ตุนท์ มหาดำรงค์กุลกับวิชั่นต้องมูฟตัวเองก้าวทันโลกตลอดเวลา

ตุนท์ มหาดำรงค์กุลกับวิชั่นต้องมูฟตัวเองก้าวทันโลกตลอดเวลา

ผู้นำเข้าแบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น อาทิ โอริส (Oris) กุชชี่ (Gucci)  และ อิซเซ่ มิยาเกะ (Issey Miyake) สู่ตลาดเมืองไทย

 

ตุนท์ มหาดำรงค์กุล ทายาทรุ่นที่สี่ของตระกูล มหาดำรงค์กุล ผู้คลุกคลีกับธุรกิจการทำตลาดนาฬิกามานาน จนเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดี เขาเป็นบุตรชายคนโตของ  ภูริช-ดารารัตน์ มหาดำรงค์กุล แห่ง โทรคาเดโร กรุ๊ป บริษัทนาฬิกาชั้นนำ ผู้นำเข้าแบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และญี่ปุ่น อาทิ โอริส (Oris) กุชชี่ (Gucci)  และ อิซเซ่ มิยาเกะ (Issey Miyake) สู่ตลาดเมืองไทย พร้อมบริการหลังการขาย วอทช์ คลินิค (Watch Clinic) ระดับมาตรฐานสากล 

 

ธุรกิจขายนาฬิกาชื่อ โทรคาเดโร ไทม์ ถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดในการสร้างร้านขายนาฬิกาให้มีความพิเศษแตกต่างจากร้านขายนาฬิกา ทั่วๆ ไปคือเอาใจใส่ในการให้บริการทั้งก่อนและหลังการขาย ด้วยประสบการณ์ในการทำธุรกิจนาฬิกาที่สั่งสมมากว่า 50 ปี เริ่มตั้งแต่ปี พ.ศ. 2488 จากแผงรับซ่อมนาฬิกาเล็กๆ ณ ตรอก โทรคาเด โร ย่านถนนสุริวงศ์ผสมผสานกับความมุ่งมั่นตั้งใจจริง กลายเป็นก้าวที่มั่นคงมาจนถึงทายาทรุ่นปัจจุบัน

 

เขาเริ่มเข้ามาทำธุรกิจของตระกูลตั้งแต่อายุ 24 ปี หลังจากร่ำเรียนจบปริญญาตรีที่ เมลเบิร์น ยูนิเวอร์ซิตี้ ทางด้านเกษตรศาสตร์ และที่ได้ทำงานหาประสบการณ์ข้างนอกมาระยะหนึ่งที่ บริษัท พิคเวิร์ทที่ออสเตรเลีย หรือแม้แต่เคยฝึกงานที่โครงการหลวง สวนจิตรลดา และ บริษัท แปซิฟิค เฮลท์แคร์ ประเทศไทย จำกัด

 

แม้จะจบด้านเกษตรศาสตร์ แต่ในเชิงการบริหารธุรกิจก็ไม่เป็นรองใคร เขามีวิชั่นต้องมูฟตัวเองให้ก้าวทันโลกตลอดเวลา และยิ่งธุรกิจเป็นสินค้าที่เกี่ยวกับโลกแฟชั่น ยิ่งล้าหลังไม่ได้ และเหนือสิ่งอื่นใดสิ่งที่เขายึดถือจากคุณพ่อคุณแม่มาตลอด คือการให้เกียรติกับลูกค้าและคู่ค้าทุกท่าน ยึดหลักจริงใจให้เกียรติ นอกจากนี้ยังต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเข้าไว้

 

