บสย. คาดมี 100 กิจการ เข้าเกณฑ์ค้ำประกันฯ

บสย. คาดมี 100 กิจการ เข้าเกณฑ์ค้ำประกันฯ

รัฐไฟเขียว กิจการเพื่อสังคมและวิสาหกิจชุมชน หนุนสินเชื่อ-ค้ำประกัน ดึง ออมสิน-ธ.ก.ส. ออกสลากเพื่อสังคม วงเงิน 2,000 ล้านบาท

 

 

รัฐบาลไฟเขียวนโยบายส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม แก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม  ผนึก 3 หน่วยงานรัฐ  ธนาคารออมสิน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกสลากเพื่อสังคม ระดมทุน 2,000 ล้านบาท ปล่อยสินเชื่อ  ดึง บสย.ค้ำประกัน คาดมี 100 กิจการเข้าเกณฑ์ เตรียมระดมทุน 12-31 ส.ค. นี้

ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม และประธานคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (คกส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมผ่านโครงการ “สลากเพื่อสังคม”ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ออกสลากจำนวน 2,000 ล้านบาท นำมาเป็นสินเชื่อสำหรับกิจการเพื่อสังคมและวิสาหกิจชุมชนนอกจากนี้ คกส. ยังได้ออกมาตรการสร้างระบบรับรองคุณสมบัติกิจการเพื่อสังคม ให้นิติบุคคลสามารถลงทะเบียนและขอใบรับรองได้จากสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติด้วย เพื่อให้กิจการที่ได้รับการรับรองสามารถยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารทั้งสองแห่งได้ 

นายณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.) กล่าวว่า กิจการเพื่อสังคม และวิสาหกิจชุมชน เป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่กิจการจำนวนมากยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน  เนื่องจากกลไกปกติของธนาคาร มักไม่ปล่อยกู้หรือปล่อยในอัตราสูงกับกิจการเพื่อสังคมที่มีต้นทุนค่อนข้างสูง และได้ส่วนต่างกำไรต่ำเมื่อเทียบกับกิจการทั่วไป

ปัจจุบัน สกส. มีรายชื่อกิจการเพื่อสังคมในระบบฐานข้อมูล จำนวน 480 กิจการ และมี 169 กิจการมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ได้รับการรับรอง และคาดว่าจะมี กิจการเพื่อสังคม 100 กิจการ เข้าถึงแหล่งทุน จากโครงการนี้ โดยจะครอบคลุมเครือข่ายชุมชนผู้ได้รับประโยชน์กว่า 10,000 คน  รวมถึง กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม ที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการนี้อีกกว่า  1,000 กิจการ ครอบคลุมเครือข่ายชุมชนผู้ได้รับประโยชน์กว่า 50,000 ครัวเรือน

“โครงการสลากเพื่อสังคมนี้จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ต้องการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม นอกจากการบริจาคแล้ว มาตรการสลากเพื่อสังคมจะช่วยให้เกิดระบบส่งเสริมกันอย่างยั่งยืน” นายณัฐพงษ์กล่าว

สำหรับสลากดังกล่าวพร้อมเปิดจำหน่าย ระหว่างวันที่ 12-31 สิงหาคม 2558 เพื่อระดมทุนสร้างระบบสินเชื่อพิเศษให้กับกิจการเพื่อสังคม ในวงเงินสูงสุดธนาคารละ 1,000 ล้านบาท หรือรวม 2,000 ล้านบาท

 

 

นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ทางธนาคารรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมโครงการการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมตามหลักพันธกิจหลักของออมสินคือ การให้ประชาชนเข้าถึงบริการ ช่วยให้กิจการรายเล็กเข้าถึงแหล่งเงินทุน สลากนี้จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนได้ออมทรัพย์ด้วยพร้อมกับการส่งเสริมการพัฒนาสังคมในเวลาเดียวกัน  โดยธนาคารมีโปรแกรมสินเชื่อหลายกลุ่ม อาทิ สินเชื่อสำหรับกลุ่มองค์กรชุมชนหรือองค์กรพัฒนาเอกชน หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เป็นสมาชิกสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท (สพช.) กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs  สินเชื่อทุกประเภทข้างต้น คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากันคือร้อยละ 5-7 ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระที่ดี ตรงเวลา ครบ 1 ปี ธนาคารจะคืนดอกเบี้ยให้ร้อยละ 1 ของปีถัดไป

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวว่า ธนาคารในฐานะรัฐวิสาหกิจ ดำเนินนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อสังคม และหวังว่านโยบายนี้จะช่วยพัฒนากิจการที่ต้องการแก้ปัญหาสังคมได้ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของธนาคาร คือกิจการผลิตหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ กิจการพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม ระบบบริการสาธารณะท้องถิ่น อัตราดอกเบี้ยสำหรับกิจการเพื่อสังคมที่ได้รับการรับรอง เทียบเท่าเงินกู้ MLR 5% บวกส่วนต่างไม่เกิน 2% ต่อปี ทั้งเงินกู้หมุนเวียนและเงินกู้ลงทุน ในกรณีผู้กู้สามารถคืนได้ตามกำหนด ธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้กู้ร้อยละ 1 ต่อปี ดำเนินการทุกสาขาทั่วประเทศ 

นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า  บสย. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ด้านการค้ำประกันสินเชื่อ พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาล เพื่อช่วยผู้ประกอบการเข้าถึงแหล่งทุน แก้ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม  โดยครั้งนี้จะได้ประสานการทำงานร่วมกับธนาคารออมสินและธ.ก.ส.ในการค้ำประกันสินเชื่อ

“โครงการนี้เป็นโครงการใหม่ล่าสุดของบสย. คือการขยายกลุ่มค้ำประกันกลุ่มใหม่ซึ่งไม่เคยทำมาก่อน คือกลุ่มกิจการเพื่อสังคม  ซึ่งจากการรวบรวมของ สกส. ในจำนวน 480 กิจการเพื่อสังคมนั้น  และจำนวนกิจการที่เข้าเกณฑ์การรับรองจาก สกส. จำนวน 169 กิจการ  โดยบสย.คาดว่าจะมีกิจการเพื่อสังคม ที่ บสย.สามารถให้ความช่วยเหลือด้านการค้ำประกันได้ จำนวน 100 กิจการ ทั้งนี้โครงการนี้ ยังเป็นการจุดประกายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดขยายธุรกิจ ยกระดับองค์กร โดยมี บสย. เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อให้ธุรกิจเพื่อสังคมได้รับเงินเพียงพอต่อความต้องการ “

ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังอยู่ในระหว่างการผลักดันพระราชบัญญัติเพื่อส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมที่กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของ ครม. โดยจะเพิ่มเติมมาตรการสำคัญให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น ระบบการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อสังคมของภาครัฐและเอกชน การจัดตั้งกองทุนเพื่อกิจการเพื่อสังคม ระบบภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจ อันจะช่วยส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

ข้อมูลติดต่อเพิ่มเติม  กรวิกา วีระพันธ์เทพา (บุ้ง) สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม [email protected] โทร.089-6638343

ชนิญญา สันสมภาค 081-860-7477 ศรัณยู ตันติเสรี 086-7972525