ตอบแทนสังคม ในวันหน้า” คุณเพลงกล่าว 

ด้านคุณสิงห์-วรรณสิงห์ ประเสริฐกุล ก็เห็นด้วยว่า โครงการ “บ้านแสนธรรมดา” เป็นโครงการ ที่ดี ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและให้โอกาสเด็กที่ขาดโอกาสทางสังคม ให้เติบโต เป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีความสุขมากขึ้น แล้ววันข้างหน้าเด็กเหล่านี้มีโอกาส จะนำพาโลกของเราไปสู่สิ่งที่ดีขึ้นได้

สำหรับ คุณช้างน้อย-กุญชร ณ อยุธยา จิตอาสาที่ร่วมโครงการช่วยเหลือเด็กกับแสนสิริ มาหลายครั้ง เล่าว่า ด้วยความเป็นคุณพ่อที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังเรียนรู้ที่จะมีปฏิสัมพันธ์ กับโลก และสังคม เขาจึงพยายามให้เวลากับลูกอย่างเต็มที่เพื่อสอน “วิชาชีวิต” ผ่านโลกที่เห็นและเป็นอยู่ รวมถึงส่งเสริมจิตสำนึกคิดเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ และจิตอาสาให้กับลูก เพราะเชื่อว่าเรื่องเหล่านี้ต้องปลูกฝังกันตั้งแต่เด็ก โดยสิ่งสำคัญคือ พ่อแม่ต้องเป็นต้นแบบที่ดี ให้กับลูก

“การฝึกจิตสาธารณะให้กับลูกก็ต้องเริ่มที่พ่อแม่ ต้องทำให้เขาดู และบอกเขาให้เข้าใจว่าการเป็น จิตอาสาสามารถทำได้ด้วยหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการนำความรู้ความสามารถของตน ไปทำ ประโยชน์ให้สังคม หรือบริจาคเงินและสิ่งของ ถ้าเราสร้างภาพให้เขาเห็นชัดว่าชีวิตเล็กๆ ของเขามี ประโยชน์ต่อผู้อื่น โตขึ้นเขาจะเข้าใจความหมายของการมีชีวิต สำหรับโครงการ บ้านแสนธรรมดา พ่อแม่ไม่เพียงปลูกฝังจิตสาธารณะให้กับลูกๆ ยังสามารถสอนลูกได้รู้ถึงคุณค่าของสิ่งธรรมดา ที่เขามี ขณะที่เด็กคนอื่นขาดแคลน พร้อมทั้งสอนให้รู้จักช่วยเหลือแบ่งปันคนที่ด้อยโอกาส ไปพร้อมกันได้ด้วย”

ทั้งนี้ โครงการ “บ้านแสนธรรมดา” จะเปิดรับบริจาคไปจนถึงสิ้นเดือนตุลาคมนี้ โดยทุกท่านสามารถมีส่วนร่วมในการบริจาคเพื่อช่วยเหลือเด็กที่ขาดโอกาสได้ โดยคลิกไปที่ www.sansiri.com/BaanSanThammada หรือสแกน QR Code นี้ เพื่อนำไปสู่ช่องทางการบริจาค