ในการทำงานที่ต้องดูนาฬิกาแฟชั่น เขาต้องใส่ใจกับพฤติกรรมผู้บริโภค และการตามให้ทันโลกโซเชี่ยล ไปพร้อมกับการรับมือด้วย CRM Data มีฐานข้อมูลลูกค้า มองถึงความชอบและไลฟ์สไตล์ ซึ่งปัจจุบันเขาดูแลบริหารงานแบรนด์ดีไซน์จากญีปุ่น คือ อิซเซ่ มิยาเกะ รวมถึงดูแลงานบริการหลังการขายของ วอทช์ คลินิค ( โดยมีน้องสาว เตย มหาดำรงค์กุล ช่วยดูแลบริหารงานแบรนด์นาฬิกาฝั่งสวิส คือ โอริส และกุชชี่)

 

มุมมองต่อบุคคลอันน่าทึ่งของโลก เขามองไปที่แจ๊กหม่า มหาเศรษฐีชาวจีนชื่อดังเจ้าของอาลีบาบา ตุนท์มองว่าทำไมแจ๊กหม่าถึงพูดว่าร้องไห้ไม่ได้สตังค์ นั่นเพราะการจะได้มาซึ่งสิ่งต่างๆต้องอดทนต้องขยัน มานั่งเศร้าก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร

 

หรือแม้แต่อาโนลด์ ชวาสเนกเกอร์ ที่สร้างตัวเองจากดาราฮอลลีวูดมาเป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งความอดทนของเขานั้นไม่เพียงการสร้างร่างกายให้ใหญ๋โต แต่ยังมีปรัชญาการทำงานหลายอย่างที่น่าทึ่งมาก

 

จากเรื่องธุรกิจ เราได้มีโอกาสติดตามตุนท์ ซึ่งร่วมกับตระกูลสีบุญเรืองไปสร้างความเจริญให้บ้านเกิดที่หนานจิ้ง ประเทศจีน ตุนท์บอกว่า เนื่องจากทางคุณแม่คือดารารัตน์ มหาดำรงค์กุล นั้นนามสกุลเดิม สีบุญเรือง กล่าวว่า บรรพบุรุษของตนที่มาจากเมืองจีนคือเซียว ฮุดเส็ง สีบุญเรือง  เจ้าของบรรณาธิการโรงพิมพ์หนังสือพิมพ์ภาษาไทย/จีน ยุคแรก พศ.2450 ปลายรัชกาลที่ 5 มาจากหนานจิ้ง จึงได้ร่วมคณะมาที่นี่  ดีใจที่ได้ย้อนมาดูรากเหง้าของต้นตระกูล ได้เห็นถิ่นกำเนิดของตัวเอง และได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคนพื้นที่ ได้เห็นการทำพิธีต่างๆแบบจีนโบราณ

 

ตุนท์บอกว่า คนเรานั้นไม่ควรลืมแผ่นดินเกิดของบรรพบุรุษ หากตอบแทนด้วยสิ่งใดได้ เขาจึงร่วมกับสมาคมนักธุรกิจหนานจิ้งประเทศไทย  สมาพันธ์ชาวหนานจิ้งประเทศไทย นำโดย คุณฉฏา และดร.อรรชากา สีบุญเรือง พาคนในตระกูลและสื่อมวลชนไปท่องเที่ยวเมืองหนานจิ้ง ประเทศจีน เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยว ชมและสัมผัสแหล่ง "วัฒนธรรมมรดกโลก - บ้านดิน หนานจิ้ง และเกาะเปียโน ตามนโยบาย One Belt one road"  ที่เที่ยวที่อะเมซิ่งมากคือบ้านดินหนานจิ้ง ซึ่งคณะกรรมการมรดกโลกได้ขึ้นทะเบียนบ้านดินให้เป็นเป็นมรดกโลก และในปี 2011 ที่นี่ได้รับการจัดอันดับจากการท่องเที่ยวประเทศจีนในระดับ 5A (AAAAA) หรือระดับสูงสุดของที่เที่ยวในจีน   

 

อาจจะเป็นบทสนทนาสั้นๆ แต่หนุ่มคนนี้มีหลายอย่างที่ชวนค้นหา นับเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ก้าวยืนมาได้อย่างมั่นคงอีกคนหนึ่ง