ออนิกซ์แต่งตั้งผู้จัดการทั่วไป โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์

ออนิกซ์แต่งตั้งผู้จัดการทั่วไป โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ประกาศแต่งตั้ง มร.ไมเคิล เกห์เลอร์ ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ

ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ประกาศแต่งตั้ง มร.ไมเคิล เกห์เลอร์ ดำรงตำแหน่ง ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ

 

ก่อนร่วมงานกับโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ไมเคิลเคยร่วมงานกับเครือโรงแรมรีเจ้นท์ โฮเต็ล แอนด์ รีสอร์ท ที่มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ เมืองไทเป ไต้หวัน โดยดำรงตำแหน่งผู้จัดการใหญ่ บริหารจัดการโครงการของโรงแรมในเครือฯ ที่ตั้งอยู่ในเวียดนาม ไต้หวัน อินโดนีเซีย และประเทศจีน

 

ไมเคิลเป็นนักบริหารการโรงแรมที่ชื่นชอบการรเดินทางท่องเที่ยว เขาสามารถสื่อสารได้หลายภาษา และมีความสนใจในเรื่องอาหารและเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก ไมเคิลมักจะการทำอาหารรับประทานเองที่บ้าน เขามีความสุขกับการไปเลือกซื้อวัตถุดิบด้วยตัวเอง และการปรุงอาหารรสเลิศให้เพื่อนและคนในครอบครัวของเขา ไมเคิลเริ่มทำงานในวงการอุตสาหกรรมการบริการในฐานะพ่อครัว เขาใช้เวลามากกว่าสิบปีในการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในงานโรงแรมด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก การปฏิบัติการ การขายและการตลาด รวมไปถึงการบริหารงาน ด้วยทักษะที่เชี่ยวชาญของเขาที่มีรอบด้าน ไมเคิลหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถทำให้โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ ประสบความสำเร็จยิ่งขึ้นไป

 

ไมเคิล เกห์เลอร์ กล่าวว่า “ผมรู้สึกตื่นเต้นและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของที่นี่ เป็นที่รู้กันดีว่า โอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ โดดเด่นเรื่องทำเลที่ตั้งที่อยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ รายล้อมไปด้วยสถานทูตของนานาประเทศ และยังใกล้สวนสาธารณะอันร่มรื่นอย่างสวนลุมพินีอีกด้วย อาคารโรงแรมที่สูง 32 ชั้น เป็นสถาปัตยกรรมที่ถูกออกแบบมาอย่างประณีตงดงาม เข้ากับสถานที่ตั้งได้อย่างลงตัว พร้อมทิวทัศน์ของสวนเขียวขจีที่หาได้ยากในตัวเมือง และด้วยความที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่นไม่ซ้ำใคร ทำให้ได้รับรางวัลมาแล้วมากมาย สร้างความประทับใจแก่แขกผู้มาเยือน เสมือนได้อยู่บ้านของตัวเอง ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้ร่วมงานกับทีมงานคุณภาพ เพื่อก้าวไปสู่อีกระดับของความเป็นเลิศ”

 

ไมเคิลเริ่มทำงานแวดวงโรงแรมในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นประเทศบ้านเกิดของเขา ในตำแหน่งผู้ช่วยเชฟ ที่ห้องอาหารโฟค์ซิน (Frohsinn) ณ เมืองอาเรา (Aarau) หลังจากนั้นเขาได้เติบโตในสายงานโรงแรมในหลากหลายตำแหน่ง ในปีพ.ศ. 2546 เขาได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้จัดการทั่วไปที่วิลล่า อิล เตโซโร่ (Villa il Tesoro) เมืองมาเรมมา (Maremma) ในแคว้นทัสคานี ประเทศอิตาลี ที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดของศิลปะสไตล์เรเนซองส์และสถาปัตยกรรมชื่อดังของโลก จุดประกายให้เขาหลงใหลในศิลปะแนววิจิตรศิลป์และประติมากรรม และในขณะที่ไมเคิลดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของโรงแรม เลอ เวียร์ มานัว เมอร์เทน (Le Vieux Manoir Murten) เขาได้เป็นเจ้าภาพจัดงานแสดงนิทรรศการศิลปะที่สวนกลางแจ้งของโรงแรม

 

หลังจากที่เขากลับมารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปในโรงแรม ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์อีกครั้ง เขาตัดสินใจเปิดโลกทัศน์ของเขาให้กว้างขึ้น ด้วยการทำหน้าที่รับผิดชอบการเปิดตัวโรงแรม และการบริหารจัดการโรงแรมระดับหรูหราขนาดต่างๆ ทั้งในฮ่องกง ไทย ไต้หวัน อินโดนีเซีย และจีน

 

ตลอดอาชีพการทำงานของเขา เป็นที่รู้กันดีว่าไมเคิลเป็นผู้ชื่นชอบด้านเทคโนโลยี ใส่ใจในทุกรายละเอียด และมีการสอนงานเพื่อพัฒนาบุคลากรอย่างมีประสิทธิภาพ เขาได้พิสูจน์ตัวเองโดยการสร้างทีมงานที่มีประสิทธิผลซึ่งมอบประสบการณ์พิเศษสำหรับผู้มาเยือน ที่สำคัญเขาเป็นผู้นิยมใช้โซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการเชื่อมต่อ สื่อสารและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับแขกที่เข้าพัก

 

อดีตนายจ้างและทีมงานของเขาต่างยอมรับในความสามารถในการทำความเข้าใจ มองเห็น และแก้ไขปัญหาด้านการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเน้นผลการดำเนินงานของเขา เขาเชื่อมั่นในคุณค่าของการฝึกอบรมและการพัฒนาบุคลากร เพื่อให้แขกได้รับความพึงพอใจสูงสุด พร้อมกันนี้ก็ใส่ใจเรื่องรายได้และการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ตลอดจนตระหนักถึงศักยภาพในการเติบโตและความเป็นผู้นำของสมาชิกในทีมของเขา

 

ด้วยประสบการณ์และความรู้ความสามารถอันเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมการโรงแรมของไมเคิล ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะสามารถนำพาโอเรียนเต็ล เรสซิเดนซ์ กรุงเทพฯ และ ออนิกซ์ ฮอสพิทาลิตี้ กรุ๊ป ให้ประสบความสำเร็จในด้านการบริการที่หรูหรามีระดับ ควรคู่กับรางวัลอันทรงเกียรติ